ผู้กองธร เล่านาทีสบตาทิดแย้ม เจอกัน 2 ครั้ง คราแรก เขามองด้วยหางตา ผิดปกติพระผู้ใหญ่ พอเจออีกรอบ รู้เลยว่า เกมแน่ ลั่นไม่กลัว หากอนาคต ต้องปลอมตัวอีก

วันที่ 20 พ.ค.2568 ร.ต.อ.นิติธร ประชันกาญจนา หรือ ผู้กองธร สังกัดกองปราบปราม เปิดใจกับข่าวสดว่า สำหรับภารกิจปัดกวาดวัดไร่ขิงนั้น ตนเคยสบตากับทิดแย้มถึง 2 ครั้งด้วยกัน โดยตนต้องสังเกตการใช้ชีวิตประจำวัน การใช้โทรศัพท์มือถือว่าใช้บ่อยแค่ไหน อีกทั้งส่วนตัวยังไม่สามารถไปถามใครได้เลย เพราะเป็นงานลับ ต้องไปล้วงออกมาเอง นี่คือภารกิจที่สำคัญ หากไปทำให้อีกฝ่ายแคลงใจ เราก็จะเข้าไปเจาะลึกไม่ได้อีก

“มันคืองานที่หนักมาก สำหรับตำรวจธรรมดา เข้าไม่ถึงแน่”

ส่วนการจ้องตากันนั้น ครั้งแรก ตนสบตากับทิดแย้ม แต่ไม่ได้ยกมือไหว้ แค่เดินผ่าน อีกฝ่ายมองอย่างระแวง ใช้หางตาสบ ซึ่งไม่ปกติสำหรับพระผู้ใหญ่ มันต้องมีอะไรที่เขาระแวงอยู่ ทั้งนี้ตอนนั้นตนก็ไม่ได้กังวลอะไร เจอกันครั้งนั้น ตนก็ไม่ได้เข้าใกล้อีกเลย ส่วนที่ไปสบตาครั้งแรกนั้น เพื่อหยั่งเชิงว่า ทิดแย้มรู้สึกอย่างไร ซึ่งตนนั้นก็สงสารเขา เหมือนเขารู้ว่าจะเกมแล้ว

ส่วนครั้งที่ 2 นั้น เราได้สะกดรอยตามเขา เห็นอีกฝ่ายใช้มือถือตลอดเวลา เชื่อว่าอีกฝ่ายระแวง แต่ไม่ได้สงสัยอะไร เพราะเราก็แต่งตัวเป็นชาวไร่ เจอกันที่จังหวัดลพบุรี ตอนเดินสวนกัน ตอนเข้าห้องน้ำ ทิดแย้มจำตนไม่ได้ด้วย

งานที่ยากที่สุดของภารกิจนั้น คือการหาตัวความสัมพันธ์ระหว่างทิดแย้มกับอรัญญาวรรณ ว่ามีความสัมพันธ์กันอย่างไร ในลักษณะใด และเส้นทางการเงินที่เอาออกจากบัญชีวัด ไปเข้าบัญชีทิดแย้ม วิ่งเข้าสู่บัญชีของอรัญญาวรรณ การหาความเชื่อมโยงนี้ คือโจทย์ที่ตนได้รับคำสั่งให้มาหาข้อเท็จจริง ถือว่าสุดยากมาก

การหาความสัมพันธ์ของทิดแย้มกับอรัญญาวรรณนั้น ใช้เวลา 5-6 เดือน ทีแรกตั้งไว้ว่าน่าจะเป็นเรื่องชู้สาว พอสืบไป พบว่าฝ่ายหญิงมีคนรักแล้ว แสดงว่าความสัมพันธ์นี้เป็นเรื่องอื่น คาดว่าในอดีตทั้งสองน่าจะมีเรื่องชู้สาวกัน แต่ปัจจุบันไม่มีเรื่องแบบนั้นแล้ว ช่วงเวลา 8 เดือนที่ตนสืบคดี ไม่พบเรื่องนี้ คาดว่าอรัญญาวรรณน่าจะเก็บความลับในมือถือ พร้อมจะแฉ ทำให้ทิดแย้มกลัวว่าความลับจะเปิดเผย เลยต้องยอมโอนเงินให้หญิงสาว ไม่มีก็ต้องไปยืม เพราะกลัวจะถูกแฉ

ทีแรก เจ้าหน้าที่สันนิษฐานว่า ทิดแย้มเล่นการพนัน แต่สุดท้ายก็พบว่าไม่ใช่ กลายเป็นว่าอรัญญาวรรณเก็บความลับ โทร.มาขู่ ให้โอนเงิน ไม่อย่างนั้นจะแฉ จะไม่คุยด้วย หลังจับกุมทั้งสองฝ่ายให้การสอดคล้องกัน พบว่าการโอนเงินไปให้หญิงสาว เพื่อให้เขาได้เล่นพนัน

ตนทำงานด้วยจิตวิญญาณ ทำงานด้วยความเป็นตำรวจอาชีพ ความเหนื่อยมันมี แต่ก็ทำงานด้วยสนุก ยิ่งมีทีมที่ดีและชำนาญในการสืบค้นข้อมูล ป้อนข้อมูลให้ภาคสนาม เมื่อเจอข้อมูลมากยิ่งขึ้น ส่งให้ทีมงานวิเคราะห์ ทุกอย่างเหมือนเล่นเกม ต่อจิ๊กซอว์ พอทุกอย่างเสร็จสมบูรณ์ จับผู้ต้องหาได้ หายเหนื่อยเลย

ทั้งนี้งานสืบสวนของตนในอนาคต น่าจะทำได้เหมือนเดิม เพราะการที่เราเจอผู้ต้องหา พบแค่ตอนแสดงหมาย เราไม่ไปพบผู้ต้องหาช่วงอื่น เรามีการพรางตัวทั้งวิก ทั้งหนวด ไม่กังวล หากจะต้องไปทำอีกต่อไป

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน