สุดจึ้ง ‘น้องออกัส’ ใส่บิกินี เดินสับริมทะเล แม่ซัพพอร์ตเต็มที่ ขอให้ลูกเป็นตัวของตัวเอง ทำแล้วมีความสุข ไม่วายเจอถามเลี้ยงลูกยังไงให้เป็นตุ๊ด

ภายหลังเพจเฟซบุ๊ก ครอบครัว Augustzii ได้โพสต์คลิปสุดน่ารักของลูกชาย ‘น้องออกัส’ ใส่ชุดบิกินีสีชมพู เดินฟูลเทิร์นริมชายหาด พร้อมระบุแคปชั่นว่า “อายไหมแต่งตัวแบบนี้”ขณะที่น้องออกัสตอบว่า “ไม่อาย เราเป็นตัวของเรา”

ด้านแม่ก็บอกกับน้องว่า “หนูทำในสิ่งที่หนูโอเค แม่ก็รู้สึกแฮปปี้มากๆ เลยนะ สิ่งที่แม่ซัพพอร์ตลูกทั้งสอง จะเป็นอะไรก็ได้ แม่ไม่เคยซีเรียสเลย แล้วแม่ก็ไม่แคร์คำพูดใครทั้งสิ้น แค่ให้หนูเป็นตัวของตัวเอง แล้วมีคนชมว่าน้องน่ารัก แค่นี้แม่ก็ยิ้มแฮปปี้แล้ว”

ขณะที่น้องออกัสพูดว่า “ถ้ามีใครมาว่าหนู หนูไม่สนใจหรอกค่ะ เพราะเราเป็นตัวของตัวเองดีที่สุดแล้ว” ด้านแม่บอกน้องอีกว่า “แม่ขอให้หนูเติบโตมีพลังบวกเยอะๆ นะคะ”

หลังเผยแพร่คลิปวิดีโอนี้ออกไปก็มีคนเข้ามาชื่นชมความน่ารักของน้องออกัสเป็นจำนวนมาก พร้อมชื่นชมครอบครัวที่ซัพพอร์ตในสิ่งที่น้องเป็น แต่มิวายมีคนดราม่าถาม เลี้ยงลูกยังไงให้เป็นตุ๊ด

เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 7 พ.ค. 2567 น.ส.ศศิธร ผดุงเดช หรือจิฟ แม่น้องออกัส หรือ ด.ช.สิทธา กลิ่นแย้ม อายุ 9 ปี เปิดเผยกับ “ข่าวสดออนไลน์” ว่า วันนั้นตนพาน้องออกัสไปถ่ายงาน ซึ่งลูกค้าบรีฟมาว่าอยากได้ฟีลไปทะเล และให้แต่งตัวตามสไตล์น้องเลย ตนเลยเลือกชุดให้ลูก พอลูกเห็นชุดก็ดีใจ แล้วก็สะบัดชุดเดินริมทะเล

แม่น้องออกัส กล่าวต่อว่า ระหว่างที่กำลังเดินอยู่นั้น ก็มีคนเดินมองเขาเยอะมากตลอดทั้งหาด มีทั้งคนที่ชม ยิ้มให้ ตนเลยถามลูกว่า “อายไหมลูกที่แต่งตัวแบบนี้” เพราะตนอยากจะเรียกความมั่นใจให้ลูก ถ้าหากลูกอายเราก็จะได้บอกลูกว่า “ไม่ต้องอายลูก เพราะว่าเรามาทะเล เป็นตัวของตัวเองของตัวเอง” แต่พอลูกตอบกลับมาว่า “ไม่อาย หนูเป็นตัวเอง” ตนก็รู้สึกใจฟูขึ้นมา

แม่น้องออกัส กล่าวอีกว่า ตนสนับสนุนลูกให้เป็นตัวเองแบบนี้มาตั้งแต่ลูกเรียนอยู่ชั้นอนุบาล 3 หรือประมาณ 5 ขวบ พอตนรู้ว่าออกัสเป็นเด็กที่ชัดเจนต่อความรู้สึกของตัวเอง ตนเลยสนับสนุนมาเรื่อยๆ ไม่ได้บังคับให้เป็นหรือทำคอนเทนต์ใดๆ ตนอยากสนับสนุนไม่ว่าลูกจะทำอะไร อยากทำอะไรทำ อยากใส่อะไร หรืออยากแต่งหน้า แต่ต้องอยู่ในขอบเขต

แม่น้องออกัส กล่าวต่อว่า ตนจะคอยสอนเขาว่าถ้ายังไม่ถึงวัยก็อย่าเพิ่งทำ มันอาจจะยังไม่น่ารัก คอยบอกคอยเตือนเขาเสมอ เขาก็รู้สึกภูมิใจในตัวเองเวลาที่ทำงานแล้วได้เงิน เพราะตนจะคอยสอนเขาว่า ผลของการเป็นตัวเองและตั้งใจทำงานมันเป็นยังไง เพราะส่วนใหญ่ที่ลูกค้ามาจ้างก็เนื่องมาจากตัวตนของน้องออกัสและครอบครัวเรา เลยทำให้เขามีความสุขในการทำงานตั้งแต่ยังเด็ก เพราะเขาได้เป็นตัวของเขาเอง ตนจึงอยากขอบคุณลูกค้าและผู้ใหญ่ทุกคนให้โอกาสน้องและครอบครัวตนด้วย

ส่วนที่มีคนมาคอมเมนต์บอกว่า “เลี้ยงลูกยังไงให้เป็นตุ๊ดให้เป็นกะเทย” แม่น้องออกัส กล่าวว่า ตนรู้สึกงงเพราะก็เลี้ยงลูกมาปกติ เราบังคับใครให้เป็นตามใจไม่ได้อยู่แล้ว ไม่สามารถกำหนดเพศลูกได้ อยู่ที่ฮอร์โมนอารมณ์ และจิตใจของเขา แต่พอเรารับรู้และเข้าใจแล้ว ก็ไม่สนใจคำพูดใครอีกเลย เพราะตนเชื่อว่าถ้าเราเป็นเกราะป้องกันให้ลูกได้ ก็จะไม่มีใครสามารถทำร้ายลูกได้

แม่น้องออกัส กล่าวอีกว่า ตนจะไม่ให้ลูกดูคอมเมนต์สักเท่าไหร่ ส่วนใหญ่ก็มีแต่คนชื่นชม เพราะคนที่ติดตามคือคนที่ชื่นชอบในตัวตนของครอบครัวและน้องออกัสจริงๆ แต่คนที่คอมเมนต์ในแง่ลบคือคนที่ไม่รู้จักเรามากกว่า ตนจึงไม่ซีเรียส

แม่น้องออกัส กล่าวต่อว่า สุดท้ายนี้ตนมองว่าการเลี้ยงลูกไม่มีคำว่าผิดหรือถูก แต่อยู่ที่ว่าเราจะเลี้ยงลูกยังไงให้อยู่ในพื้นฐานของความอบอุ่นและความรัก ตนภูมิใจในตัวลูกมาก และดีใจที่ทั้งครอบครัว ทั้งคุณพ่อคุณตายาย คุณปู่คุณย่า ไม่มีใครปิดกั้นน้อง ที่สำคัญคือซัพพอร์ตน้องทุกคน

แม่น้องออกัส กล่าวอีกว่า ตนมองว่าไม่มีอะไรแน่นอน โตขึ้นอาจจะไม่ได้เป็นแบบนี้ก็ได้ เพราะฉะนั้นตนจะสอนลูกเสมอว่าอยากทำอะไรให้ทำเลย เพราะเราย้อนเวลากลับไปไม่ได้ วันนี้เรารู้ตัวเองแล้วอยากทำอะไรก็ทำไปเลย เพราะคนเป็นแม่ก็แค่อยากเห็นลูกมีความสุขแค่นั้น

 

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน