แพทย์ชี้ ลักษณะท่านั่งและนอน รวมถึงโรคใกล้ตัว อาจทำให้เกิดกรดไหลย้อน วิจัยพบมีความเสี่ยงเพิ่มขึ้นถึง 11 เท่า
สาเหตุของโรคกรดไหลย้อนมีหลายประการ โดยทั่วไปเกี่ยวข้องกับการรับประทานอาหารมากเกินไปทั้งรับประทานของหวาน และการรับประทานอาหารทอด แต่ล่าสุดดร.เฉียน เจิ้งหง แพทย์โรคทางเดินอาหารและตับ ออกมาเผยแพร่องค์ความรู้ทางการแพทย์เกี่ยวกับ 1 ท่าทางที่สามารถทำให้เสี่ยงเกิดกรดไหลย้อนเพิ่มขึ้น
ตามรายงาน ดร.เฉียน เจิ้งหงระบุในเฟซบุ๊ก 錢政弘 胃腸肝膽科醫師 ว่าหนึ่งในสาเหตุหนึ่งที่คนส่วนใหญ่ไม่ค่อยสังเกตในการเกิดกรดไหลย้อน คือ “กระดูกสันหลังคด” การวิจัยจากมหาวิทยาลัยเคอิโอของญี่ปุ่นพบว่า คนที่มีกระดูกสันหลังส่วนอกและส่วนเอว “โค้งไปทางซ้าย” จะเพิ่มความเสี่ยงของโรคกรดไหลย้อน ยิ่งมุมของการคดมากเท่าไร อาการกรดไหลย้อนยิ่งรุนแรงมากขึ้นเท่านั้น ซึ่งอาจรุนแรงถึง 11 เท่า
ดร.เฉียน เจิ้งหงให้เหตุผลว่า “นี่เป็นเพราะกล้ามเนื้อกะบังลมที่อยู่ใกล้กับหูรูดกระเพาะอาหาร (จุดเชื่อมต่อระหว่างกระเพาะอาหารและหลอดอาหาร) ยึดติดกับจุดเชื่อมต่อระหว่างกระดูกสันหลังส่วนอกและส่วนเอว เมื่อกระดูกสันหลัง “โค้งไปทางซ้าย” จะทำให้ช่องท้องถูกบีบอัด ส่งผลให้กระเพาะอาหารและช่องเปิดหลอดอาหารเคลื่อนตัวและผิดรูป ทำให้เกิดกรดไหลย้อนและไส้เลื่อนที่ช่องหลอดอาหาร”
ดร.เฉียน เจิ้งหง เล่าว่า เขาสังเกตเห็นว่าผู้ป่วยโรคกรดไหลย้อนบางรายมีนิสัยชอบนั่งผิดท่า เมื่อนอนบนโซฟา ผู้ป่วยมักจะก้มตัวไปทางซ้ายหรือนอนตะแคงซ้าย เมื่อเวลาผ่านไป อาการนี้ทำให้เกิดโรคกระดูกสันหลังคดและหูรูดกระเพาะอาหารหย่อนได้ง่าย ซึ่งส่งผลให้โรคกรดไหลย้อนตามมา
ดร.เฉียน เจิ้งหงแนะนำว่าผู้ที่มีอาการกรดไหลย้อนหรือท้องอืดควรฝึกนิสัยการนั่งตัวตรง ไม่ควรนอนลงบนโซฟาทันทีหลังรับประทานอาหาร โดยสามารถนั่งตัวตรง ยืน หรือเดินได้ เพื่อช่วยย่อยอาหารได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งควรหลีกเลี่ยงการก้มตัวไปด้านซ้ายหรือนอนตะแคงซ้าย