จากละครฟีเวอร์ บุพเพสันนิวาส มีอีกหนึ่งตัวละคร ที่ใกล้จะออกมาปรากฏให้เห็น คือ พระปีย์ หรือ ออกพระปีย์ โอรสบุญธรรมในพระนารายณ์ ที่รับบทโดย นักร้องหนุ่มมากความสามารถ เก่ง ธชย

พระปีย์ มีตัวตนจริงในประวัติศาสตร์ และมีบทบาทสำคัญ นามพระปีย์ มีความหมายว่า ผู้เป็นที่รัก เป็นบุตรชายของขุนไกรสิทธิศักดิ์ เป็นขุนนางผู้น้อยในเมืองพิษณุโลก พระปีย์ได้เข้าถวายตัวแด่สมเด็จพระนารายณ์มหาราชด้วยวัยที่ยังเล็ก และมีรูปร่างพิการตัวเตี้ยและหลังค่อม จึงทำให้พระนารายณ์ทรงเรียกว่า อ้ายเตี้ย ด้วยความที่พระปีย์พูดจาไพเราะเสนาะหูทำให้พระนารายณ์ทรงโปรดและเอ็นดูเป็นที่สุด โดย พระปีย์ มีส่วนร่วมในการก่อกบฏมักกะสัน จนทำให้ถูกลอบฆ่าโดยการผลักตกจากหน้าต่างและโดนสำเร็จโทษโดยพระเพทราชา 18 พฤษภาคม 2231 ซึ่งอีกไม่นานละครจะเดินเรื่องมาถึงพระปีย์ และจะได้โชว์ขับเสภาด้วย

ส.สีมา ผู้เขียนในศิลปวัฒนธรรม อ้างถึงในจดหมายเหตุฯ ถึง พระปีย์ และเขียนถึง พระปีย์ ในฐานะ เหยื่อรัฐประหาร ผู้เป็นราชบุตรบุญธรรมที่โปรดปรานของสมเด็จพระนารายณ์ แต่ตกเป็นเหยื่อรัฐประหาร โดยพระเพทราชาและหลวงสรศักดิ์ ผู้กระทำการเป็นฝ่ายชนะ พระปีย์ตกเป็นเหยื่อ ถูกประหารชีวิต เป็นรัฐประหารเมื่อวันที่ ๑๘ พฤษภาคม ๒๒๓๑ อันเป็นรัฐประหารยุคแรกๆ ของชาวสยามที่รู้จักกันดีในต่างประเทศ

พระปีย์ เป็นบุตรของขุนไกรสิทธิศักดิ์ แห่งบ้านแก้ง พิษณุโลก ได้รับการดูแลอบรมบ่มเลี้ยงแบบชาววังและแบบแผนแห่งราชบุตรมาตั้งแต่เด็ก ทรงรับชุบเลี้ยงเชิดชูให้เป็นราชบุตรบุญธรรม อาจเรียกว่าเป็นราชโอรสในอุดมคติ (เล่ากันว่า พระยาวิไชยเยนทร์ เป็นข้าราชการในอุดมคติ เหมือนกันคือ ขยันขันแข็ง เอาจริงเอาจัง เฉลียวฉลาด) หากแต่ว่าพระปีย์เป็นคนร่างเตี้ย แต่ก็ทรงเรียกขานอย่างรักใคร่ว่า “มาย ชอร์ตี้” (my shorty) หรือ “อ้ายเตี้ย” ที่จงรักภักดี รับใช้ใกล้ชิด หลับนอนแทบฐานพระแท่นบรรทม เฝ้าคอยประคับประคองให้ทรงลุกนั่งบนพระที่

สำหรับพระปีย์เอง สมเด็จพระนารายณ์ทรงสนับสนุนให้ได้ราชสมบัติ (หรืออย่างน้อยๆ ก็ได้ครองเมืองพิษณุโลก หัวเมืองเอกทางเหนือ) และได้รับการยกย่องสูงมากดุจมกุฎราชกุมาร เช่น เมื่อเวลาเสด็จทางสถลมารค พระปีย์ก็มีช้างส่วนตัว ไม่ต้องตั้งแถวหมอบกราบเหมือนขุนนางคนอื่นๆ

สำหรับพระเพทราชา แรกๆ เป็นความสัมพันธ์ที่ดีมาก เป็นเช่นเดียวกันกับสมเด็จพระนารายณ์ ซึ่งน่าจะทำให้พระปีย์เต็มไปด้วยความหวังอย่างยิ่ง แต่ภายหลังเกิดหมางกันขึ้นโดยพระปีย์ไม่รู้เท่าทันกลเกมอำนาจ ขณะเดียวกันพระอาการพระโรคของสมเด็จพระนารายณ์กำเริบทรุดหนักมากขึ้น พระเพทราชา (โดยมีหลวงสรศักดิ์เป็นกำลังหลัก) ก็เร่งกระทำการรัฐประหารทันที ตัดหน้าพระยาวิไชยเยนทร์ ซึ่งก็เตรียมการยึดอำนาจอยู่เหมือนกันเมื่อวันที่ ๑๘ พฤษภาคม ๒๒๓๑ โดยเข้าล้อมพระราชวัง (พระนารายณ์ราชนิเวศน์) กับกักขังสมเด็จพระนารายณ์ไว้ในพระที่นั่งสุทธาสวรรย์ พร้อมแพทย์หลวงกับข้าราชบริพารผู้ใกล้ชิด ๒-๓ คนเท่านั้น

พระปีย์เหยื่อรัฐประหาร ภาพในจินตนาการของ ม.วรพินิต

เพียง ๒ วันที่การรัฐประหารเริ่มต้น พระปีย์ก็ถูกฆ่าอย่างไม่ปรานีและโดยทันทีแถบประตูกำแพงแก้ว พระที่นั่งสุทธาสวรรย์นั่นเอง โดยที่ทูลกระหม่อมแก้ว คือสมเด็จพระนารายณ์ไม่อาจช่วยเหลืออะไรได้เลยหลังจากหลบหนีภัยมาหลบซ่อนอาศัยพระบารมีชั่วข้ามคืน

พระปีย์จึงเป็นเหยื่อรัฐประหารรายแรกที่หลั่งเลือดเซ่นคมดาบรัฐประหาร สมเด็จพระนารายณ์สวรรคตในวาระสุดท้ายที่ทรงทราบจากแพทย์หลวงว่าพระปีย์ได้ถูกประหารชีวิตแล้ว และครั้งหนึ่งเมื่อทอดพระเนตรเห็นพระเพทราชาเข้าเฝ้า ก็ทรงพิโรธจัดจนเสด็จสู่วิสัญญีภาพโดยทันที ครั้นทรงฟื้นคืนพระองค์ได้ก็ตรัสบริภาษสาปแช่งพระเพทราชาและหลวงสรศักดิ์ด้วยประการต่างๆ นับแต่เวลานั้นสมเด็จพระนารายณ์ทรงเศร้าซึมและพระอาการพระโรคก็ทรุดเสื่อมลงจนถึงที่สุด เสด็จสวรรคตเมื่อวันที่ ๑๑ กรกฎาคม ๒๒๓๑ ทิ้งช่วงเวลาการจากไปของพระปีย์เกือบ ๒ เดือน (ส่วนวิไชยเยนทร์ถูกสังหาร วันที่ ๑๑ มิถุนายน ๒๒๓๑ หลังพระปีย์โดยประมาณ ๓ สัปดาห์)

 

ขอบคุณข้อมูลจาก www.silpa-mag.com

เล่าเรื่อง-เหยื่อรัฐประหาร

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน