สาวขวัญเสีย เล่านาที พลุปีใหม่ พุ่งใส่ผมไหม้ กลางวงหมูกระทะ ผวาตัวสั่น คนข้างๆโดนพลุล้มระเบิดใส่เต็นท์ งงไปแจ้งเจ้าของที่พัก กลับบอกควบคุมยาก

กรณีคลิปของผู้ใช้ติ๊กต็อกชื่อว่า “_mamayyy29” โพสต์เรื่องราวที่ตั้งใจไปกางเต็นท์เคานต์ดาวน์ แต่กลับโดนพลุระเบิดใส่จนผวา พร้อมระบุว่า “พอกันทีกับภูทับเบิก เรากะว่าจะมาดูพลุสวยๆ ไม่คิดว่าจะขายกันเกลื่อน จุดกันเกลื่อนขนาดนี้ ไอ้จุดหนะไม่ได้ว่าหรอก แต่จุดไม่เป็นแล้วมาเดือดร้อนชาวบ้านนี่รับผิดชอบไหวมั้ย ให้เจ้าหน้าที่เขาจุดตอนเคานต์ดาวน์ทีเดียวก็จบ นี่เล่นจุดทั้งวันทั้งคืนไม่พักเลย จุดพร่ำเพรื่อมาก เดินไปบอกคนดูแลก็ไม่ได้สนใจอะไรนะ จนเกิดเหตุกับเราอีกรอบ เราขวัญผวานั่งร้องไห้สั่นข้ามปี เต็นท์พี่ข้างๆโดนพลุล้มใส่ระเบิดใส่เต็นท์ เต็นท์ขาด น้องหมาวิ่งหนีตายวุ่น พอละครั้งสุดท้าย #ภูทับเบิก อันตรายพลุ #พลุ”

 

@_mamayyy29

พอกันทีกับภูทับเบิก เรากะว่าจะมาดูพลุสวยๆ ไม่คิดว่าจะขายกันเกลื่อน จุดกันเกลื่อนขนาดนี้ ไอ้จุดหนะไม่ได้ว่าหรอก แต่จุดไม่เป็นแล้วมาเดือดร้อนชาวบ้านนี่รับผิดชอบไหวมั้ย ให้เจ้าหน้าที่เขาจุดตอนเคาท์ดาวน์ทีเดียวก็จบ นี่เล่นจุดทั้งวันทั้งคืนไม่พักเลย จุดพร่ำพรื่อมาก เดินไปบอกคนดูแลก็ไม่ได้สนใจอะไรนะ จนเกิดเหตุกับเราอีกรอบ เราขวัญผวานั่งร้องไห้สั่นข้ามปี เต็นท์พี่ข้างๆโดนพลุล้มใส้ระเบิดใส่เต็นท์ เต็นท์ขาด น้องหมาวิ่งหนีตายวุ่น พอละครั้งสุดท้าย #ภูทับเบิก อันตรายพลุ #พลุ

♬ เสียงต้นฉบับ – เม – เมธิ

ความคืบหน้า เมื่อวันที่ 2 ม.ค.67 คุณธิดาพร อินประสิทธิ์ หรือ เม เจ้าของคลิป เปิดเผยกับ “ข่าวสดออนไลน์” ว่า เมื่อวันที่ 30 ธ.ค. ที่ผ่านมา ตนไปเที่ยวภูทับเบิกเพื่อตั้งใจที่จะไปเคานต์ดาวน์แล้วดูพลุที่นั่น ซึ่งปีก่อนหน้านี้ ตนก็เคยไปเคานต์ดาวน์ที่ภูทับเบิกมาแล้ว แต่ปีนี้ที่พักเดิมเต็ม เลยได้มาพักที่นี่แทน ซึ่งเป็นจุดกางเต็นท์เหมือนกัน

เมื่อเข้าพักกางเต็นท์เรียบร้อย เย็นวันนั้นตนก็นั่งกินหมูกระทะอยู่กับแฟนที่หน้าเต็นท์ ในระหว่างนั้นก็มีคนจุดพลุกันเรื่อยๆ แต่ในขณะเดียวกันก็มีพลุล้มพุ่งมาระเบิดตรงที่นั่งอยู่ ทำให้สะเก็ดพลุหล่นใส่หมวกแฟน และพุ่งเข้าที่ผมตนจนผมไหม้ แต่โชคดีที่ไม่โดนเต็นท์

ต่อมาวันที่ 31 ธ.ค.66 เขาก็เริ่มจุดกันอีก ซึ่งคนที่จุดเป็นคนที่พักอยู่ด้านบนบ้านพัก ที่อยู่บนจุดกางกางเต็นท์ของตนอีกที ตอนนั้นตนเห็นว่ามันเป็นพลุอันใหญ่มาก พอเขาจุดแล้วก็วางทิ้งไว้ แต่เหมือนว่าพลุมันล้ม ก็เลยพุ่งเข้าไปในเต็นท์พี่ที่อยู่ข้างๆ ตน แล้วทะลุออกไประเบิดด้านหน้าเต็นท์ ซึ่งติดกับเต็นท์ตนเลย ด้านในเต็นท์มีน้องหมา 2 ตัว น้องหมาก็ตกใจมากวิ่งหนีกระเจิง ซึ่งโชคดีที่พลุทะลุเต็นท์ไประเบิดด้านหน้า ไม่อย่างนั้นถ้าระเบิดข้างในก็น่าจะอันตราย เพราะว่าเป็นพลุใหญ่

“ตอนนั้นเริ่มสติเสีย ไม่มีสติอยู่กับเนื้อกับตัวแล้ว เพราะว่าโดนพลุมา 2 วันเต็มๆ จึงเดินไปแจ้งกับเจ้าของที่พัก บอกว่ามีการจุดพลุทำพฤติกรรมแบบนี้ จนอาจเกิดอันตราย แต่ทางด้านเจ้าของบอกว่า เป็นพฤติกรรมที่ควบคุมได้ยาก ซึ่งหนูก็งง และเห็นว่าเจ้าของที่พักเองนั้นยังขายพลุอีกด้วย ซึ่งที่พักที่อยู่ด้านบนลานกางเต็นท์ก็จุดตลอดเวลา ไม่สนใจเลยว่า ด้านล่างจะโดนสะเก็ดที่ร่วงหล่นลงมาโดนเต็นท์หรือโดนคนนั่งอยู่เลย และถ้าเกิดว่าเป็นอะไรไปมากกว่านี้ ก็ไม่รู้ว่าจะต้องไปเอาค่าเสียหายจากใคร” คุณธิดาพร กล่าว

คุณธิดาพร กล่าวต่อว่า ตนกับแฟนทำอะไรไม่ถูก สั่นไปหมด และร้องให้เอาผ้ามาคลุมหัวทุกครั้งที่มีคนจุดพลุ แล้วก็ร้องไห้กรี๊ดอยู่ในผ้าห่ม ซึ่งคนที่เข้าพักนั้นก็จุดพลุเรื่อยๆจุดพร่ำเพรื่อ ซึ่งโดยปกติที่ตนเคยไปก็จะมีแค่พลุเล็กๆไม่คิดว่านักท่องเที่ยวจะสามารถจุดพลุใหญ่แบบนั้นได้ด้วย ซึ่งมันควรจะเป็นเจ้าหน้าที่ ที่มีความรู้และป้องกัน และจุดแค่เป็นช่วงเวลาเท่านั้น แต่นี่ทุกคนต่างคนต่างจุดกันเยอะมาก

คุณเม กล่าวเพิ่มเติมว่า ผ่านมาจนถึงวันนี้ตนยังสั่นอยู่เลย ตนเป็นคนที่ชอบดูพลุมาก มันกลายเป็นว่าสร้างปมให้กับตน ทำให้คนชอบดูพลุมีปมในใจ พอได้ยินเสียงดังก็ระแวงไปหมด มันรู้สึกว่ากลัว สั่นไปหมด และเสียความรู้สึกมาก โดยเขาเริ่มจุดกันตั้งแต่ 2 ทุ่มของวันที่ 30 พอวันที่ 31 เขาก็เริ่มจุดตั้งแต่ 1 ทุ่มไปเรื่อยๆยาวไปจนถึงตี 1 ก็ยังไม่หยุดจุด

ซึ่งตนมองว่าถ้าสมมติว่าจุดแล้วเขาไม่สามารถที่จะรับผิดชอบความปลอดภัยของคนอื่นได้ ไม่สามารถที่จะรับผิดชอบอุปกรณ์ข้าวของเครื่องใช้ของคนอื่นได้ก็ไม่ควรจะจุดตั้งแต่แรก แต่ก็จะโทษเขาฝ่ายเดียวไม่ได้ เพราะว่ามันมีคนขาย เขาก็คงอยากจะจุด เพราะว่ามันเป็นเทศกาล คงอยากเฉลิมฉลอง แต่เขาควรจะนึกถึงใจคนอื่นบ้าง เพราะว่าทรัพย์สินไม่ใช่ถูกๆ และถ้าวันนั้นพุงเข้าตาตน เพราะว่ามันเฉียดแว่นหรือมันลงใส่หัวแฟนของตนแล้วมันระเบิด จะรับผิดชอบกับสิ่งที่มันเกิดขึ้นยังไง ซึ่งแน่นอนว่าเรื่องนี้มันจับมือใครดมไม่ได้ เพราะว่ามันไม่มีใครรับ

“เห็นมาหลายๆเหตุการณ์แล้วนั้นก็ควรที่จะให้เจ้าหน้าที่หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้ามาควบคุมเรื่องนี้อย่างจริงจัง ไม่ใช่ว่าใครก็จุดได้ เพราะว่ามันเป็นวัตถุไวไฟใครจะไปเล่นกับดินปืน ดินระเบิดมันก็อันตรายหมด ขนาดโรงงานพลุยังระเบิดได้ แต่นี่ขายกันเกลื่อนไปหมด

เจ้าหน้าที่ควรที่จะรับรู้เรื่องนี้ และหามาตรการควบคุมป้องกันไม่ให้มีการซื้อขายง่ายๆ ควรจะป้องกันการเกิดเหตุการณ์แบบนี้ ไม่ใช่ว่าวัวหายแล้วล้อมคอก รอมีอะไรเกิดขึ้นก่อน ถ้าวันนั้นมันล้มแล้วพุ่งเข้าป่าเกิดไฟป่าขึ้นมา จะทำยังไงแล้วตอนกลางคืนภูทับเบิกไม่ใช่จะลงกันมาง่ายๆ” คุณธิดาพร กล่าว

สุดท้ายนี้ ปีหน้าตนก็คงไม่กล้าไปดูพลุที่แบบนี้แล้ว ซึ่งเมื่อก่อนตนเป็นคนที่ไม่ชอบการไปพักในอุทยาน เพราะว่าเขาห้ามไม่ให้จุดพลุ และสงสัยทำไมถึงต้องห้ามไม่ให้จุดพลุ พอตอนนี้กลับรู้สึกว่าเข้าใจแล้วว่าทำไมเขาถึงห้ามจุด เพราะว่ามันอันตราย แล้วมันถ้าจะไปเที่ยวจริงๆ ก็คงจะต้องหาที่พักที่ไม่สามารถให้จุดพลุเองได้ เลือกไปที่ที่เจ้าหน้าที่เป็นคนจุดควบคุมมากกว่า ไม่ใช่จุดเกลื่อนแบบนี้

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน