มูลนิธิสืบฯ-โลกออนไลน์ แห่ค้าน เพิกถอนพื้นที่ป่าอนุรักษ์ อุทยานแห่งชาติทับลาน 2.65 แสนไร่ อุทยานฯแจง ไม่ใช่พื้นที่ป่า แต่เป็นเมืองหมดแล้ว

ประเด็นอนุรักษ์กลับมาเป็นที่สนใจอีกครั้ง จากกระแส Saveทับลาน ที่มีการวิพากษ์วิจารณ์และแสดงความคิดเห็นอย่างกว้างขวาง และ หลากหลาย หลัง กรมอุทยานฯ เปิดรับฟังความคิดเห็นการเพิกถอนพื้นที่ อุทยานแห่งชาติทับลาน จ.นครราชสีมา และปราจีนบุรี 2.6 แสนไร่ ออกจาการเป็นพื้นที่ป่าอนุรักษ์

เปิดที่มาเพิกถอนทับลาน

อุทยานฯทับลาน ประกาศเป็นพื้นที่อุทยานฯ เมื่อวันที่ 23 ส.ค. 2524 เนื้อที่ประมาณ 1,400,000 ไร่ ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นแหล่งมรดกโลกทางธรรมชาติกลุ่มป่าดงพญาเย็น–เขาใหญ่ เมื่อปี 2548

แต่พื้นที่ ดังกล่าวมีบางส่วนทับซ้อนที่ดินของประชาชนรวมทั้งที่ของส่วนราชการ ตามที่รัฐบาลมติครม. ให้ดำเนินการมาในอดีต

กรมป่าไม้ จึงสำรวจรังวัด ฝังหลักเขต เพื่อปรับปรุงแนวเขตอุทยานฯทับลาน ให้ตรงตามสภาพข้อเท็จจริง ทั้งในส่วนที่มีการใช้ประโยชน์ในเขตอุทยานฯ และในส่วนที่ยังคงมีสภาพป่า แต่อยู่นอกเขตอุทยานแห่งชาติแล้วเสร็จ และเป็นที่มาของแนวเขตอุทยานแห่งชาติทับลาน ปี 2543

แต่ยังไม่ได้รับการพิจารณาประกาศใช้ให้เป็นไปตามกฎหมาย จึงมีเสียงเรียกร้องจากประชาชนและภาคส่วนที่เกี่ยวข้องให้แก้ไขปัญหาโดยใช้แนวเขตอุทยานแห่งชาติฯให้เป็นไปตามแนวเส้นปี 2543

ก่อนหน้านี้ อรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช เคยให้สัมภาษณ์ในเรื่องนี้ว่า ปัญหาทับซ้อนที่ดินระหว่างอุทยานกับพื้นที่ชาวบ้านในพื้นที่ตรงนี้ มีมานานแล้ว

สำนักงานคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ (สคทช.) ได้นำมติครม. ความเห็นและข้อเสนอแนะของผู้ตรวจการแผ่นดิน แนวนโยบายของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และข้อเท็จจริงที่เกี่ยวข้อง เสนอให้ครม. และมีมติ 14 มี.ค.66 เห็นชอบแนวทางการใช้เส้นแนวเขตสำรวจ อุทยานฯทับลาน ปี 2543 ในการจัดทำ แผนที่แนวเขตที่ดินของรัฐแบบบูรณาการ มาตราส่วน 1 : 4,000 (One Map)

โดยแนวทางแก้ปัญหาดังกล่าว จะไม่ส่งผลกระทบต่อการอนุรักษ์ และจัดการพื้นที่อุทยานฯทับลาน รวมทั้งพื้นที่มรดกโลก โดยคำนึงถึงมิติทั้งในด้านสังคม เศรษฐกิจ และสิ่งแวดล้อมอันเป็นปัญหาเฉพาะพื้นที่ของอุทยาน

“เรื่องนี้ผ่านการกลั่นกรองโดยผู้ตรวจการแผ่นดิน-คณะกรรมนโยบายที่ดินแห่งชาติ-ครม.เห็นชอบให้ที่ดินเป็น ส.ป.ก. ซึ่งไม่ได้ตัดป่าไปเป็น ส.ป.ก. และไม่ได้มีผลต่อกระบวนการยุติธรรมที่ถูกดำเนินคดี ทั้งนี้จะมีการพิจารณาคุณสมบัติผู้ครอบครองเป็นรายๆ ไป และไม่ได้เป็นบรรทัดฐานว่าอุทยานอื่นๆ จะเหมือนกัน เพราะเงื่อนไขการเข้าไปทำกินต่างกัน” นายอรรถพล กล่าว

ไม่ใช่พื้นที่ป่า แต่เป็นเมืองหมดแล้ว

อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ อธิบายว่า พื้นที่ 2 แสนกว่าไร่ที่จะเพิกถอนไม่ใช่พื้นที่ป่า แต่มีชาวบ้านเข้ามาอยู่เป็นเมืองหมดแล้ว เพียงแต่ไม่ได้มีกฏหมายรองรับ ครั้นจะไปใช้กฏหมายอุทยานจัดการก็ไม่สามารถทำได้ หลายฝ่ายจึงพยายามแก้ไขปัญหาร่วมกัน ไม่ใช่ใครคนใดคนหนึ่งออกมาสั่งการ แต่มีการแก้โดยคณะกรรมการซึ่งผ่านมาหลายสิบชุด มีกรรมการเป็นร้อยคน

การเพิกถอนในส่วนนี้ ไม่เกี่ยวกับการดำเนินคดีผู้บุกรุกสร้างรีสอร์ต หรือบ้านพักตากอากาศ ซึ่งต้องดำเนินคดีต่อไป โดยการให้ที่ดินกับ ส.ป.ก. พื้นที่ยังคงสภาพเป็นที่ดินของรัฐ ยังไม่มีการพูดถึงคนที่จะมาครอบครอง ซึ่งจะให้ศาลใช้ดุลยพินิจเป็นรายๆ ไป

ยืนยันว่าไม่ใช่การตัดป่า 2 แสนไร่ ที่ผ่านมาที่เราพยายามต่อสู้ก็เพื่อป่าเท่านั้น ไม่ใช่จู่ๆ เราจะไปยกป่า หรือตัดป่าให้ใครไปง่ายๆ อยู่แล้ว

มูลนิธิสืบฯ แถลงคัดค้าน

ขณะเดียวกันเหตุผลของ มูลนิธิสืบนาคะเสถียร ที่คัดค้านเพิกถอนพื้นที่ป่าอนุรักษ์ มีดังต่อไปนี้

1. การประชุมคณะกรรมการอุทยานแห่งชาติ บรรจุหัวข้อการปรับปรุงแนวเขตอุทยานแห่งชาติทับลาน เป็นวาระเรื่องเพื่อทราบ ซึ่งถือเป็นการข้ามขั้นตอนการให้ข้อเสนอแนะอย่างละเอียดรอบคอบของคณะกรรมการอุทยานแห่งชาติ และประเด็นการเพิกถอนพื้นที่ดังกล่าวได้มีการนำเข้าสู่ที่ประชุมคณะกรรมการอุทยานแห่งชาติมาแล้ว 2 ครั้ง

โดยที่ประชุมมีข้อเสนอแนะให้มีการใช้แนวทางแก้ไขปัญหาที่ดินของราษฎรในเขตป่าอนุรักษ์ ตามมาตรา 64 พ.ร.บ. อุทยานแห่งชาติ พ.ศ.2562 ซึ่งแนวทางการแก้ไขปัญหาที่ดินของราษฎรในเขตป่าอนุรักษ์ ตามมาตรา 64

เป็นการแก้ไขปัญหาที่ดินของราษฎรที่มีอยู่ก่อนแล้วภายในเขตป่าอนุรักษ์ให้มีการจัดการได้อย่างเหมาะสม มีหลักเกณฑ์พิจารณาและคุณสมบัติของบุคคลที่อยู่อาศัยหรือทำกินในชุมชนภายใต้โครงการที่จะดำเนินการ

รวมถึงหน้าที่ของบุคคลที่อยู่อาศัยหรือทำกินในชุมชนในการอนุรักษ์ ฟื้นฟู ดูแลรักษาทรัพยากรธรรมชาติ ระบบนิเวศ และความหลากหลายทางชีวภาพภายในเขตพื้นที่ดำเนินโครงการด้วย

2. การเพิกถอนพื้นที่อุทยานแห่งชาติทับลาน 265,286.58 ไร่ โดยให้กันออกและส่งมอบพื้นที่ให้ ส.ป.ก. ดำเนินการ ทำให้ไม่เป็นไปตามแผนยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี พ.ศ. 2561 – 2580 ที่กำหนดให้ต้องมีการเพิ่มพื้นที่ป่าธรรมชาติให้ได้ร้อยละ 35 ของพื้นที่ประเทศ และไม่เป็นไปตามนโยบายป่าไม้แห่งชาติที่กำหนดให้ประเทศไทยมีพื้นที่ป่าอนุรักษ์ ไม่น้อยกว่าร้อยละ 25 ของพื้นที่ประเทศ

และสะเทือนต่อความเป็นธรรมในการแก้ไขปัญหาราษฎรในป่าอนุรักษ์ตามมาตรา 64 ที่ดำเนินการมาก่อนหน้านี้ รวมถึงอาจเป็นการเอื้อประโยชน์ให้กับนายทุน และจะกลายเป็นบรรทัดฐานที่เกิดขึ้นในพื้นที่อนุรักษ์อื่นๆ ที่มีปัญหาการทับซ้อนในลักษณะเดียวกันนี้ทั่วประเทศ

3. กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช มีภารกิจเกี่ยวกับการอนุรักษ์ ส่งเสริม และฟื้นฟูทรัพยากรป่าไม้ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ในเขตพื้นที่ป่าเพื่อการอนุรักษ์ โดยการควบคุม ป้องกัน พื้นที่ป่าอนุรักษ์เดิมที่มีอยู่ และพื้นที่ป่าเสื่อมโทรมให้กลับสมบูรณ์

แต่กลับปล่อยให้เกิดกระบวนการเพิกถอนพื้นที่ป่าอนุรักษ์สองแสนกว่าไร่ ซึ่งขัดต่อภารกิจหลักของหน่วยงานตนเอง หากยังคงให้เกิดการสูญเสียพื้นที่ป่าอนุรักษ์อย่างต่อเนื่อง เชื่อได้ว่ากรมอุทยานฯ ในยุคนี้จะเป็นยุคที่ประเทศไทยสูญเสียพื้นที่ป่าไม้และทรัพยากรธรรมชาติมากที่สุดในรอบ 10 ปีที่ผ่านมา

มูลนิธิสืบนาคะเสถียร ขอคัดค้านการดำเนินการเพื่อเพิกถอนพื้นที่อุทยานแห่งชาติทับลาน จำนวน 265,286.58 ไร่ และขอเรียกร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทบทวนภารกิจหลักและหน้าที่ของหน่วยงานตนเอง เพื่อรักษาทรัพยากรป่าไม้และสัตว์ป่าของประเทศชาติต่อไป

อุทยานฯเปิดรับฟังความเห็น

ในระหว่างวันที่ 28 มิ.ย. – 12 ก.ค.2567 กรมอุทยานฯ เปิดรับฟังความคิดเห็นการเพิกถอนพื้นที่ อช.ทับลาน 265,286.58 ไร่ ออกจาการเป็นพื้นที่ป่าอนุรักษ์ โดยคำถามมีดังนี้

1. ท่านเห็นชอบการใช้เส้นปรับปรุงการสำรวจแนวเขต ปี พ.ศ. 2543 ในการปรับปรุงแผนที่แนวเขตที่ดินของรัฐแบบบูรณาการ มาตราส่วน 1:4000 (ONE MAP) เพื่อกำหนดให้เป็นอุทยานแห่งชาติทับลาน หรือไม่ อย่างไร

2. เมื่อปรับเปลี่ยนสภาพจากพื้นที่ป่าอนุรักษ์เป็น ที่ดินเพื่อเกษตรกรรม จะสามารถแก้ไขปัญหา ด้านเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อมได้อย่างยั่งยืน หรือไม่ อย่างไร

3. มั่นใจหรือไม่ว่า ราษฎรที่ได้รับประโยชน์ในพื้นที่เป็นเกษตรกรที่อยู่อาศัยทำกินในพื้นที่มาดั้งเดิมและจะสามารถควบคุมดูแลไม่ให้มีการซื้อขายเปลี่ยนมือไปอยู่ในมือของนายทุน

4. การใช้แนวเขตเมื่อปี พ.ศ. 2543 ซึ่งมีวัตถุประสงค์ป้องกันการบุกรุกตัดไม้ทำลายป่า มาใช้เป็นแนวเขตของอุทยานแห่งชาติทับลาน ขัดต่อวัตถุประสงค์เริ่มแรกของการสำรวจจัดทำแนวเขตเมื่อปี พ.ศ. 2543 และมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 30 มิถุนายน 2541 หรือไม่

5. จะเป็นแนวทางที่ทำให้เกิดการเพิกถอนพื้นที่ป่าอนุรักษ์แห่งอื่น ๆ อีกหรือไม่ อย่างไร
ในเมื่อพื้นที่อื่นๆ ก็มีราษฎรที่อ้างว่าขาดแคลนที่ดินทำกิน และมีสิทธิ์ที่จะได้รับการช่วยเหลือ เพราะเป็นประชาชนคนไทยเช่นกัน

6. เป็นการขัดต่อนโยบายป่าไม้แห่งชาติ ที่กำหนดให้ประเทศไทยมีพื้นที่ป่าไม้เพื่อการอนุรักษ์และเพื่อเศรษฐกิจไม่น้อยกว่าร้อยละ 40 ของพื้นที่ประเทศ หรือไม่ อย่างไร

7. จะส่งผลต่อสถานภาพการเป็นพื้นที่มรดกโลกทางธรรมชาติของกลุ่มป่าดงพญาเย็น – เขาใหญ่
จากการถูกลดคุณค่าโดดเด่นอันเป็นสากล (OUV) ตามหลักเกณฑ์ของยูเนสโก (UNESCO)
หรือไม่

โดย มูลนิธิสืบฯ มีข้อกังวลว่า “การจัดการของภาครัฐในลักษณะนี้ อาจส่งผลกระทบต่อแนวการเชื่อมต่อระบบนิเวศของสัตว์ป่า และเพิ่มความรุนแรงความขัดแย้งระหว่างคนกับสัตว์ป่ามากยิ่งขึ้น”

โลกออนไลน์ปลุกกระแส #Saveทับลาน

หลังมูลนิธิสืบฯ ออกมาเปิดเผยข้อมูลการเพิกถอนอุทยานแห่งชาติทับลาน ทำให้เกิดกระแสในโลกออนไลน์ ที่ประชาชนออกมาแสดงความคิดเห็น และร่วมแสดงออกในการคัดค้านเป็นจำนวนมาก

โดยมีผู้ใช้งานแพลตฟอร์ม X แสดงความคิดเห็นในเรื่องดังกล่าวมากถึง 1.3 แสนข้อความ โดยส่วนใหญ่เป็นห่วงว่าพื้นที่ป่าจะตกไปอยู่ในมือของนายทุน

ขณะที่เพจ หมอแล็บแพนด้า โพสต์ข้อความว่า คิดเห็นกันอย่างไรที่จะมีการเฉือนอุทยานแห่งชาติทับลาน 2.65 แสนไร่ เป็นที่ดินเพื่อเกษตรกรรม โดยในโพสต์ดังกล่าวมีผู้เข้ามาแสดงความคิดเห็นมากถึง 4.7 พันข้อความ โดยส่วนมากต่างแสดงความคิดเห็นคัดค้านแนวคิดดังกล่าว

ด้านเพจ ตุ๊ดส์review ที่มีผู้ติดตาม 5.8 แสนคน ฝากลูกเพจช่วยลงชื่อคัดค้าน โดยให้เหตุผลกลัวว่าพื้นที่ที่ถูกเพิกถอนจะเอาไปใช้ทำอะไรต่อ จะมีการปล่อยเช่า กู้ยืม ซื้อขายต่อไป ซึ่งผิดวัตถุประสงค์หรือไม่ และหวั่นจะลดโอกาสการเจริญเติบโตของสัตว์ป่า

ทั้งนี้ล่าสุด อุทยานแห่งชาติทับลาน – Thap Lan National Park โพสต์ข้อความ ระบุว่า การแก้ไขปัญหาที่ดินเป็นปัญหาที่มีความขัดแย้งในพื้นที่ป่าอนุรักษ์มาอย่างยาวนาน ในการเพิกถอนพื้นที่อุทยานแห่งชาติทับลาน ต้องรับฟังความคิดเห็นและการมีส่วนร่วมของประชาชน

ตามมาตรา 8 วรรคสาม แห่งพระราชบัญญัติอุทยานแห่งชาติ พ.ศ. 2562 ให้สงวน อนุรักษ์ คุ้มครอง และบำรุงรักษาอุทยานแห่งชาติ และความหลากหลายทางชีวภาพในพื้นที่ให้เกิดประโยชน์อย่างสมดุลและยั่งยืน

ขอเชิญชวนทุกท่านร่วมกันแสดงความคิดเห็น เกี่ยวกับการปรับปรุงแนวเขตอุทยานแห่งชาติทับลานสามารถแสดงความคิดเห็นผ่านทางเว็บไซต์

โดยยืนยันว่า ”ปัญหาความเดือดร้อนของราษฎรที่ต้องแก้ไข’

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน