เปิดใจ ผู้เสียหาย เงินกู้ ผ่านแอป “สินเชื่อความสุข” เริ่มกู้ 50,000 จ่ายจริง 700,000 ไม่มีจ่ายถูกแก๊งปล่อยกู้ข่มขู่ แอดไลน์ด่า โทรก่อกวน ทนไม่ไหวเกือบจบชีวิต
เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 14 ม.ค. 2568 คุณเอ๋ (นามสมมติ) ผู้เสียหาย เปิดใจกับ ‘ข่าวสดออนไลน์’ หลังจากหลวมตัว ไปกู้เงินผ่านแอปฯ สินเชื่อความสุข หรือ Fineasy กู้ไปหลักหมื่น แต่ต้องจ่ายเฉียดล้าน เจ้าตัวถึงกับหาทางออกไม่ได้ หวิดคิดสั้น
คุณเอ๋ (นามสมมติ) กล่าวว่า เหตุการณ์เกิดขึ้นในช่วงประมาณสิ้นปีที่ผ่านมา ตนมีความจำเป็นจะต้องใช้เงิน และแอปฯสินเชื่อความสุข มันแจ้งเตือนขึ้นมาใน ขณะที่ตนเล่นโทรศัพท์มือถือยี่ห้อหนึ่ง ซึ่งเป็นแอนดรอยด์ เมื่อกดเข้าไปแล้วจะเข้าไปใน App market ซึ่งมันมีลักษณะคล้ายกับ Play store ย่อยๆ
ตั้งแต่ที่ซื้อโทรศัพท์เครื่องนี้มา ตนไม่เคยโหลดแอปฯสินเชื่อในลักษณะนี้เลย และตนไม่รู้ด้วยว่ามีแอปพลิเคชันนี้ด้วย ที่ผ่านมามันก็มีโฆษณาขึ้นแบบนี้เป็นประจำ แต่ตนไม่ได้สนใจ จนกระทั่งมันแจ้งเตือนขึ้นมาในขณะที่เรากำลังมีปัญหาและต้องการใช้เงิน มันจึงเป็นแรงจูงใจในการกดเข้าไปดู
เมื่อกดเสร็จแล้วมันก็จะให้เราลงทะเบียนกรอกข้อมูลโทรศัพท์ เลขที่บัญชีธนาคาร ในตอนแรกตนคิดว่าลักษณะการกู้ยืมเงินคงเหมือนกับที่ธนาคารทั่วไป ขั้นตอนของการลงทะเบียน ก็จะให้เราถ่ายรูปเซลฟี่กับบัตรประชาชน และกดยินยอมให้เข้าถึงข้อมูลของโทรศัพท์มือถือ ยินยอมให้เข้าถึงข้อความและรายชื่อในโทรศัพท์
ในตอนนั้น ตนลองกดไม่ยินยอม เพราะคิดว่ามันน่าจะอนุมัติให้ แต่ปรากฏว่า มันจะต้องกดยินยอมเท่านั้น ถึงสามารถลงทะเบียนในระบบได้
เมื่อกดเข้าไปแล้วแอปพลิเคชันก็เช็กเครดิตเบื้องต้นว่า เราสามารถกู้ได้เท่าไหร่ ซึ่งทันทีที่ลงทะเบียนเสร็จ มันก็ขึ้นตัวเลขมาว่า ตนสามารถกู้ได้ 50,000 บาท ตนเริ่มกู้เงิน กับบริษัทให้กู้ที่อยู่ภายในแอปฯ บริษัทละ 10,000 บาท แต่ได้รับเงินจริงเพียง 6,000 – 6,500 บาท ขึ้นอยู่กับแต่ละบริษัทที่ให้กู้ และจะต้องคืนภายในระยะเวลา 7 วัน
จากนั้นเมื่อเรากดยินยอม ประมาณ 10-15 นาที เงินก็จะโอนเข้าบัญชีของเราทันที โดยครั้งแรก ตนก็กู้มา 50,000 บาทเลย แต่ได้เงินจริง ๆ แค่ประมาณ 30,000 กว่าบาทเท่านั้น
หลังจากนั้น วันที่ 5 ของการกู้เงิน ก็จะมีสายโทรเข้ามาบอกให้เราคืนเงินก่อนเที่ยงวัน ซึ่งในตอนนั้นยังไม่ถึงกำหนดระยะเวลาต้องคืน แต่อีกฝ่ายอ้างว่า มันคือเงื่อนไขของบริษัท จะต้องชำระคืนก่อน 1 วัน ซึ่งตอนที่เรากดยินยอมในการกู้เงิน ไม่ได้มีเงื่อนไขนี้แจ้งมาก่อน
ถ้าหากว่าเราไม่มีเงินคืน อีกฝ่ายก็จะโทรหาเบอร์โทรศัพท์ที่อยู่ในเครื่องของเรา ซึ่งมันไม่ได้เรียงลำดับความสำคัญว่าจะต้องโทรหาญาติหรือเพื่อนสนิท แต่อีกฝ่ายกระจายโทรหา คนที่เราติดต่อในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา จนทำให้เราเสียเครดิต
อีกรูปแบบหนึ่งก็คือจะใช้วิธีการในการแอดไลน์มา และใช้รูปที่เราถือบัตรประชาชน พร้อมกับมีป้ายว่าเราเป็นคนโกงเงิน แม้ว่าจะไม่ได้มีการข่มขู่ถึงขั้นทำร้ายร่างกาย แต่ว่าทำให้เราเสียสุขภาพจิตมาก ซึ่งมันก็กลายเป็นสะสมมาเรื่อย ๆ เมื่อ 7 วัน เราไม่มีเงินจ่าย มันก็จะมีบริษัทกู้หน้าใหม่ที่โทรศัพท์มาหาเราพร้อมกับยื่นข้อเสนอให้โดยที่ไม่ผ่านแอปฯ
ซึ่งในช่วงระยะเวลา 2 เดือนที่ผ่านมา ตนกู้เงินจากบริษัท ที่อยู่ในแอปฯสินเชื่อความสุขทั้งหมด 48 เจ้า และที่ติดต่อนอกเหนือจากแอปฯอีกก็เกือบ 20 เจ้า จากเบื้องต้นที่เริ่มกู้ครั้งแรกเพียง 50,000 บาท แต่จะต้องจ่ายวงเงิน รวมทั้งหมด 700,000 บาท ทำให้ตนหมดหนทางจะหาเงินมาโป๊ะหนี้ เกิดความเครียดสะสม
เพราะในทุกๆวัน เวลา 8.30 น. ก็จะมีโทรศัพท์จากบริษัทเงินกู้ โทรเข้ามาเพื่อกดดันให้เราหาเงินมาคืนตลอดและถ้าหากเราไม่รับโทรศัพท์ก็ระแวงว่าอีกฝ่ายจะโทรหาคนรอบข้างจนทำให้เราเสียชื่อเสียงไปมากกว่านี้ ในบางครั้งก็ถูกต่อว่าด้วยถ้อยคำหยาบคาย จนเราไม่รู้จะทำยังไงต่อ
พยายามไปขอคำปรึกษาจากทนายความอาสาและตำรวจ ก็ไม่เห็นทางออก ทำให้เกิดความคิดอยากจะจบชีวิตตัวเองในตอนนั้น เราอยู่บนตึกสูงแห่งหนึ่ง อยากจะจบชีวิต แต่ในช่วงเวลาหนึ่ง หน้าของพ่อแม่ที่เสียชีวิตไปแล้ว และหน้าของครอบครัวก็ลอยเข้ามา ทำให้เรามีสติขึ้น และล้มเลิกความคิดเหล่านั้น เพราะกลัวว่าจะสร้างความเดือดร้อนให้กับคนข้างหลัง
สุดท้ายตนได้รับความช่วยเหลือจากผู้ใหญ่ที่ยังรักและอยากให้โอกาส จึงตัดสินใจนำเงินทั้งหมด 700,000 บาท มาโป๊ะหนี้ให้ครบจนหมด ก่อนที่จะนำเรื่องราวนี้ไปแจ้งให้กับสภาผู้บริโภคทราบถึงปัญหาดังกล่าว พร้อมกับพยายามหาหลักฐานทั้งหมดที่จะหาได้ นำมามอบให้กับเจ้าหน้าที่ให้เกิดประโยชน์กับคนอื่น ๆ
ทั้งนี้ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ก็เป็นบทเรียนที่สอนตนมากมาย ยอมรับว่า ตนผิดจริงที่เป็นคนตัดสินใจกู้ยืมเงินทั้งหมดเอง จึงทำให้เกิดปัญหานี้ แต่ก็อยากจะฝากบอกถึงบริษัทที่ควบคุมพวกแอปพลิเคชัน ว่าแอปพลิเคชันสินเชื่อเหล่านี้ มันไม่ควรเข้ามาแสดงบนโทรศัพท์มือถือของเรา
ในขณะที่เรากำลังเล่นโซเชียลมีเดียอยู่ พร้อมกับย้ำว่าแอปพลิเคชันสินเชื่อความสุขนี้ ตนไม่เคยโหลดมาเลย และเมื่อพยายามจะลบมันก็ไม่สามารถลบได้
อย่างไรก็ตาม ตนมองว่าแอปฯสินเชื่อความสุข และอีกหลายแอปฯ ที่เป็นแอปฯย่อยของบริษัทกู้เงิน มันคือบริษัทเดียวกัน แต่แยกแอปพลิเคชันออกมา เพื่อกระจายการกู้ เพราะว่าตนสังเกตว่า ช่วงที่โอนเงิน ก็มักจะเป็นบัญชีซ้ำ ๆ จึงอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบ พร้อมกับมองว่าถ้าหากรัฐบาลรับทราบถึงปัญหาเหล่านี้ และมีสินเชื่อสำหรับคนที่มีรายได้น้อย ไม่สามารถไปกู้กับธนาคารได้ ก็จะดีมาก ๆ