การแข่งขันมวยสากลสมัครเล่น ศึกเอเชียนเกมส์ 2018 ที่จาการ์ตาอินเตอร์เนชันแนล เอ็กซ์โป เมื่อวันที่ 28 ส.ค. สายลม อาดี นักชกดีกรีโอลิมปิก 3 สมัย ขึ้นชกรุ่น 69 กก. ชาย พบกับ ซาจจาด คาเซมซาเดห์ พอชติรี จากอิหร่าน

ไฟต์นี้ นักชกไทย แม้ว่าจะอายุ 29 อาศัยประสบการณ์ชก ไล่ต้อนกำปั้นอิหร่าน ก่อนจะชนะคะแนนเอกฉันท์ 5-0 ทำให้ สายลม การันตีคว้าเหรียญทองแดงอีกราย และเป็นผลงานที่ดีที่สุดของเจ้าตัวในเอเชียนเกมส์ โดยครั้งนี้เป็นเอเชียนเกมส์ ครั้งที่ 4 ของเจ้าตัว

สำหรับคู่ต่อสู้ในรอบต่อไป สายลม จะพบกับ โบโบ อุสมัน บาตูรอฟ จากอุซเบกิสถาน

หลังการชก สายลม กล่าวว่า “ไฟต์นี้กดดันเพราะว่าเพื่อนๆได้เหรียญกันเยอะแล้ว กลัวว่าตัวเองจะไม่มีโอกาสได้บ้าง ภูมิใจที่คว้าเหรียญเอเชียนเกมส์ เหรียญแรกได้ อยากมอบเหรียญนี้เป็นของขวัญวันเกิดให้พ่อ”

ส่วนรุ่น 52 กก. ชาย รอบ 8 คนสุดท้าย “ดัง” ยุทธพงษ์ ทองดี ซึ่งได้โอกาสลงสนามในเอเชี่ยนเกมส์ ครั้งแรก ดวลกำปั้นกับ กาน-เออร์เดน กานคูยัก จากมองโกเลีย

โดยคู่นี้ นักชกไทยเดินหน้าบุกใส่ตั้งแต่ยกแรก ก่อนจะมาโกยแต้มได้หลายหมัดในช่วงยกที่ 3 ที่เจ้าต้อนไล่ต้อนจนคู่ต่อสู้เริ่มหมดแรง ผลการแข่งขัน ยุทธพงษ์ ชนะคะแนน 3-2

ส่งผลให้ ยุทธพงษ์ ผ่านเข้ารอบรองชนะเลิศ และการันตีเหรียญทองแดงเป็นคนที่ 3 ของทัพนักชกไทย ต่อจาก สุดาพร สีสอนดี และ รุตชการญ์ จันทร์ตรง โดยจะเข้าไปพบกับ โรเกน ลาดอน จากฟิลิปปินส์ ในรอบตัดเชือก

หลังการชก “ดัง” เผยว่า “พอใจกับไฟต์นี้ ชกได้ตามแผนที่วางไว้ ตอนนี้เป้าหมายคว้าเหรียญทองกลับไปให้ได้ ความมั่นใจเต็มเปี่ยม นาทีนี้เจอใครก็ได้”

รุ่น 60 กก. หญิง รอบก่อนรองชนะเลิศ “แต้ว” สุดาพร สีสอนดี กำปั้นสาววัย 26 ปี ดีกรีเหรียญทองแดงชิงแชมป์โลก ปี 2014 ดวลกำปั้นกับ ริมมา โวลอสเซนโก จากคาซัคสถาน

สุดาพร

ตลอดการชกเป็นนักมวยสาวไทยที่ออกหมัดได้มากกว่าและเข้าเป้ากว่า แม้จะโดนตัดแต้มในยกที่ 3 แต่ก็ยังชนะคะแนน 4-1 เสียง ผ่านเข้ารอบรองชนะเลิศได้สำเร็จ พร้อมการันตีเหรียญทองแดง โดยจะเข้าไปพบกับ ฮาซานาห์ ฮุสวาตุน นักชกเจ้าภาพ

นอกจากนี้ยังทำให้ “แต้ว” กลายเป็นนักชกหญิงไทยคนที่ 2 ที่ได้เหรียญเอเชี่ยนเกมส์ ต่อจาก ทัศมาลี ทองจันทร์ ที่เคยคว้าเหรียญเงิน ในเอเชี่ยนเกมส์ที่กว่างโจว เมื่อปี 2010

สุดาพร

หลังการชก “แต้ว” เผยว่า “ไฟต์นี้ตื่นเต้นและกดดันมาก แต่พอชนะได้ก็เหมือนได้ปลดปล่อยความกดดัน และดีใจมากที่ได้เหรียญทองแดงครั้งแรกได้สำเร็จ ซึ่งอยากมอบเป็นของขวัญให้แม่ สำหรับรอบต่อไปก็ตั้งใจจะทำผลงานให้ดีขึ้นเรื่อยๆ โดยเป้าหมาย คือ อยากได้เหรียญทอง”

ขณะที่ นายสมชาย พูลสวัสดิ์ ประธานฝ่ายเทคนิค สมาคมกีฬามวยสากลแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า “ถือว่าน้องๆ ทุกคนทำได้อย่างเต็มที่ และทางสต๊าฟโค้ชก็ได้วางแผนมาแมตช์ต่อแมตช์ ซึ่งต้องชื่นชมทั้งนักมวย และโค้ช โดยถึงตอนนี้ก็ยังเป็นไปตามเป้า และยังอยู่ในเส้นทางคว้าเหรียญทองได้ ซึ่งถ้าดูตามเส้นทางคิดว่าทัพกำปั้นไทยมีความมั่นใจมากขึ้นในการคว้าทอง สำหรับนักชกดาวรุ่งหน้าใหม่ที่เข้าร่วมเอเชี่ยนเกมส์เป็นครั้งแรกก็ถือว่าทำผลงานได้ดี ซึ่งต้องให้เครดิตสต๊าฟโค้ชที่ทำให้นักชกมีความแข็งแรง และช่วงท้ายยกก็ไม่มีแผ่วเลย”

ทางด้าน รุ่น 60 กก. ชาย รอบก่อนรองชนะเลิศ “กี้” รุตชการญ์ จันทร์ตรง ดาวรุ่งวัย 22 ปี ซึ่งประเดิมเอเชียนเกมส์ครั้งแรก พบกับ ฟาร์รานด์ ปาเปนดัง จากอินโดนีเซีย

ผลปรากฏว่า รุตชการญ์ ต่อยได้เหนือชั้นกว่าทั้งสามยก ชนะคะแนนเอกฉันท์ 5-0 ตีตั๋วเข้ารอบรองชนะเลิศ พร้อมการันตีเหรียญทองแดงทันที โดยคู่ต่อสู้ในรอบตัดเชือกของเจ้าตัว คือ ชุนคอร์ อับดูราซูลอฟ ดาวรุ่งวัย 20 ปี จากอุซเบกิสถาน

หลังจบไฟต์ “กี้” กล่าวว่า “ไฟต์นี้ก็ประทับใจกับฟอร์มของตัวเอง สู้อย่างเต็มที่แล้ว เจอกับเจ้าภาพวันนี้ไม่กดดัน โค้ชบอกให้ชกแบบสบายๆ ตอนนี้ดีใจมากที่ได้การันตีเหรียญทองแดงแล้วเพราะเป็นเอเชี่ยนเกมส์ครั้งแรก ตอนนี้มั่นใจเต็มร้อย หลังจากนี้เจอใครก็ได้”

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน