บิ๊กอ๊อด พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ เผย อเล็กซานเดอร์ กามา กุนซือบราซิเลีย เซ็นคุมเยาวชน 23 ปีไทย แค่ 1 ปี ชี้ให้ผลงานพิสูจน์ตัวเอง แอบหวังเห็นเด็กไทยในฟุตบอลโอลิมปิก 2020 ที่กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น

วันที่ 5 พ.ย. ที่ห้องประชุม สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ “บิ๊กอ๊อด” พล.ต.อ. สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง นายกสมาคมฯ ให้โอวาทแก่ นักฟุตบอลชายทีมชาติไทย ชุดปรีโอลิมปิก ก่อนเก็บตัว และเดินทางไปแข่งขันฟุตบอลรายการสี่เส้า ที่เมืองหวานโจว ประเทศจีน ระหว่างวันที่ 12-20 พ.ย.

การรายงานตัวครั้งนี้ นักฟุตบอลทั้งหมดต่างเดินทางมารายงานตัวกันครบ นำโดย วรชิต กนิตศรีบำเพ็ญ,เอกนิษฐ์ ปัญญา โดยผู้เล่นทั้งหมด 8 คนคือ ชินภัทร์ ลีเอาะ, กรวิชญ์ ทะสา, ธัญพิสิษฐ์ คุขะละโม, จักรกฤษณ์ เวชภิรมย์, สรวิทย์ พานทอง และ ศิริมงคล จิตบรรจง จะตามมาสมทบเย็นวันนี้ ส่วน อภิสิทธิ์ โสรฎา และ ณัฐวุฒิ สุขสุ่ม ที่ติดภารกิจส่วนตัวจะตามมาสมทบในวันถัดไป

“บิ๊กอ๊อด” กล่าวว่า “สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ได้บรรลุข้อตกลงกับโค้ช อเล็กซานเดอร์ กามา และทีมงาน โดยสมาคมมอบหน้าที่โค้ชทีมชาติไทย ยู-23 ให้ กามา เป็นผู้รับผิดชอบ เรามีข้อตกลงกันว่าในช่วงเวลานี้ โค้ชกามา จะต้องทำหน้าที่เป็นโค้ช และที่สำคัญจะต้องพาทีมชาติไทย ไปสู่การแข่งขันกีฬาโอลิมปิก ที่ประเทศญี่ปุ่น”

“ซึ่งจากการพูดคุย กามาเองมีความประสงค์ที่อยากจะมาคุมทีมชาติ และมีความมุ่งมั่นตั้งใจ ที่จะพาทีมชาติไทยชุดยู-23 ไปแข่งขันโอลิมปิกที่ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งถือว่าสมาคมและโค้ชกามา ได้ตกลงข้อเสนอแนะต่างๆ เงื่อนไขต่างๆ เป็นที่เรียบร้อย สัญญาในเบื้องต้น ทางกามา ต้องการสัญญาแค่ปีเดียว เพราะเขาต้องการพิสูจน์ผลงานก่อน ถ้าเขาสามารถสร้างผลงานได้ดี จะมีการเจรจาต่อสัญญา ถือว่าเป็นเรื่องที่ดี ที่สมาคมไม่ต้องผูกมัด เช่นเดียวกับ กามา และเป็นความเห็นชอบของทั้งสองฝ่ายจะได้ไม่อึดอัด ถ้าสิ่งที่ตกลงกันไว้ไม่เป็นไปตามต้องการ”

“ผมพูดเสมอว่าการแข่งขันฟุตบอลเป็นความคาดหวังของแฟนบอลชาวไทย ที่อยากจะเห็นผลงานทีมฟุตบอลทีมชาติไทย แม้ว่าจะเดินทางไปประเทศจีน จะเป็นการแข่งขันฟุตบอลกระชับมิตร แต่คนไทยต้องการเห็นผลงานที่ดี หรือทีมที่มีศักยภาพภายใต้การนำพาของโค้ชกามา หรือเห็นการเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้น”

“เพราะแฟนบอลชาวไทย ดูบอลเป็น บอลแพ้ไม่เป็นไร แต่ถ้าทรงบอล วิธีการเล่น เทคนิคการเล่นเป็นที่ยอมรับ แฟนบอลชาวไทยจะรับได้ในสิ่งที่เกิดขึ้น ถึงแม้ว่าการเตรียมทีมครั้งนี้ จะเป็นช่วงเวลาสั้นๆ และต้องรีบเดินทางไป แต่โค้ชกามาอยู่ในประเทศไทย เป็นระยะเวลานาน รู้จักนักฟุตบอลไทยเป็นอย่างดี และรู้ว่ามีความสามารถมากน้อยแค่ไหน”

“การประเมินผลงานกามา ขึ้นอยู่กับการได้ไปญี่ปุ่น ส่วนเรื่องโค้ชไทยที่จะมาเป็นผู้ช่วย เรายังไม่ได้สรุป ต้องมีการเลือกกันอีกครั้ง ส่วนนักกีฬาที่ปฏิเสธ อยู่ที่โค้ชกามา เขาบอกว่าน่าเสียดาย ที่นักกีฬาบางคนปฏิเสธการทำหน้าที่ในฐานะทีมชาติไทย อาจจะเป็นเรื่องที่เขาซึ่งเป็นโค้ชต่างชาติ และมีความมืออาชีพเลยผิดหวัง”

ด้าน กามา กล่าวว่า “ผมรู้สึกทะเยอะทะยาน และมุ่งมั่นที่จะทำในสิ่งนี้ แม้ผมจะเป็นผู้ช่วยโค้ชทีมชาติเกาหลีมาแล้ว หรือคุมทีมที่กาตาร์ และประสบความสำเร็จกับสโมสรในไทย แต่การคุมเด็กชุดนี้ถือเป็นอีกความท้าทาย ที่ผมอยากเอาแนวทางและความทะเยอทะยานมาสร้างความมั่นใจให้กับนักกีฬาเหล่านี้ ว่าเราสามารถสร้างความสำเร็จอะไรบางอย่างด้วยกันได้”

“ก่อนอื่นผมขอปฏิเสธว่าผมไม่ได้คุยกับสมาคมมาเป็นระยะเวลานาน เพราะผมเพิ่งสัมภาษณ์กับสมาคมได้เพียงครั้งเดียว และสมาคมเพิ่งตัดสินใจเลือกผม หลังจากที่การแข่งขันฟุตบอลช้าง เอฟเอ คัพ จบ หลังจากนั้นเพิ่งเซ็นสัญญากับสมาคม”

“สิ่งแรกที่ผมจะปรับกับนักเตะเหล่านี้ก็คือเรื่องทัศนคติ ความกระหายในชัยชนะ ซึ่งเป็นแนวทางที่ผมทำมาตลอด ผมอยากสร้างความภูมิใจว่า เมื่อคุณติดทีมชาติแล้ว ขอให้ทุกคนภูมิใจและทำมันให้เต็มที่ และผมจะผลักดันเด็กเหล่านี้ด้วยแนวทางที่ผมทำไป”

“ส่วนนักเตะที่ปฏิเสธการติดทีมชาติ ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไร ผมขอคุยกับเขาเป็นการส่วนตัวก่อน แต่ในความคิดของผมคือผมมาจากบราซิล ถ้าเป็นนักฟุตบอลบราซิลจะไม่มีใครปฏิเสธ เพราะการติดทีมชาติคือความฝันสูงสุด”

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน