“ช้างศึก” ทีมฟุตบอลทีมชาติไทยชุดใหญ่ ที่เตรียมลงสนามศึกฟุตบอลชิงแชมป์อาเซียน “เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ 2016” รอบรองชนะเลิศ นัดที่สอง ด้วยการเปิดราชมังคลากีฬาสถาน รับการมาเยือนของ พม่า 8 ธ.ค. เวลา 19.00 น. ช่อง 7 ถ่ายทอดสด โดยที่เกมนัดแรกไทยสามารถบุกไปตุนชัยชนะมาได้ก่อน 2-0 แล้วนั้น
ล่าสุดเมื่อ 7 ธ.ค. ที่โรงแรมดิเอ็มเมอรัลด์ ได้มีการประชุมผู้จัดการทีม พร้อมกับแถลงความพร้อมของเกมการแข่งขัน โดย “ซิโก้”เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง หัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมชาติไทย แถลงร่วมกับ แกร์ด ไซเซ โค้ชชาวเยอรมันของเมียนมา
ซิโก้ กล่าวว่า แม้ว่าไทยจะกุมความได้เปรียบจากเกมแรกมา 2 ประตู แต่พยายามบอกนักเตะในทีมเสมอว่า ให้เล่นด้วยความรู้สึกที่ยังเสมอกันอยู่ 0-0 จะต้องเล่นให้เต็มที่และเก็บชัยชนะต่อหน้าแฟนบอลให้ได้ ตอนนี้ราชมังคลาเปรียบเสมือนนรกของทีมเยือน เพราะมีแฟนบอลเข้ามาชมมาก ดังนั้นจะต้องโชว์ฟอร์มให้ดีที่สุด
“เป้าหมายของทีมคือการเก็บชัยชนะในทุกๆ เกม แต่ไม่อยากให้นักเตะรู้สึกกดดันมากเกินไป ขณะที่นักเตะที่มีใบเหลืองอยู่นั้น ไม่กังวล เพราะไทยมีนักเตะ 23 คนที่สามารถทดแทนกันได้หมด มีหลายแผนการที่สามารถปรับได้ในทุกช่วงเวลา ทุกคนเข้าใจแท็กติกเป็นอย่างดี ซึ่งถือเป็นเรื่องดีที่คนจะสามารถจับทางทีมไทยได้ยาก”
เฮดโค้ชทีมชาติไทย กล่าวปิดท้ายว่า นักเตะของเมียนมาชุดนี้ยังเป็นวัยรุ่น แน่นอนว่าพวกเขาจะยังมีความมุ่งมั่นอย่างมากในเกมนี้ อีกทั้งเกมรุกของอันตราย ดังนั้นนักเตะไทยจะประมาทไม่ได้เด็ดขาด จะต้องเล่นฟุตบอลให้สวยงาม เล่นให้สนุก และผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศให้ได้
ด้าน แกร์ด ไซเซ กล่าวว่า ก่อนอื่นต้องขอแสดงความยินดีกับไทยที่เหมือนก้าวเข้าชิงไปแล้วครึ่งก้าว แต่เกมนี้พม่าจะทำผลงานให้ดีที่สุด โดยไม่ใช่แค่เรื่องสกอร์ แต่จะโชว์ฟอร์มที่ดีที่สุดออกมา ไทยเป็นทีมใหญ่ซึ่งจะต้องทำงานหนักที่สุดเท่าที่จะทำได้
“ก่อนอื่นต้องไม่ผิดพลาดในเกมรับ ซึ่งเมียนมาสามารถเล่นได้ในหลายรูปแบบ และสามารถทำได้ดีกว่านี้ อย่างไรก็ตามยืนยันได้ว่าจะไม่เห็นนักเตะพม่า 10 คนไปยืนเล่นเกมรับในกรอบเขตโทษแน่นอน ที่ผ่านมาทีมสร้างโอกาสได้มาก แต่มีปัญหาเรื่องจบสกอร์ หวังว่าจะมีโชคมากกว่านี้ในการเล่น” โค้ชพม่ากล่าวปิดท้าย
จากนั้นช่วงเย็นทีมชาติไทยไปฝึกซ้อมที่ราชมังคลากีฬาสถาน โดยทบทวนระบบการเล่นและเซตตัวผู้เล่นที่จะลงเจอกับพม่า โดยสภาพทีมไม่มีปัญหาผู้เล่นมีอาการบาดเจ็บแต่อย่างใด
สำหรับผู้เล่น 11 คนแรกของทีมชาติไทยที่คาดว่าจะลงสนาม มาในระบบ 4-3-3 นำโดย กวินทร์ ธรรมสัจจานันท์, ทริสตอง โด, ธนบูรณ์ เกษารัตน์, กรวิทย์ นามวิเศษ, ธีราทร บุญมาทัน กองกลาง สารัช อยู่เย็น, ปกเกล้า อนันต์ และ “เมสซี่เจ” ชนาธิป สรงกระสินธ์ แนวรุกขวาเป็น รุ่งรัฐ ภูมิจันทึก แนวรุกซ้ายใช้ เกริกฤทธิ์ ทวีกาญจน์ โดยมี “กัปตันมุ้ย” ธีรศิลป์ แดงดา ดาวซัลโวของทีมเป็นกองหน้าตัวเป้า
ขณะที่เมียนมานำโดย อ่อง ธู ดาวยิงความเร็วสูง และ กวง แซต เนียง ผู้เล่น สมุทรสาคร เอฟซี ทีมระดับดิวิชั่น 2 ของไทย
สถิติที่ผ่านมา ไทย กับพม่า เจอกันมา 7 ครั้งในรายการนี้ ซึ่งไทยยังไม่เคยแพ้พม่า โดยแบ่งเป็นชนะ 4 เสมอ 3 ขณะที่ ธีรศิลป์ ถือว่าถูกโฉลกกับพม่า โดยซัดไปแล้วถึง 5 ประตู มาจากแฮตทริก เกมรอบแรกเมื่อปี 2012 ในชัยชนะ 4-0 และการเหมา 2 ลูก ที่ย่างกุ้ง เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา
