หมอเจด เผย แหล่งเชื้อก่อ “มะเร็งกระเพาะ” อยู่ในตู้เย็น! เตือนพฤติกรรมเสี่ยงต้องระวัง-วิธีดูแลตู้เย็นอย่างไรให้ปลอดภัยจากเชื้อ

นพ.เจษฎ์ บุณยวงศ์วิโรจน์ รองผู้อำนวยการโรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา โพสต์ข้อความผ่านเพจเฟซบุ๊กชื่อ “หมอเจด” ระบุว่า ระวัง! แหล่งเชื้อก่อ “มะเร็งกระเพาะ” ที่มีเกือบทุกบ้าน

เชื่อว่าหลายๆ บ้านมีตู้เย็นนะ แต่หลายคนไม่รู้ว่า อาจกลายเป็นแหล่งของเชื้อ Helicobacter pylori หรือเรียกกันสั้นๆ ว่า H. pylori ซึ่งเกี่ยวข้องกับโรคกระเพาะอาหาร ไปจนถึงมะเร็งกระเพาะได้เลย

ไม่ได้มาพูดให้คนกลัวหรือตกใจนะ แต่อยากให้ทุกคนรู้ทัน และป้องกันได้มากกว่า มาดูกันดีกว่าว่าเชื้อตัวนี้มันมาเกี่ยวอะไรกับตู้เย็น แล้วเราควรจะดูแลยังไงให้ห่างไกลจากมันได้บ้าง

1.รู้จักเจ้า H. pylori กันก่อน H. pylori นี่เป็นแบคทีเรียรูปร่างเกลียวๆ เล็กๆ ที่สามารถอาศัยอยู่ในกระเพาะอาหารของเราได้แบบสบายๆ ทั้งที่มีกรดในกระเพาะ แต่มันก็ยังอยู่รอด แถมยังเจาะผนังกระเพาะเข้าไปอาศัยได้อีกต่างหาก และบางทีเราก็ติดเชื้อ H. pylori โดยไม่รู้ตัว เพราะส่วนใหญ่ไม่ค่อยมีอาการ

แต่ถ้าเมื่อไหร่มันแสดงอาการขึ้นมา ก็จะเป็นแบบที่เราไม่อยากเจอ เช่น แสบท้อง กรดไหลย้อน เรอเปรี้ยว หรือในเคสหนักๆ ก็กลายเป็นแผลในกระเพาะ หรือมะเร็งกระเพาะได้เลย

2.แล้วมันมาอยู่ในตู้เย็นได้ไงเนี่ย? หลายคนอาจสงสัยว่า ตู้เย็นมันเย็นจะตาย เชื้อจะอยู่รอดเหรอ? คำตอบคือ มันอยู่ได้ แค่ไม่โต แต่ก็ยังไม่ตาย

เชื้อ H. pylori มันมีความสามารถในการอยู่ในโหมด “นอนหลับ” ที่เรียกว่า VBNC (viable but non-culturable) คือเหมือนสลบไปชั่วคราว แต่ยังมีชีวิตอยู่ และพอร่ายกายเรารับเข้าไป ผ่านการกิน มันก็ตื่นกลับมาทำงานได้เหมือนเดิม

พฤติกรรมในตู้เย็นที่อาจช่วยให้เชื้อหลุดรอดเข้ามาได้ เช่น

  • วางอาหารดิบใกล้อาหารสุก
  • ของหมดอายุแต่ยังเก็บไว้
  • น้ำดื่มหรือน้ำล้างผักที่ไม่ได้ต้ม
  • ของกินอุ่นไม่ทั่วหลังแช่เย็น

พื้นที่โปรดของเชื้อในตู้เย็นอยู่ตรงไหนบ้าง? แม้ว่าเชื้อจะไม่โตในที่เย็น แต่มันก็มี “จุดโปรด” ในตู้เย็นที่แอบอยู่ได้เรื่อยๆ และรอจังหวะเข้าสู่ร่างกายเรา ซึ่งก็คือ

  • ชั้นล่างสุด โดยเฉพาะถาดรองน้ำหยด หรือบริเวณที่มีน้ำจากของดิบหยดลงมา ถ้าลืมล้าง เชื้ออยู่ได้เลย
  • ช่องเก็บผัก/ผลไม้ ความชื้นสูง เหมาะกับการอยู่นิ่งๆ ของเชื้อ โดยเฉพาะถ้าผักแค่ล้างผ่านๆ แล้วแช่เลย
  • มือจับตู้เย็น หรือปุ่มช่องฟรีซ ใช้กันทุกวันแต่ไม่ค่อยมีใครล้าง เชื้อที่ติดมากับมืออาจอยู่ตรงนี้ได้ง่ายมาก
  • กล่องเก็บอาหารซ้ำๆ กล่องที่ใส่อาหารค้างหลายวันแล้วเอามาใช้ใหม่โดยไม่ล้างดีๆ ก็เป็นแหล่งสะสมเชื้อได้
  • ขอบยางประตูตู้เย็น ชื้นบ่อยๆ แถมคนไม่ค่อยสังเกต เลยกลายเป็นที่เก็บคราบและแบคทีเรีย

แล้วช่องฟรีซล่ะ? เย็นขนาดนั้นไม่น่ารอดนะ? อันนี้ก็เข้าใจได้ เพราะหลายคนคิดว่า ช่องฟรีซ = ปลอดเชื้อ แต่อันที่จริงมันไม่ใช่แบบนั้นนะ

เชื้ออย่าง H. pylori หรือแบคทีเรียบางชนิด แม้จะแช่ใน -18°C มันไม่ขยายพันธุ์ก็จริง แต่ก็ “ไม่ตาย” และอยู่ได้เรื่อยๆ โดยเฉพาะถ้าแช่ของที่มีความชื้น หรือแช่แบบละลาย-แช่ใหม่วนไป

พฤติกรรมที่ควรระวัง

  • แช่ของดิบใกล้ของสุกในช่องเดียวกัน
  • ละลายน้ำแข็งแล้วเอาแช่ใหม่
  • ไม่ใช้กล่องปิดสนิท

3.วงจรการแพร่เชื้อ จริงๆ แล้วเชื้อ H. pylori สามารถแพร่เชื้อผ่านทางอาหาร น้ำดื่ม และเครื่องใช้ในครัวได้ ลองนึกภาพตามดูสิ

  • น้ำจากของดิบหยดลงของสุกในตู้เย็น
  • ใช้มีดหรือเขียงเดียวกันหั่นของดิบกับของกินเล่น
  • กล่องใส่อาหารไม่เคยล้าง แค่เอามาใส่อาหารใหม่ซ้ำๆ

สิ่งเหล่านี้อาจฟังดูเล็กน้อย แต่จริงๆ แล้วเชื้อสามารถส่งผ่านได้ โดยเฉพาะบ้านที่มีหลายคนใช้ตู้เย็นร่วมกัน ยิ่งถ้ามีเด็กหรือผู้สูงอายุ ก็ยิ่งต้องระวังเป็นพิเศษ

4.วิธีเช็กและดูแลตู้เย็นให้ปลอดภัยจากเชื้อ มาเช็กตู้เย็นกันดีกว่า ว่าเสี่ยงหรือเปล่า?

วิธีเช็กเบื้องต้น

  • มีอาหารค้างมาหลายวันไหม?
  • อาหารดิบกับสุกแยกกันรึยัง?
  • มีน้ำขังหรือคราบอะไรอยู่มั้ย?
  • ล้างตู้เย็นล่าสุดเมื่อไหร่?

แล้วลองทำตามนี้ดู

  • แยกของดิบกับสุกให้ชัดเจน และใช้กล่องปิดมิดชิด
  • ใช้กล่องแยกประเภทอาหาร ไม่ใช้กล่องเดิมซ้ำหลายครั้ง
  • ล้างตู้เย็นเดือนละครั้งก็ยังดี
  • เช็กวันหมดอายุเสมอ ทิ้งของที่มีกลิ่น สี หรือเนื้อแปลกๆ

5.เรื่องเล็กที่ไม่เล็กเลย ถ้าพลาดไป ถึง H. pylori จะดูเป็นแค่แบคทีเรียธรรมดา แต่มันสามารถอยู่ในร่างกายเราได้นานหลายปี และทำให้เกิดโรคเรื้อรังได้แบบไม่รู้ตัว

หลายคนมีอาการแสบท้องบ่อยๆ แต่ไม่คิดว่าอาจเกิดจากเชื้อนี้ จนวันหนึ่งเริ่มมีแผลในกระเพาะ หรือโรคที่ต้องรักษากันยาว ฉะนั้น ถ้าเริ่มดูแลได้จาก “ตู้เย็น” ซึ่งเป็นจุดเริ่มของอาหารในบ้าน ก็ช่วยลดความเสี่ยงการติดเชื้อ และลดความเสี่ยงมะเร็ง

“สุดท้ายนี้ แค่เริ่มจากดูแลตู้เย็น ก็เหมือนดูแลสุขภาพเราได้เยอะเลยนะ ย้ำอีกครั้งนะว่าไม่ได้มาพูดให้คนตกใจหรือกลัวนะ แต่อยากให้หมั่นสังเกต หมั่นจัดการ และไม่มองข้ามจุดเล็กๆ พวกนี้ เชื้ออย่าง H. pylori ก็ไม่มีทางได้โอกาสอยู่กับเรานานแน่นอน เพราะแค่เราดูแลตู้เย็นให้ดี อาจช่วยลดความเสี่ยงมะเร็งกระเพราะได้เลยนะ” นพ.เจษฎ์ ระบุ

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน