วิสามัญฯ “โยลาย” นักค้ายา บ้าเหิมยิงแหวกวงล้อมตำรวจ หลังก่อเหตุสุดอุกอาจแหกห้องขังศาลจังหวัดน่านหนีทั้งตรวน ตำรวจควานหาตัวอยู่ 4 วัน จนพบกำลังบึ่งเก๋งป้ายแดงเข้าตัวเมืองจึงตามไล่ล่า แต่ไม่ยอมจำนนยิงปืนใส่เจ้าหน้าที่ก่อนหวังเบิกทางหลบหนี แต่สุดท้ายไม่รอดกลายเป็นผีเฝ้าถนน
เมื่อวันที่ 12 มี.ค. พ.ต.ท.อุทัย วงค์คำแสน รอง ผกก.สส.บก.ภ.จว.น่าน เรียกประชุมตำรวจชุดปฏิบัติการพิเศษ วางแผนกระจายกำลังออกไล่ล่าตัวนายอดิเรก ชมภูรส อายุ 36 ปี ฉายา “โยลาย” เนื่องจากมีลายสักเต็มตัวผู้ต้องหาคดียาเสพติดที่หลบหนีจากห้องขังใต้ถุนศาลจังหวัดน่าน ขณะเจ้าหน้าที่นำตัวมารอขึ้นศาลฟังคำตัดสินคดี ในสภาพถูกคล้องโซ่ตรวน โดยผู้ต้องหา งัดโซ่ขาดวิ่งหนีไปทางวัดช้างค้ำวรวิหาร ชิงรถจักรยานยนต์ของนายบรรจบ จันทอง รอง ผอ.โรงเรียนนันทบุรีวิทยา ปริยัติธรรม หลบหนีไป เมื่อวันที่ 8 มี.ค.ที่ผ่านมา
พ.ต.ท.อุทัยเปิดเผยว่า จากการตรวจสอบพบประวัตินายอดิเรกพบการเชื่อมโยงกับกลุ่มค้ายาเสพติดใน จ.น่าน หลายกลุ่ม โดยเฉพาะในพื้นที่ อ.เวียงสา และพบว่ามีบุคคลให้การช่วยเหลือในการหลบหนี โดยพบว่ามีการซื้อโทรศัพท์และข้าว รวมถึงอาวุธเตรียมไว้ ขณะนี้ได้เบาะแสความเคลื่อนไหวแหล่งกบดาน ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ได้แบ่งกำลังออกเป็น 3 ชุด บุกตรวจค้นที่บ้านร้างแห่งหนึ่งในต.ขึ่ง อ.เวียงสา หลังมีประชาชนแจ้งเบาะแสพบเห็นบุคคลลักษณะคล้ายผู้ต้องหาหลบหนี และกระจายกำลังเข้าปิดล้อมตรวจค้นที่สวนแห่งหนึ่งใน ต.ผาสิงห์ หลังติดตามและพบความเคลื่อนไหวกลุ่มยาเสพติดที่เชื่อมโยงกับผู้ต้องหาที่หลบหนี
ต่อมาเวลา 14.00 น. เจ้าหน้าที่รับแจ้งพบนายอดิเรกกำลังขับรถยนต์มาสด้า 2 สีแดง ทะเบียนป้ายแดง พ 7221 กรุงเทพ มหานคร มุ่งหน้าเข้าเขต อ.เมืองน่าน จึงกระจายกำลังออกปิดล้อมพื้นที่และติดตามไล่ล่า กระทั่งทันกัน เจ้าหน้าที่จึงแสดงตัวสั่งให้จอดรถ แต่คนร้ายไม่ยอมใช้อาวุธปืนยิงเบิกทางพยายามขับรถหนีเข้าไปในซอยร่วมพัฒนา หน้าวัดพญาวัด ต.ตู่ใต้ อ.เมืองน่าน เจ้าหน้าที่จึงระดมยิงใส่รถสกัดการหลบหนี จนรถคนร้ายจอดนิ่งอยู่กลางลานดินริมถนน หลังรถคนร้ายจอดนิ่งอยู่พักใหญ่ เจ้าหน้าที่จึงเข้าไปตรวจสอบ พบว่านายอดิเรกถูกกระสุนปืนของเจ้าหน้าที่ เสียชีวิตคาพวงมาลัย
พ.ต.อ.สุธรรม ชาติอาษา รอง ผบก.ภ.จว.น่าน พร้อมอัยการจังหวัดน่าน แพทย์เวรร.พ.น่าน เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง ร่วมกันตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุและชันสูตรพลิกศพ เบื้องต้นพบว่าผู้ต้องหาถูกยิงเสียชีวิตบริเวณที่นั่งคนขับรถ และมีอาวุธปืนลูกซองสั้นไทยประดิษฐ์ตกอยู่ที่เท้า 1 กระบอก จึงนำศพผู้ต้องหาไปชันสูตรพลิกศพอย่างละเอียดอีกครั้งที่ร.พ.น่าน อย่างไรก็ตาม พ.ต.อ. สุธรรมให้เจ้าหน้าที่ชุดวิสามัญฆาตกรรมคนร้ายทำรายงานเหตุการณ์ทั้งหมดอย่างละเอียด ก่อนจะแถลงข่าวอย่างเป็นทางการอีกครั้ง
ต่อมาเวลา 17.00 น. พล.ต.ต.ภาณุเดช บุญเรือง รองผบช.ภาค 5 ตรวจสอบเหตุวิสามัญนายอดิเรก กล่าวชื่นชม เป็นขวัญกำลังใจแก่เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการพิเศษ ที่ทุ่มเททำงานอย่างเต็มที่ ในการเร่งติดตามตัวคนร้ายในคดีนี้ เพื่อสร้างความมั่นใจ ความปลอดภัยให้แก่ประชาชนเมืองน่าน พร้อมแถลงข่าว ที่ห้องประชุมตำรวจภูธรจังหวัดน่าน
พล.ต.ต.ภาณุเดช เผยว่า นายอดิเรกมีคดีที่ต้องโทษยาเสพติดหลายคดี มีโทษจำคุกรวม 50-75 ปี อาจเป็นแรงจูงใจให้ผู้ต้องหาพยายามหลบหนี ขณะนี้ทางศาลจังหวัด น่าน ร่วมกับทางเรือนจำจังหวัดน่าน กำลังร้องทุกข์กับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ กรณี ผู้ต้องหาหลบหนีออกจากศาล ซึ่งมีการปลดโซ่ตรวนข้อเท้า ต้องมีการตั้งคณะกรรมการสอบสวนร่วมกัน 3 ฝ่าย คือ ศาลจังหวัดน่าน เรือนจำจังหวัดน่าน และตำรวจภูธรจังหวัดน่าน ในประเด็นโซ่ตรวนข้อเท้า การตรวจสอบก่อนนำตัวมาขึ้นศาล และช่วงรออยู่ใต้ถุนศาลเพื่อรอฟังคำตัดสิน ซึ่งการหลบหนีถือเป็นการละเมิดอำนาจศาล อย่างไรก็ตามต้องตรวจสอบตั้งแต่เรื่องโซ่ตรวนข้อเท้าของผู้ต้องหา จนถึงความแข็งแรงของห้องควบคุมของศาล และตำรวจ เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ ว่ามีความหละหลวมหรือปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มความสามารถ รัดกุมหรือไม่
ในส่วนการวิสามัญนายอดิเรก ขณะนี้มอบหมายสั่งการให้ตั้งคณะทำงานเพื่อสอบสวนการปฏิบัติการดังกล่าว โดยต้องสอบสวน 3 สำนวน คือ การตรวจสอบในที่เกิดเหตุ ผู้ต้องหามีอาวุธปืนที่ขึ้นไกปืนพร้อมยิง มียาเสพติดยาบ้ากว่า 200 เม็ด ยาไอซ์จำนวนหนึ่ง พร้อมด้วยอุปกรณ์การเสพ และผู้ต้องหามีการต่อสู้ขัดขวาง และสำนวนสอบสวนเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการ ว่าการป้องกันตัวจนถึงแก่การวิสามัญเป็นการกระทำที่เกินกว่าเหตุหรือไม่ ประกอบกับสำนวนการชันสูตรพลิกศพ ทั้งนี้เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมแก่ทุกฝ่าย
