ชี้สะกดจิตหมู่ เหตุผบก. กาญจน์หลังเชื่อครู-เจ๊ ผบ.ตร.แถลงดำเนินคดีผู้การ ทั้งอาญาและวินัย หลังพบพัวพันสำนวนคดีหวย 30 ล้าน ส่วนบช.ภาค 7 ก็ต้องตรวจสอบ หากมีความผิดก็ต้องดำเนินการ แต่คดีนี้กลัดกระดุมผิดตั้งแต่ต้น ต่อมาเลยมีปัญหา ฐิติราชระบุเป็นเพราะความเชื่อ เมื่อเชื่อว่าหวยเป็นของครู ก็เลยทำสำนวนไปให้เข้าทาง ยันไม่มีทุจริต แต่วุฒิภาวะต่ำ ขาดประสบการณ์ ขาดทักษะ จน กอดคอไปกับครูปรีชา ยอมรับมีการเสนอผลประโยชน์ให้ แต่ความผิดยังไม่สำเร็จ ด้านครูปรีชาลาป่วยไม่ไปโรงเรียน ส่วนบ้านพัก ก็ปิดเงียบ

เมื่อเวลา 13.50 น. วันที่ 9 มี.ค. ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. พล.ต.ท.ฐิติราช หนองหารพิทักษ์ ผบช.ก. พล.ต.ต.ชวลิต แสวงพืชน์ รองผบช.ก. พล.ต.ต.กมล เหรียญราชา ผบก.ปปป. และ พล.ต.ต.สุรศักดิ์ สุขแสวง ผู้บังคับการกองวินัย แถลงความคืบหน้าการคลี่คลายคดีการ อ้างสิทธิเป็นเจ้าของสลากกินแบ่งรัฐบาล หมายเลข 533726 งวดประจำวันที่ 1 พ.ย.2560 รางวัลที่ 1 มูลค่า 30 ล้านบาท เป็นข้อพิพาทกันระหว่างร.ต.ท.จรูญ วิมล อดีตข้าราชการตำรวจ กับนายปรีชา ใคร่ครวญ ครูชำนาญการพิเศษ โรงเรียนเทพมงคลรังษี จ.กาญจนบุรี

โดยพล.ต.อ.จักรทิพย์ กล่าวว่า ที่ผ่านมายืนยันแล้วว่าคดีหวย 30 ล้านบาท หากมีข้าราชการตำรวจเข้าไปเกี่ยวข้องก็จะไม่ละเว้น ไม่มีมวยล้มต้มคนดู ซึ่งขณะที่บช.ก.ก็ดำเนินคดีกับพล.ต.ต.สุทธิ พวงพิกุล ผบก.ภ.จว.กาญจนบุรีแล้ว ส่วนเรื่องจะต้องตรวจสอบ บช.ภาค 7 ที่ตั้งทีมสืบสวนแล้วสรุปว่าสลากเป็นของนายปรีชา ถ้ามีมูลก็ต้องตรวจสอบ ให้ดูที่ผลของกรรมการจะสรุป ไม่มีการแทรกแซง แต่กรณีนี้ในส่วนตำรวจถ้าพูดภาษาเราๆ ก็คือติดกระดุมเม็ดบนผิด เม็ด 2 เม็ด 3 ก็ผิดหมด ซึ่งเริ่มต้นที่เมืองกาญจน์

“ยืนยันใครทำผิดกฎหมายไม่ว่าเป็นตำรวจ หรือชาวบ้านก็ว่าไปตามกระบวนการ ไม่ได้กังวล เรื่องกฎหมายมันช่วยกันไม่ได้ ส่วนเรื่องวินัย ก็ว่าไปตามกระบวนการ ขั้นตอนไม่มีการละเว้น หากกรรมการสืบสวนสอบสวนสรุปอย่างไร ก็จะออกคำสั่งไปตามที่เสนอมา” พล.ต.อ.จักรทิพย์กล่าว

พล.ต.ต.กมลกล่าวว่า พนักงานสอบสวนเกี่ยวข้องกับคดีนี้ถูกดำเนินคดีตามที่ พล.ต.ต. ไมตรี ฉิมเฉิด ผบก.ป.มาร้องทุกข์ว่าการสอบสวนคดีดังกล่าวมีการสอบสวนที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย จึงให้ดำเนินคดีกับพล.ต.ต.สุทธิ ส่วนพนักงานสอบสวนอีก 2 นาย เห็นว่าการที่จะดำเนินคดีกับพล.ต.ต.สุทธิ ต้องมีพยานระบุการกระทำผิด จึงเสนอพล.ต.ท.ฐิติราช และมีความเห็นกันไว้เป็นพยาน ขณะนี้มีการดำเนินคดีเจ้าหน้าที่ตำรวจเพียงคนเดียว คือพล.ต.ต.สุทธิ

พล.ต.ต.กมลกล่าวอีกว่า ทั้งนี้จากการสอบสวนแล้วพบว่ามีการเปลี่ยนแปลง แก้ไข คำให้การที่เป็นประเด็นสาระสำคัญ อาทิ เรื่องวันเวลา สถานที่เกิดเหตุ มีการยืนยันลอตเตอรี่ว่าอยู่กับครูปรีชา และแก้คำให้การให้มันสอดคล้องต้องกัน สำนวนแก้มาตลอด จึงไม่ชอบด้วยกฎหมาย

พล.ต.ท.ฐิติราชกล่าวว่า คดีนี้ตอนแรก ร.ต.ท.จรูญให้การอะไรไม่ได้เลย จำอะไร ไม่ได้เลย ขณะที่นายปรีชา เป็นครู มีพยานรองรับหลายปาก คำให้การสอดคล้องต้องกัน น่าเชื่อถืออย่างยิ่ง แต่ตำรวจทำงานด้วยความเชื่อไม่ได้ ร.ต.ท.จรูญตัดโอกาสตัวเอง ไม่มีพยาน ไม่ชี้แจง แต่เมื่อคนมาโต้แย้งกรรมสิทธิ์ ก็ต้องใช้แนวการสืบสวนต่างๆ แต่ไม่ขอเปิดเผยในรายละเอียด สมมติว่าที่กล่าวอ้างมาทั้งหมดเป็นเท็จ แสดงว่าอีกฝ่ายหนึ่งถูก เป็นหลักการตรรกะเบื้องต้น

“3 คนที่เกี่ยวข้องกับที่เกิดเหตุ ถือว่ามีคำตอบให้กับสังคมแล้ว ศาลออกหมายจับไปแล้ว 2 คน เนื่องจากจากสืบสวนตำรวจ พบคำให้การเป็นเท็จหมด แต่ไม่ขอเปิดเผยรายละเอียด สำหรับผบก.จว.กาญจนบุรี เกิดขึ้นจากความเชื่อเริ่มต้น ตำรวจไม่ควรทำงานด้วยความเชื่อ เรื่องความเชื่อถูกทำให้เชื่อมาหลายครั้งด้วยคำให้การ เป็นข้อสังเกต ให้เป็นอุทาหรณ์ไม่อยากให้สร้างความวุ่นวายในสังคม เรื่องแบบนี้ ไม่ควรเกิดขึ้นกับสังคม ผู้การกาญจนบุรีไม่ได้ทุจริต เพียงแต่ทำงานด้วยวุฒิภาวะที่ต่ำ ขาดประสบการณ์ ขาดทักษะการทำงานด้านการสืบสวนสอบสวน จึงให้ผู้การกาญจนบุรีกอดคอไปด้วยกับครูปรีชา คำตอบเรื่องนี้มีเท่านี้ เริ่มต้นไม่ทุจริตเลย” พล.ต.ท.ฐิติราชกล่าว

ผบช.ก. กล่าวต่อว่า แต่หลังจากนั้นก็มีการเปลี่ยนแปลงคำให้การ เพราะเริ่มต้นจาก ความเชื่อ ถือเป็นเรื่องที่ผิด ส่วนประเด็นการอายัดบัญชีธนาคารของคนที่ถูกลอตเตอรี่ ผิดไหม ก็จะเปรียบเทียบให้ฟังคดีที่ จ.สุพรรณ บุรี พนักงานสอบสวนไม่ได้อายัดเงิน คนที่นำลอตเตอรี่ของป้านำเงิน 6 ล้านหนีออกไปต่างประเทศ ข้อหาลักทรัพย์ ลักของโจร อันนั้น ไม่ได้อายัดบัญชี แต่ที่เมืองกาญจน์ ผิด ถูก กฎหมายอีกเรื่อง แต่เงินไม่ไปไหน ดอกเบี้ยวิ่งปกติ เงินบัญชี จะถูกหรือผิดค่อยว่ากันอีกที ก็ลองพิจารณาดู 2 เรื่องเปรียบเทียบกันดู ที่ จ.สุพรรณบุรี เสียหายเรียบร้อยแล้ว ป้าไม่ได้เงินสักบาท นี่คือเป็นสิ่งที่สังเกต

พล.ต.ท.ฐิติราชกล่าวอีกว่า ครั้งแรกที่ทำคดี เข้าใจว่าน่าจะมีเบื้องหน้าเบื้องหลัง เช่นคนขายลอตเตอรี่นำลอตเตอรี่จากกองสลาก ผ่านยี่ปั๊ว ซาปั๊ว มาถึงแผง อาจจะรู้ว่าลอตเตอรี่ของตัวเองที่อยู่ในแผงมีรางวัลที่ 1 จึงสร้างสถานการณ์ แต่ทั้งหมดที่เกิดเรื่องทุกคดีมีแค่นี้เอง ผู้ขาย ผู้ซื้อ อายัดก็ผิด ไม่อายัดก็ผิด ต้องทำอย่างไรดี เป็นข้อสังเกตว่าต่อไปต้องมีการคุยกันหลายส่วน ไม่ให้เกิดเหตุอีก จะได้ปฏิบัติกันถูกทุกๆ ฝ่าย ไม่ว่าจะเป็นกองสลาก ธนาคาร เจ้าหน้าที่ตำรวจ และผู้ที่ขายลอตเตอรี่ ต้องมาจัดระเบียบกันใหม่หมดเลย

พล.ต.ท.ฐิติราชกล่าวอีกว่า ผบก.กาญจนบุรี เชื่อว่าครูปรีชาถูก จากนั้นก็มีกระบวนทำสำนวนให้มีหลักฐาน สั่งฟ้องไปที่อัยการ ก็คือคำให้การของบุคคลที่เกี่ยวข้อง ที่มีการปรับเปลี่ยนให้กลมกลืน พยายามทำให้สำนวนพ้นตัวตำรวจ มีหลักฐานพอฟ้อง ให้ไปสู้กันที่ศาล นี่เป็นเรื่องบกพร่อง ในความเป็นจริงเรามีปัญหาอะไรก็เชื่อจากคนใกล้ตัว เช่น เชื่อ พี่น้อง พ่อ แม่ นี่เป็นคดีใช้ความเชื่อไม่ได้ แต่ทั้งหมดก็ยังไม่สร้างความกระจ่าง นักจิตวิทยายังตอบได้ว่าใครจริงใครปลอม ตำรวจไม่อยากให้ใครมาติดคุกเลย อย่างที่บอกมันเป็นความเชื่อในพื้นที่นั้นๆ เหมือนสะกดจิตหมู่ ส่วนผบก.กาญจนบุรี ตอนนี้หลังจากคุยกัน ได้สติแล้วว่าทำอะไรลงไป ดีขึ้นเยอะ

พล.ต.ท.ฐิติราชกล่าวว่า ส่วนการเรียก ร.ต.ท.จรูญ ไปคุยที่บ้าน ก็เพราะความเชื่อว่าฝั่งหนึ่งถูก ฝั่งหนึ่งผิด พูดให้ถอยเพื่อเปิดทาง แต่จริงๆ แล้วมันไม่ใช่ เป็นฝั่งที่ถูก พูดเยอะไม่ได้ เกรงว่าจะเสียผลทางคดี หลายคนที่เป็นกองเชียร์ก็ตามดูอยู่ มีการกล่าวร้ายการทำงานของตำรวจกองปราบฯ ตนก็บอกให้ตำรวจอดทน พยายามไม่ออกหมายจับ ถ้ามีเหตุควรเชื่อก็ออกหมายเรียก มารับทราบข้อกล่าวหาไป

เมื่อถามว่ากรณีนี้มีเรื่องผลประโยชน์มาเกี่ยวข้องหรือไม่ ทำให้ทำคดีเช่นนี้ พล.ต.ท. ฐิติราช กล่าวว่า มันมีการเสนอ แต่เจ้าตัวก็ ไม่ได้รับในส่วนนั้นหรอก เรื่องนี้ไม่ขอเปิดเผย แค่นี้พอแล้ว เขาพยายามเสนอ แต่ไม่ได้กล่าวว่าเป็นใคร

เมื่อถามว่า เป็นการเสนอส่วนแบ่งหรือไม่ พล.ต.ท.ฐิติราชกล่าวว่า ครับก็ประมาณ อย่างนั้น เป็นเรื่องในสำนวน

พล.ต.ต.สุรศักดิ์กล่าวถึงการดำเนินการทางวินัยกับพล.ต.ต.สุทธิ ว่า จะมีคำสั่งให้พักราชการหรือออกจากราชการไว้ก่อนหรือไม่ อยู่ที่ดุลพินิจของผู้บังคับบัญชา ที่ผ่านมากรณีที่ข้าราชการตำรวจต้องคดีอาญามาตรา 157 ผู้มีอำนาจ หรือผู้บังคับบัญชาจะมีคำสั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อน แต่กรณีนี้อยู่ที่ข้อเท็จจริงและดุลพินิจ

ที่จ.กาญจนบุรี นายปรีชา คู่กรณีหวยอลเวง ได้ลาป่วยไม่ไปคุมสอบที่โรงเรียนเทพมงคล รังษี ขณะที่บ้านพักก็ปิดเงียบ ไม่มีความเคลื่อนไหวใดๆ เช่นเดียวกับที่บ้านของนางรัตนาพร สุภาทิพย์ หรือเจ๊บ้าบิ่น ก็ปิดเงียบเช่นกัน ขณะที่เจ๊เกียวหรือนางปณัญชยา สุขพูล ยังคงมาขายสลากในวัดไชยชุมพลชนะสงครามตามปกติ แต่ไม่ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชน ระบุว่าเป็นเรื่องชั้นศาล ต้องรอผลการพิจารณาคดี

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน