ดราม่า พ่อโวยโรงเรียนแข่งกีฬาสีเด็ก ให้ขึ้นเวทีล่อนจ้อน เพื่อแข่งกันใส่เสื้อผ้า สุดท้ายโดนผู้ปกครองคนอื่นรุมว่า แค่แข่งกันสนุกๆ ไม่เห็นเป็นอะไร
เรื่องสิทธิเด็กมีความเข้าใจมากขึ้นว่าอะไรบ้างที่ทำได้หรือทำไม่ได้แต่ก็ยังเกิดเป็นดราม่าขึ้นเมื่อโรงเรียนแห่งหนึ่งมีกิจกรรมให้เด็กแข่งใส่เสื้อผ้า
โดยเพจตามติดชีวิตแม่บ้านแขกได้นำมาเผยแพร่ต่อซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่คุณพ่อท่านหนึ่งได้เข้าไปปรึกษาในกลุ่มจิตวิทยาเด็กครอบครัวและขอคำปรึกษาเรื่องการเลี้ยงลูก
คุณพ่อท่านนี้ระบุว่า ขอความคิดเห็น กีฬาสีโรงเรียน มีการแข่งขันใส่เสื้อผ้า โดยเอาเด็กอายุ 4-5 ขวบทั้งชายหญิงขึ้นเวทีแล้วแก้ผ้าเด็กชายล่อนจ้อนเด็กหญิงเหลือแต่กางเกงในต่อหน้าผู้ปกครองนักการฯและคนอื่นๆนับร้อย
ครูจับลูกสาวอายุ 4 ขวบกว่าขึ้นเวทีแทนเด็กอีกคนที่หาไม่เจอแล้วแก้ผ้าออกเลยเหลือแต่กางเกงในโดยไม่แจ้งผู้ปกครองถึงกติกาเกมส์การแข่งขันผมจึงไปแสดงความไม่พอใจกับโรงเรียนโดยไม่ได้หยาบคาย
ทั้งนี้ ผู้ปกครองที่อ่าน มีมาตอบกลับแบบจะเอาอะไรกันมากมาย เกมส์เล่นเพื่อความสนุก ไม่ใช่เพื่อในอับอายซะหน่อย และก็ขึ้นแฮชแท็ก #SAVEครู กันใหญ่
คุณพ่อเลยมาถามว่า นี่เค้าทำผิดเหรอ?
Advertisement
โดยเพจ ตามติดชีวิตแม่บ้านแขก ได้แสดงความเห็นว่า “ ตอบให้ พ่อไม่ผิดค่าาาา นาทีที่มาจับเด็กแก้ผ้าต่อหน้าสาธารณชนแบบนี้ ในต่างประเทศครูโดนถูกจับ สถานที่นั้นควรโดนปิด ไล่ออกให้หมด แล้วไม่ให้ข้องเกี่ยวกับระบบการศึกษาอีก
เพราะมันละเมิดสิทธิเด็กอย่างรุนแรง เป็นชั้นจะสู้จนตัวตาย
ปัญหาของคนที่ SAVE ครู คือเข้าใจสิทธิเด็ก และเรื่องการสอนให้ลูกรู้จักปกป้องร่างกาย ในส่วนที่เป็น Private parts ไม่พอ คุณปล่อยให้เค้าแก้ผ้าแก้ผ่อนในที่สาธารณะเพื่อความสนุก?
คุณไว้ใจได้ยังไงว่าคนอื่นจะมองเด็กอย่างเอ็นดู ไม่ใช่ความรู้สึกอื่น คุณจะรู้ได้ยังไง ว่าไม่มีใครถ่ายภาพลูกคุณไปลงในโซเชียลให้มี Digital footprint และจะไม่มีใครเซฟภาพไปใช้ทำอะไรไม่ดีต่อ
คุณจะมั่นใจได้ยังไงว่า ลูกๆของคุณจะเข้าใจว่าการถูกถอดเสื้อผ้าโดยคนอื่นที่ไม่ใช่ตัวเอง หรือพ่อแม่เป็นเรื่องปกติ ได้มีโอกาสเป็นพ่อเป็นแม่คนแล้ว คิดให้มันเยอะๆด้วย ไม่ใช่เอาสนุก แต่คิดถึงผลร้ายมากมายที่มัน “อาจจะ” เกิดขึ้นกับลูกที่เรารักด้วยค่ะ
SAVE ผิดคนแล้วค่า SAVE ลูกตัวเองที่ขึ้นไปบนเวทีเถอะค่ะ ส่วนพ่อ ทำถูกค่ะ ชอบตรงที่เมื่อรู้สึกว่าไม่โอเค ไม่ใช่ละ เอาเรื่องไปคุยกับทางโรงเรียนทันที และน่าจะแจ้งความเรียบร้อยแล้วจากคอมเมนต์ที่พ่อตอบกลับค่ะคุณ
ป.ล. ส่วนตัวเป็นคนไม่เห็นด้วยกับไลน์กรุ๊ปที่ครูมาคุยรวมกับ ผปค. เลยนะ ถ้า ผปค. ด้วยกันว่าไปอย่าง เผื่ออัพเดตงานอะไรในโรงเรียน แต่มีครูแล้วมาส่งภาพลูก มาคุยอะไรแบบนี้ ส่วนตัวไม่คิดว่ามันเป็นช่องทางที่ถูกต้อง เวลาจะติดต่อครู น่าจะเป็นการส่งอีเมล์ หรือโทรคุยผ่านทางโรงเรียนมากกว่าค่ะ“
