“เสี่ยเหน่ง” นายศุภสิน ลีลาฤทธิ์ อุปนายกฝ่ายจัดการแข่งขันสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ พร้อมด้วย นายเบนจามิน ตัน ผู้อำนวยการฝ่ายคลับ ไลเซนซิ่ง และรองประธานบริหารบริษัท ไทยลีก จำกัด, นายกรวีร์ ปริศนานันทกุล ประธานฝ่ายจัดการแข่งขันไทยลีก 3-4 ร่วมกันจัดการประชุมผู้จัดการทีม เพื่อให้ความรู้เกี่ยวกับการแข่งขันฤดูกาล 2017 ทั้งเรื่องกฏ กติกา การแข่งขันที่มีการเปลี่ยนแปลง, โครงสร้างการแข่งขัน, การทำการตลาด ให้ผู้จัดการทีมในศึกไทยลีก 1-4 ที่สโมสรตำรวจ วิภาวดีรังสิต เมื่อวันที่ 12 มกราคม

 

นายศุภสิน กล่าวว่า การอบรมเป็นการทบทวนโร้ดแมป และรายละเอียดเรื่องลีกสำรองให้รับทราบในเรื่องผู้เล่นโควต้า อาเซียน และการเตรียมความพร้อมสำหรับลีกที่จะเริ่มวันที่ 11 กุมภาพันธ์นี้ โดยการเปลี่ยนที่เน้นเป็นพิเศษสำหรับลีกสูงสุดคือ เรื่องทีมสำรอง ส่วนไทยลีก 2-4 เป็นเรื่องโควต้าอาเซียน อีกสิ่งที่สำคัญคือ แต่ละทีมจะต้องมีผู้ช่วยที่อยู่กับโค้ช เพื่อช่วยเหลือผู้ควบคุมการแข่งขัน หรือผู้ประสานงานทั่วไป ในส่วนผู้ควบคุมการแข่งขันก็จะปรับเรื่องการใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วยมากขึ้น และทุกอย่างจะอยู่ในคอมพิวเตอร์มากขึ้น
“ตอนนี้ลีกสำรองได้รับความสนใจจากทีมในลีกสูงสุด 9-10 ทีม ถ้าทั้งหมดแข่งขันไม่มีปัญหาก็อาจจะขยายลงไปให้ทีมที 2 ส่งทีมสำรองลงเล่นด้วย ลีกสำรองทั้งหมดจะแข่งขันในที 4 แต่ทุกทีมจะไม่มีสิทธิขึ้นชั้น และไม่ได้รับเงินสนับสนุน แต่ทีมจากลีกสูงสุดที่ส่งทีมสำรองร่วมแข่งขันจะได้สิทธิส่งผู้เล่นทั้งหมด 50 คน จาก 35 คน” เสี่ยเหน่งกล่าว
ด้านนายเบนจามิน เปิดเผยว่า ผลการออกใบอนุญาตเข้าร่วมการแข่งขันสำหรับสโมสร (คลับ ไลเซนซิ่ง) ได้มีการตรวจสอบ 4 ทีม โดยทีมไทยลีกคือ ทีม อุบล ยูเอ็มที ที่ขยายสนาม และอีก 3 ทีมไทยลีก 2 คือ ตราด เอฟซี, ม.เกษตรศาสตร์ และหนองบัว พิชญ เอฟซี ที่เพิ่งเลื่อนชั้นมา ซึ่งจะต้องตรวจไฟส่องสว่างโดยกำหนดเส้นตายคือวันที่ 20 มกราคมนี้
นายเบนจามินกล่าวอีกว่า ทีมไทยลีกเหลือแค่การรอยืนยันเรื่องสนามของทีมอุบล ที่ต้องการขยาย และได้อนุมัติไปแล้ว พร้อมกำหนดว่าต้องเสร็จทันกำหนดวันที่ 20 มกราคม ซึ่งก็จะรีบไปตรวจสอบก่อนลงตราว่าผ่านคลับ ไลเซนซิง ส่วนทีมไทยลีก 2 อีก 3 ทีม เอกสารผ่านเรียบร้อย แต่ยังต้องรอการตรวจสนามเรื่องไฟส่องสว่างที่กำหนดเดดไลน์วันเดียวกัน แต่ทั้ง 3 ทีมได้รับใบอนุญาตร่วมศึกไทยลีก 2 แล้ว
จากนั้นในช่วงบ่าย “บิ๊กเจี๊ยบ” พล.ต.ท.พิสัณฑ์ จุลดิลก เลขาธิการสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ เป็นประธานในการจับสลากประกบคู่โปรแกรมการแข่งขันฟุตบอลลีก ฤดูกาล 2017 ระดับไทยลีก 1-4
ผลการจับสลากโปรแกรมนัดเปิดสนามศึกไทยลีก วันที่ 11-12 กุมภาพันธ์ คู่ไฮไลต์อยู่ที่ “กระต่ายแก้ว” บางกอกกล๊าส เอฟซี จะเปิดรังพบแชมป์เก่า “กิเลนผยอง” เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด และอีกคู่ “ปราสาทสายฟ้า” บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด พบ “ฉลามชล” ชลบุรี เอฟซี ส่วนคู่อื่น ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด พบ ราชนาวี, บีอีซี เทโรศาสน พบ พัทยา ยูไนเต็ด, สุพรรณบุรี เอฟซี พบ ไทยฮอนด้า ลาดกระบัง, สุโขทัย เอฟซี พบ นครราชสีมา มาสด้า เอฟซี, ราชบุรี มิตรผล เอฟซี พบ การท่าเรือ เอฟซี, ศรีสะเกษ เอฟซี พบ อุบล ยูเอ็มที ยูไนเต็ด และเชียงราย ยูไนเต็ด พบ ซุปเปอร์ เพาเวอร์
ขณะที่ในช่วงจับสลากโปรแกรมไทยลีก 2 พ.อ.กิตติเชษฐ์ มโหธร ผู้จัดการทีมอาร์มี่ ยูไนเต็ด และนายอนุรุทธิ์ นาคาศัย รองประธานสโมสรชัยนาท ฮอร์นบิล ได้ยื่นหนังสือสงวนสิทธิการจับสลากโปรแกรม หลังจากทั้ง 2 ทีมต้องตกชั้นลงไปเล่นในไทยลีก 2 จากกรณีที่สมาคมกีฬาฟุตบอลฯ มีคำสั่งยุติการแข่งขัน และจัดอันดับตารางคะแนนเมื่อฤดูกาล 2016 ซึ่งยังเหลือโปรแกรมอีก 3 นักสุดท้าย
นายอนุรุทธิ์ กล่าวว่า ได้ยื่นสงวนสิทธิจับสลากหลังจากที่สภากรรมการสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ ยึดมติให้ไทยลีก 1 มี 18 ทีมตามเดิม ซึ่งชัยนาทและอาร์มี่ได้ยื่นเรื่องร้องทุกข์ต่อคณะอนุกรรมการเรื่องร้องทุกข์การกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) และ กกท.ได้สั่งให้สมาคมจัดประชุมใหญ่พิเศษเพื่อให้ 72 สโมสรลงมติตัดสิน แต่สมาคมได้ยื่นอุทธรณ์ต่อ กกท. และผลการอุทธรณ์ยังไม่ออกมา ทำให้ยังไม่มีข้อยุติ จึงจะต้องมายื่นเรียกร้องความเป็นธรรมตามสิทธิทางกฎหมาน ซึ่งเมื่อผลอุทธรณ์ออกมาแล้ว และตัดสินว่าชัยนาท และอาร์มี่ ต้องเล่นในไทยลีก 2 ก็พร้อมจะลงเล่นในไทยลีก 2 ต่อไป

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน