แสตมป์ – อภิวัฒน์ – การแข่งขันจักรยานยนต์ทางเรียบชิงแชมป์โลก โมโต จีพี รายการ พีทีที ไทยแลนด์ กรังด์ปรีซ์ ซึ่งเป็นสนามที่ 15 ของฤดูกาลที่สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์ เมื่อวันเสาร์ที่ 6 ตุลาคมที่ผ่านมา เป็นการแข่งขันรอบควอลิฟายเพื่อจัดอันดับสตาร์ท รุ่น โมโตทรี เวิลด์ แชมเปี้ยนชิพ ผลการควอลิฟายวันนี้

ปรากฏว่า “แสตมป์” อภิวัฒน์ วงศ์ธนานนท์ นักบิดดาวรุ่ง ยามาฮ่า ไทยแลนด์ เรซซิ่งทีม ซึ่งได้รับสิทธิ์ไวลด์การ์ดลงทำการแข่งขันในนามสังกัด วีอาร์ 46 มาสเตอร์ แคมป์ ทีมของ “เดอะ ด๊อกเตอร์” วาเลนติโน่ รอสซี่ กระชากคันเร่งรถแข่งหมายเลข 9 ที่เซ็ทอัพสมบูรณ์ลงตัว พร้อมงัดฟอร์มการขับขี่แชมป์เอเชียไล่กดเวลาเบียดกับคู่แข่งในรอบควอลิฟายแบบสุดมันส์จนถึงรอบสุดท้าย ก่อนทำเวลาต่อรอบดีที่สุดอยู่ที่ 1.43.071 นาที คว้าตำแหน่งกริดสตาร์ทที่ 15 โดยมีเวลาตามหลังตำแหน่งผู้นำที่คว้าโพลโพซิชั่นอยู่เพียง 0.836 วินาที เท่านั้น แต่ก็ถือเป็นผลควอลิฟายที่ดีที่สุดของนักบิดไทยที่ลงแข่งขันในรุ่นนี้ พร้อมมีลุ้นคว้าแต้มแรกต่อหน้ากองเชียร์ชาวไทยที่ สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต ในการเข้าร่วมเกมการแข่งขันระดับเวิลด์ กรังซ์ปรีซ์ ครั้งแรกในชีวิตบนแทร็คโฮมเรซ

โดยแสตมป์ ตามหลังเจ้าของโพลอย่าง มาร์โก เบซเซ็คคี นักบิดอิตาเลียนจาก รีด็อกซ์ พรุสเทล จีพี เพียง 0.836 วินาที ส่วนกริดที่ 2 เป็นของ ฆัวเม มาเซีย นักบิดดาวรุ่งชาวสแปนิชจาก เบสเตอร์ แคปิตอล ดูไบ ตามหลัง 0.462 วินาที ขณะกริดที่ 3 เป็นของ คาซูกิ มาซากิ นักบิดญี่ปุ่นจาก อาร์บีเอ บีโออี สกุลล์ ไรเดอร์ ตามหลัง 0.481 วินาที ทั้งนี้ อภิวัฒน์ มีคิวลงบิดรอบชิงชนะเลิศของศึก โมโตทรี ในวันอาทิตย์ที่ 7 ตุลาคมนี้ เวลา 11.00 น. ส่วนเกมในรุ่น โมโตทรี จะแข่งขันกันในเวลา 14.00 น.

แสตมป์ อภิวัฒน์ กล่าวว่า ทีมงานได้มีการเซ็ทอัพโช้คอัพหน้าใหม่ทำเวลาลงมาได้ดีเหมือนกัน แต่พอเราจะข้ามลิมิตไปอีกขั้นรถก็มีอาการอีก เราก็พยายามรักษาตรงนี้เอาไว้ ค่อยๆ ไปที่ละขั้นเพราะถ้าไปเร็วกว่านี้เหมือนหน้าจะพับลง ซึ่งหลังจากควอลิฟายเสร็จก็ได้คุยกับช่างถึงปัญหาเพื่อนำไปแก้ไขสำหรับการแข่งขันในวันพรุ่งนี้ ส่วนในเรื่องยางเราใช้ยาง หน้าซอฟท์ หลังมีเดียม ซึ่งก็ให้ความรู้สึกที่ดีในระดับนึง แต่ถ้ารถมีอาการน้อยกว่านี้ก็น่าจะไปได้เร็วกว่านี้

ส่วน นายธีระพงษ์ โอภาสกรกุล บอสใหญ่ของ ยามาฮ่า ไทยแลนด์ เรซซิ่งทีม กล่าวหลังจบการควอลิฟายว่า วันนี้เราควอลิฟายจบในอันดับที่ 15 ซึ่งจริงๆ เรามีโอกาสที่จะทำได้ดีกว่านี้ เพราะในช่วงแรกแสตมป์ทำเวลาได้เร็วมาก โดยเฉพาะในรอบสุดท้ายเวลาแดงในทุกเซ้กเตอร์แต่มีเสียจังหวะติดในช่วงโค้งสุดท้ายเล็กน้อยก็เป็นที่น่าเสียดาย แต่ก็ต้องถือว่าอันดับที่ 15 เป็นตำแหน่งที่ดีสำหรับนักแข่งไวลด์การ์ด สำหรับผมถือว่าดีมาก และยังเป็นตำแหน่งที่ดีที่สุดของนักแข่งไทยที่ลงในรุ่นนี้ และมีระยะห่างจากผู้นำเวลา 0.836 ก็ถือว่าห่างไม่มากนัก แสตมป์จะลงแข่งขันด้วยความมั่นใจที่เต็มเปี่ยม บวกกับตัวรถที่ตอนนี้ก็สมบูรณ์พร้อม เรามีโอกาสคว้าแต้มต่อหน้ากองเชียร์ชาวไทยในสนามช้างฯ อย่างแน่นอนครับ

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน