กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์อากาศ 7 วันรายภาค ระหว่าง 3–9 ก.พ. อีสาน-กลาง-ตะวันออก-ใต้ เจอฝน กทม.โดนด้วย ตอนเช้ายังหนาวเย็น อุณหภูมิลดลง

เมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 3 ก.พ.2567 กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์อากาศ 7 วันรายภาค ระหว่างวันที่ 3–9 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2567

ช่วงวันที่ 3–8 ก.พ.67

บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นที่ปกคลุมประเทศไทยตอนบนมีกำลังอ่อน ประกอบกับลมฝ่ายตะวันตกในระดับบนพัดปกคลุมภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน

ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยตอนบนมีหมอกในตอนเช้า โดยภาคเหนือมีอากาศเย็นถึงหนาวในตอนเช้า ส่วนภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีอากาศเย็นในตอนเช้า

ในขณะที่ลมใต้และลมตะวันออกเฉียงใต้พัดปกคลุมประเทศไทยตอนบน ทำให้ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล และภาคตะวันออกมีฝนเล็กน้อยบางแห่ง

สำหรับลมตะวันออกและลมตะวันออกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้มีกำลังอ่อน ลักษณะเช่นนี้ทำให้ภาคใต้มีฝนน้อย แต่ยังคงมีฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้นได้บางพื้นที่

ส่วนคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยและทะเลอันดามันมีกำลังอ่อน โดยอ่าวไทยตอนล่างมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 1 เมตร อ่าวไทยตอนบนและทะเลอันดามันมีคลื่นต่ำกว่า 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 1 เมตร








Advertisement

ส่วนวันที่ 9 ก.พ.67

บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังปานกลางระลอกใหม่จากประเทศจีนจะแผ่ลงมาปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือและทะเลจีนใต้ ประกอบกับมีลมตะวันออกและลมตะวันออกเฉียงใต้พัดปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง และภาคตะวันออก

ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณดังกล่าวมีฝนฟ้าคะนองกับมีลมกระโชกแรงบางแห่งในระยะแรก หลังจากนั้นอุณหภูมิจะลดลงกับมีลมแรง โดยภาคตะวันออกเฉียงเหนืออุณหภูมิจะลดลง 1-2 องศาเซลเซียส

สำหรับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้จะมีกำลังแรงขึ้น ทำให้ภาคใต้มีฝนเพิ่มขึ้น และมีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณตอนล่างของภาค ส่วนคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยจะมีกำลังแรงขึ้น โดยอ่าวไทยตอนล่างมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูง 1–2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร

ข้อควรระวัง

ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลรักษาสุขภาพ เนื่องจากสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลง และเพิ่มความระมัดระวังในการสัญจรผ่านบริเวณที่มีหมอกไว้ด้วยตลอดช่วง

ในวันที่ 9 ก.พ. 67 ขอให้ประชาชนบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออกระวังอันตรายจากฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรงที่อาจเกิดขึ้น ส่วนชาวเรือบริเวณอ่าวไทยควรเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองไว้ด้วย

คาดหมายอากาศรายภาค ระหว่างวันที่ 3–9 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2567

ภาคเหนือ

ในช่วงวันที่ 3–6 ก.พ.67 อากาศเย็นถึงหนาวกับมีหมอกในตอนเช้า และอุณหภูมิจะลดลง 1–3 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 11–22 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30–36 องศาเซลเซียส

บริเวณยอดดอยมีอากาศหนาวถึงหนาวจัด และมีน้ำค้างแข็งบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 3-12 องศาเซลเซียส ลมตะวันตก ความเร็ว 5–15 กม./ชม.

ส่วนในช่วงวันที่ 7–9 ก.พ.67 อากาศเย็นถึงหนาวกับมีหมอกในตอนเช้า และอุณหภูมิจะสูงขึ้น 1–3 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 13–24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31–36 องศาเซลเซียส

บริเวณยอดดอยมีอากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 5-15 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 5 – 15 กม./ชม.

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

ในช่วงวันที่ 3–8 ก.พ.67 อากาศเย็นกับมีหมอกในตอนเช้า และอุณหภูมิจะลดลง 1–2 องศาเซลเซียส โดยมีฝนเล็กน้อยบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 18 – 24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32–37 องศาเซลเซียส

บริเวณยอดภูมีอากาศเย็นถึงหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 12-17 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 5–15 กม./ชม.

ส่วนในวันที่ 9 ก.พ.67 มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงที่ในระยะแรก หลังจากนั้นอุณหภูมิจะลดลง 1–2 องศาเซลเซียส โดยมีอากาศเย็นในตอนเช้ากับมีลมแรง อุณหภูมิต่ำสุด 16–22 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-35 องศาเซลเซียส

บริเวณยอดภูมีอากาศเย็นถึงหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 10-16 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15–35 กม./ชม.

ภาคกลาง

ในช่วงวันที่ 3–4 ก.พ. 67 อากาศเย็นกับมีหมอกในตอนเช้า และอุณหภูมิจะสูงขึ้น 1–2 องศาเซลเซียส โดยมีฝนเล็กน้อยบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 22–26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32–36 องศาเซลเซียส

ส่วนในช่วงวันที่ 5–9 ก.พ. 67 อากาศเย็นกับมีหมอกบางในตอนเช้า และอุณหภูมิจะลดลง 1–2 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 21–25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33–36 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 5–15 กม./ชม.

ภาคตะวันออก

มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10-20 ของพื้นที่ตลอดช่วง

ในช่วงวันที่ 3–4 ก.พ. 67 มีหมอกในตอนเช้า และอุณหภูมิจะสูงขึ้น 1–2 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 23–27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31–36 องศาเซลเซียส

ส่วนในช่วงวันที่ 5–9 ก.พ. 67 อากาศเย็นกับมีหมอกบางในตอนเช้า และอุณหภูมิจะลดลงเล็กน้อย
อุณหภูมิต่ำสุด 22–26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32–36 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นต่ำกว่า 1 เมตร

ภาคใต้(ฝั่งตะวันออก)

มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10-20 ของพื้นที่ตลอดช่วง อุณหภูมิต่ำสุด 22–26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31–36 องศาเซลเซียส

ส่วนในช่วงวันที่ 4–8 ก.พ. 67 ลมตะวันออกความเร็ว 10-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นต่ำกว่า 1 เมตร บริเวณฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 1 เมตร

ในวันที่ 9 ก.พ. 67 ตั้งแต่จังหวัดสุราษฎร์ธานี ขึ้นมา ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร

ตั้งแต่จังหวัดนครศรีธรรมราช ลงไป ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร

ภาคใต้(ฝั่งตะวันตก)

มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10–20 ของพื้นที่ตลอดช่วง ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นต่ำกว่า 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร และบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 1 เมตร อุณหภูมิต่ำสุด 22–26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33–37 องศาเซลเซียส

กรุงเทพและปริมณฑล

ในช่วงวันที่ 3–4 ก.พ. 67 มีหมอกในตอนเช้า และอุณหภูมิจะสูงขึ้นอีกเล็กน้อย โดยมีฝนเล็กน้อยบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 24–27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32–36 องศาเซลเซียส

ส่วนในช่วงวันที่ 5-9 ก.พ. 67 มีหมอกบางในตอนเช้า และอุณหภูมิจะลดลงเล็กน้อย อุณหภูมิต่ำสุด 23–26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33–36 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 5–15 กม./ชม.

กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์อากาศ 7 วัน รายภาค

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน