เพื่อนดารารุมโพสต์อัด “น็อต กราบรถ” ด้านดาราหนุ่มให้การตร.อ้างอารมณ์ชั่ววูบ แจงปมกราบรถ-แค่ต้องการให้ขอโทษ วอนอย่าเหมารวมครอบครัว ยันพร้อมรับผิดชอบ ส่วนทนายอ้างแค่ป้องกันตัว หลังคู่กรณีคล้ายต่อสู้ขณะที่หนุ่มจยยไปตรวจร่างกาย-ยันเอาเรื่องถึงที่สุด ด้านผบ.ตร.รับไม่ได้-สั่งเร่งรัดดำเนินการ ไม่ยึดกระแสสังคม-แยกเป็น 2 กรณี แกรมมี่ประกาศยกเลิกสัญญา พร้อมริบรางวัลคนไทยตัวอย่างด้วย

dsc_2612

จากกรณีสังคมออนไลน์แชร์คลิปวิดีโอเหตุการณ์หนุ่มขับมินิคูเปอร์ไม่พอใจมีคนขี่รถจักรยานยนต์เฉี่ยวชนด้านท้าย จึงกระชากคอเสื้อมาที่รถก่อนตบและต่อย พร้อมให้กราบขอโทษรถ ท่ามกลางผู้เห็นเหตุการณ์จำนวนมาก กระทั่งนำมาเผยแพร่จนถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวาง เหตุเกิดบริเวณปากซอยเจริญกรุง 44 กทม. เมื่อวันที่ 4 พ.ย.ที่ผ่านมา ต่อมาทราบหนุ่มขับรถหรูที่ทำร้ายร่างกายคือดารา-พิธีกรหนุ่ม “น็อต เวคคลับ” นายอัครณัฐ อริยฤทธิ์วิกุล อายุ 28 ปี

จากนั้นในวันที่ 6 พ.ย. นายกิตติศักดิ์ สิงโต หรือบอย อายุ 25 ปี อาชีพฝ่ายคัดกรองเอกสาร สำนักงานสรรพากรพื้นที่ตลิ่งชัน ที่ถูกดาราหนุ่มทำร้าย พร้อมครอบครัวเข้าแจ้งความร้องทุกข์ที่สน.ยานนาวา ในสภาพดั้งจมูกหัก ใบหน้าบวม และบริเวณใต้ตาทั้งสองข้างเขียวช้ำ โดยระบุถูกรถแท็กซี่ชนท้ายจนเสียหลักเฉี่ยวกับรถของพิธีกรหนุ่ม จากนั้นรถแท็กซี่เร่งเครื่องหลบหนีไป จึงขี่รถไล่ตามแต่ไม่ทัน ก่อนขี่รถย้อนกลับมาที่เกิดเหตุแล้วถูกพิธีกรหนุ่มลงไม้ลงมือจนบาดเจ็บ ซึ่งตอนแรกทั้ง 2 ฝ่ายไกล่เกลี่ยตกลงกันได้ แต่ฝ่ายหนุ่มขี่รถจักรยานยนต์ระบุดาราหนุ่มหายเงียบไปเลยเข้าแจ้งความ เช่นเดียวกับดาราหนุ่มก็เข้าแจ้งความเอาผิดคู่กรณีในวันเดียวกัน ฐานขี่รถเฉี่ยวชน

ดารา”น็อต”ให้การตำรวจ

สำหรับความคืบหน้า เมื่อเวลา 01.00 น. วันที่ 7 พ.ย. หลังจากทั้ง 2 ฝ่ายเข้าแจ้งความและให้ปากคำกับตำรวจ สน.ยานนาวา ก่อนนายกิตติศักดิ์เปิดเผยว่า ขณะเกิดเหตุมีรถแท็กซี่มาพุ่งชนที่ด้านท้ายทำให้หน้ารถของตนเฉี่ยวชนรถดาราหนุ่ม ซึ่งเห็นรถมินิคูเปอร์เป็นรอยนิดหน่อย จึงขี่ตามแท็กซี่ไปก่อนจะได้ยินเสียงดาราหนุ่มตะโกนว่าชนแล้วหนี ก่อนวนรถกลับมาเพื่ออธิบายข้อเท็จจริง แต่เมื่อจอดรถดาราหนุ่มก็ปรี่เข้ามาตามที่ปรากฏในคลิป ซึ่งขณะเกิดเหตุตนไม่ได้ต่อสู้หรือทำร้ายร่างกายดาราหนุ่ม แต่กลับถูกต่อย 7 ครั้ง จากนั้นไม่นานตำรวจก็มา ซึ่งตอนแรกจะไม่ดำเนินคดี แต่ทางบ้านรับไม่ได้เมื่อเห็นคลิปและจะดำเนินคดีถึงที่สุด

ด้านน็อตเผยถึงเหตุการณ์ว่า วันเกิดเหตุตนกับเพื่อนเดินทางไปงานแต่งงาน พอมาถึงที่เกิดเหตุได้ยินเสียงดังจากหลังรถและหันไปเห็นรถจักรยานยนต์ชนท้ายรถแล้วพยายามหลบหนี จากนั้นสักพักรถจักรยานยนต์ได้จอดก่อนหันมามองตนระยะค่อนข้างใกล้ ก่อนรถคู่กรณีจะวนรถกลับมาจอดฝั่งตรงข้าม เลยเข้าใจว่าคงเป็นเหตุการณ์ไม่ดี จึงตัดสินใจวิ่งไปนำคนขี่ลงจากรถมาให้ได้ แต่ช่วงแรกคู่กรณีไม่ได้ลงจากรถ วินาทีนั้นคิดแต่ว่าต้องทำอะไร เพื่อให้คนขี่รถคู่กรณีลงมา ไม่เช่นนั้นจะกลายว่าต้องรับผิดชอบเพียงผู้เดียว ซึ่งถามว่าเหตุการณ์ที่ปรากฏในคลิปผิดไหม ยอมรับว่าตนผิด จึงต้องขอโทษทุกฝ่าย คู่กรณีและครอบครัวคู่กรณี แต่ไม่ใช่ว่าหลังเกิดเหตุจะไม่รับผิดชอบ ก็ได้มาเจรจาที่โรงพักตั้งแต่วันเกิดเหตุ

น็อตกล่าวอีกว่า เมื่อมาถึงโรงพักได้เจอคุณแม่คู่กรณี ตนยกมือไหว้กราบขอโทษและคุยกัน โดยคุณแม่ยอมรับน้องบอยก็ผิด ซึ่งตนก็บอกว่าตนก็ผิดและขอโทษ ซึ่งน้องบอยก็บาดเจ็บ ส่วนรถของตนก็เสียหาย แต่ซ่อมได้และมีประกัน จึงตกลงตามนี้แล้วลงบันทึกประจำวันว่าเหตุที่เกิดขึ้นไม่มีคู่กรณี แต่ความเป็นจริงถึงแม้เราจะจับมือกันที่โรงพักและตกลงจะแจ้งประกันว่าไม่มีคู่กรณี สุดท้ายมีไทยมุ่งจำนวนมากและทุกคนรุมด่าตน ถามว่าสมควรหรือไม่ ก็สมควร เพราะเขาเห็นในมุมที่ตนทำร้ายคู่กรณี ซึ่งแม่ของน้องบอยก็บอกจะช่วยแก้ข่าวให้ โดยมีหลักฐานเป็นคลิปการเจรจากัน

แจงปมกราบรถ-นึกว่ามีปืน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากนั้นดาราหนุ่ม นำคลิปที่บันทึกเหตุการณ์ขณะเจรจากับครอบครัวผู้เสียหาย พร้อมรูปภาพสภาพความเสียหายของรถมินิและภาพในคืนที่เจรจาเปิดให้สื่อมวลชนดู โดยคลิปดังกล่าวมีความยาวประมาณ 2 นาที ซึ่งมีใจความระบุว่าแม่ผู้ เสียหายได้พูดว่าจะช่วยแก้ข่าวหากนักแสดงหนุ่มเสียหาย

หลังเปิดคลิปยืนยันดาราหนุ่มกล่าวด้วยน้ำตาคลอเบ้าว่า วันนี้มีคนบุกมาปาไข่ที่ร้านและที่บ้านของตน ครอบครัว พ่อแม่และร้านโดนหมด จึงขอถามว่าคนเหล่านี้ทำอะไรผิด ตนต่างหากที่ทำผิด ขอยืนยันที่ผ่านมาเป็นคนมีความรับผิดชอบ ไม่เคยหนีไปไหนและไม่มีความจำเป็นต้องหนี ตนไม่ได้สร้างภาพเป็นคนดี แต่การกระทำแค่ 1 นาทีครึ่งนั้นอย่าเอาเรื่องนี้มาตัดสินกันเลย

“หากถามว่าทำไมต้องให้น้องบอยกราบรถ ตอนนั้นผมไม่รู้ว่าเขาจะมีมีดมีปืนอะไรหรือไม่ ซึ่งก็กลัว ตอนนั้นคิดว่าน้องต้องขอโทษ แต่น้องบอยไม่ได้ขอโทษ วินาทีนั้นคิดว่า ไม่ขอโทษไม่เป็นไร ขอโทษรถก็ได้ จึงบอกให้เขากราบ โดยยอมรับผิดที่ใช้อารมณ์” ดาราหนุ่มกล่าว

เมื่อถามว่าตอนนั้นคู่กรณีขอโทษแล้วทำไมต้องทำร้ายร่างกาย ดาราหนุ่มกล่าวว่า ใช่ น้องขอโทษ แต่ตอนนั้นเร็วมาก ดอกสุดท้ายไม่ทันจริงๆ ตอนนี้ต้องขอโทษน้องบอยและญาติที่ทำให้น้องเจ็บ โดยพร้อมรับผิดชอบและดูแลเรื่องนี้เท่าที่จะทำได้ แต่ขอร้องเรื่องพิมพ์ข้อความ เพราะบั่นทอนจิตใจของตน แต่ไม่เป็นไร อย่าทำร้ายคนอื่น เพราะพวกเขาไม่เกี่ยว ซึ่งตนมีความฝัน บ้านผมไม่ได้ร่ำรวย ตนผิดหรือที่ปกป้องความฝันตัวเอง

อ้างดาราหนุ่มแค่ป้องกันตัว

ด้านนายอดุล ทินะพงศ์ ทนายดาราหนุ่มกล่าวว่า ยืนยันขณะเกิดเหตุดาราหนุ่มต้องการป้องกันตัว ซึ่งระหว่างที่พูดคุยกันนั้น คู่กรณีเองมีท่าทีคล้ายจะต่อสู้และอยากขอความเป็นธรรมให้ลูกความด้วย เบื้องต้นเข้าให้ปากคำตามข้อเท็จจริง ซึ่งอยากขอความเป็นธรรมให้ลูกความว่าดูทรัพย์สินที่เสียหาย ดูร่องรอยไฟท้ายรถก่อนว่าเสียหายหรือไม่ ทุกคนมีสิทธิ์ที่จะรักและหวงทรัพย์สิน ขอถามกลับว่าหากนักข่าวโดนคนหยิบมือถือแล้วปาทิ้งจะรู้สึกอย่างไร อย่าบอกว่าไม่โกรธ ถ้าไม่โกรธขอมือถือมาปาหน่อย

เมื่อถามว่าการที่ทรัพย์สินเสียหายก็ไม่จำเป็นต้องทำร้ายกัน ดาราหนุ่มพูดเสริมว่าเป็นการปกป้องสิทธิ์ที่ทรัพย์สินเสียหาย

หลังการแถลงข่าวดาราหนุ่มได้เดินไปยกมือไหว้แม่ของนายกิตติศักดิ์ เพื่อขอโทษอีกครั้งและพูดคุยปรับความเข้าใจ ก่อนแยกย้ายกันกลับ

ต่อมาเวลา 11.00 น. น.ส.สุกัญญา สิงโต พี่สาวนายกิตติศักดิ์เปิดเผยว่า ช่วงเช้าพา น้องชายไปตรวจร่างกายอย่างละเอียดที่ร.พ. เลิดสิน โดยเฉพาะใบหน้าและระบบทางเดินหายใจ เพื่อเป็นหลักฐานประกอบสำนวนคดี ซึ่งผลการตรวจจะทราบสัปดาห์หน้า ทั้งนี้ หลังเป็นข่าวมีทนายความติดต่อมาเยอะมาก โดยทั้งหมดพร้อมว่าความให้ฟรี แต่ขอปรึกษาครอบครัวก่อน

ผบ.ตร.รับไม่ได้-สั่งดำเนินการ

ที่ตร. พล.ต.ต.ทรงพล วัธนะชัย รองโฆษกตร. กล่าวถึงกรณีดังกล่าวว่า กำชับตำรวจ สน.ยานนาวา ให้ดำเนินคดีอย่างเป็นธรรมตามพยานหลักฐาน โดยหลังมีคลิปเผยแพร่พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. สั่งการตรงมาให้เร่งรัดดำเนินการ เพราะเป็นเรื่องที่สังคมสนใจ

พล.ต.ต.ทรงพลกล่าวว่า พล.ต.อ.จักรทิพย์เห็นคลิปแล้ว รับไม่ได้ เห็นว่าเป็นคดีจราจรปกติ อุบัติเหตุบนท้องถนนเล็กน้อย แต่กลับปรากฏการทำร้ายร่างกาย ก็รับไม่ได้ ดูเป็นการใช้อารมณ์และไม่มีสิทธิ์ทำขนาดนั้น จึงกำชับให้ดำเนินการโดยเร็ว โดยไม่ยึดกระแสสังคม ซึ่งเท่าที่ส่วนตัวเห็นมีการกระชากข้ามถนนและทำร้ายกัน 3 ครั้ง โดยไม่มีการตอบโต้ เป็นการทำร้ายฝ่ายเดียว แต่การแจ้งข้อหาไม่ตัดสินจากคลิปอย่างเดียว เรื่องนี้มีพยานจำนวนมาก ซึ่งพนักงานสอบสวนต้องเรียกมาสอบและเช็กวงจรปิดด้วย

พล.ต.ต.ทรงพลกล่าวอีกว่า ตอนนี้สน.ยานนาวา ดำเนินคดีเป็น 2 ส่วน คือ คดีเฉี่ยวชนโดยนายกิตติศักดิ์รับว่าเฉี่ยวจริงแล้วหนีไป ก่อนตามกันมาอีกจุด ส่วนรถแท็กซี่ไม่ทราบมีการพูดถึงหรือไม่ ซึ่งกรณีนี้จะดำเนินคดีเฉี่ยวชนและยึดรถทั้ง 2 คันไปตรวจสภาพ ส่วนที่สอง คดีทำร้ายร่างกาย ที่ชัดเจนคือนายกิตติศักดิ์บาดเจ็บ มีคลิปนายน็อตทำร้าย หากผลตรวจร่างกายพบว่าเจ็บสาหัสจะแจ้งข้อหามาตรา 297 ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 6 เดือนถึง 10 ปี และต้องดูว่าข่มขืนใจหรือหน่วงเหนี่ยวหรือไม่ ถ้าเข้าก็แจ้งข้อหาเพิ่มด้วย แต่ถ้าไม่ถึงขั้นสาหัสก็เป็นข้อหาลหุโทษปรับ 1,000 บาท

ที่บช.น. พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร ผบช.น. เปิดเผยว่า เห็นคลิปแล้วรู้สึกไม่สบายใจ ผู้เสียหายก็มีอดทนต้องชื่นชม จึงสั่งการให้พ.ต.อ.พงษ์ศักดิ์ ทรัพย์ละออ ผกก.สน.ยานนาวา ให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย และขอให้คนไทยใจเย็นๆ

จีเอ็มเอ็มยกเลิกสัญญา

ด้านบริษัท จีเอ็มเอ็มทีวี จำกัด ต้นสังกัดของน็อต-อัครณัฐ ออกหนังสือยกเลิกสัญญาพิธีกรหนุ่มลงวันที่ 7 พ.ย.2559 มีข้อความว่า จดหมายชี้แจงกรณี “น็อต-อัครณัฐ” จากเหตุการณ์การเผยแพร่คลิปพฤติกรรม ไม่เหมาะสมของ “น็อต-อัครณัฐ” ผ่านทางโซเชี่ยลมีเดีย เมื่อวันที่ 6 พ.ย. ที่ผ่านมานั้น บริษัท จีเอ็มเอ็มทีวี จำกัด ในฐานะต้นสังกัดรู้สึกเสียใจกับการกระทำดังกล่าวเป็นอย่างยิ่งและเห็นถึงความเสียหายที่จะเกิดขึ้นจากฐานะการเป็นพิธีกรและนักแสดง ซึ่งควรเป็นแบบอย่างที่ดีให้เยาวชน

บริษัทไม่ได้นิ่งนอนใจกับกรณีที่เกิดขึ้น โดยพิจารณาถึงบทลงโทษ เพื่อไม่เป็นแบบอย่างไม่ดีแก่เยาวชนและสังคม โดยมีข้อสรุปว่าบริษัทยกเลิกสัญญาการเป็นพิธีกรและนักแสดงในสังกัดของบริษัท และขอยุติการทำงานทุกประเภทของ “น็อต-อัครณัฐ” โดยมีผลตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ส่งผลให้ดาราหนุ่มต้องยกเลิกการแถลงข่าว

ขณะที่พี่ฉอด-สายทิพย์ มนตรีกุล ณ อยุธยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร จีเอ็มเอ็ม แชนแนล จำกัด ผู้บริหารช่อง GMM 25 เผยว่า นายสถาพร พานิชรักษาพงศ์ กรรมการ ผู้จัดการบริษัทจีเอ็มเอ็มทีวี จำกัด ได้มาปรึกษาและคุยกัน โดยในส่วนของช่องทางน็อตไม่ได้มีงานอะไรอยู่แล้วตอนนี้ รวมถึงพิธีกรรายงานรถโรงเรียน

เมื่อถามว่ามีผลต่อเอเจนซี่บางรายที่ไม่พอใจถึงขนาดจะถอดโฆษณาออก พี่ฉอดกล่าวว่า เห็นคุณสถาพรว่าอย่างนั้น อยากให้ถามคุณสถาพรน่าจะตอบได้ดีกว่า เพราะเป็นคนที่ได้รับฟีดแบ็กจากนั้นโดยตรง

ขณะที่สถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส ซึ่งน็อตเป็นพิธีกรอยู่ คือรายการ “Thailand Science Challenge” รวมถึงการแสดงละครโทรทัศน์อยู่อีก 1 เรื่องคือ “ก๊วนสืบหลังเลิกเรียน” ก็ประกาศระงับการออกอากาศผลงานทั้งหมดของน็อตด้วย

ส่วนนายอำนาจ หมัดสดาย ประธานคณะกรรมการสมัชชานักจัดรายการข่าววิทยุโทรทัศน์หนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย (สว.นท) เปิดเผยว่า คณะกรรมการมีมติจะเรียกคืนรางวัลคนไทยตัวอย่างประจำปี 2559 คืน เนื่องจากน็อตแสดงพฤติกรรมไม่เหมาะสมและเป็นแบบอย่างที่ไม่ดีต่อสังคมไทย

เพื่อนดารารุมโพสต์จวกซ้ำ

ขณะเดียวเหล่าศิลปิน ดารา ในวงการบันเทิง ต่างแสดงความคิดเห็นผ่านอินสตาแกรมส่วนตัวอย่างมากมายถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น อาทิ “หนุ่ม”กรรชัย กำเนิดพลอย โพสต์ถึงกรณีทนายความยกตัวอย่างปาโทรศัพท์มือถือถามว่าจะโกรธหรือไม่ โดย”หนุ่ม”กรรชัยระบุว่าให้ไอโฟน 7 พลัสเลย ปาเลยนะ แล้วขอกระทืบหน้ากลับสักสองสามที ได้ใช่ป่ะ

ส่วนดาราสาว “มิ้นท์”ณัฐวรา วงศ์วาสนา ที่ลงภาพในอินสตาแกรมไปทำกิจกรรมล้างห้องน้ำร่วมกับพิธีกรหนุ่ม “น็อต” ก่อนมีคนเข้ามาแสดงคิดเห็นต่อว่ามากมายถึงการไปคบกับพิธีกรหนุ่มคนดังกล่าว ทำให้ดาราสาวโพสต์ชี้แจงว่า ไม่ได้มีความสัมพันธ์หรือเกี่ยวข้องกันส่วนตัว เป็นเพียงเพื่อนร่วมงานเท่านั้น และตอนนั้นยังไม่รับรู้ถึงเหตุการณ์คลิปดังกล่าวมาก่อน

นอกจากนี้ยังมีศิลปินดาราโพสต์ภาพ และข้อความที่เกี่ยวข้องกับประเด็นร้อน ในเชิงเสียดสีและตักเตือนกันอย่างมากมาย อาทิ โน้ต เชิญยิ้ม, บุ๋ม-ปนัดดา วงศ์ผู้ดี, อาร์ต-พศุตม์ บานแย้ม, แทค-ภรัณยู โรจนวุฒิธรรม, เบนซ์ เรซซิ่ง, ซัน-ประชากร ปิยะสกุลแก้ว, แนท-เกศริน ชัยเฉลิมพล, ต้น-ชานนท์ สมฤทธิ์, โอ๊ต-สุรศักดิ์ โชติทินวัฒน์, กระติ๊บ-ชวัลกร วรรธนพิสิฐกุล, ค่อม ชวนชื่น, จาตุรงค์ พลบูรณ์, แบงค์-ปรีตี บารมีอนันต์, ตั๊ก-มยุรา เศวตศิลา ฯลฯ

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน