ฟังทัศนะ คนวงการมวย หลัง “น้องเล็ก” เพชรมงคล ป.พีณภัทร นักมวยเด็กวัย 13 ปี เสียชีวิตคาสังเวียน ด้วยอาการเลือดคั่งในสมอง

ความคืบหน้ากรณี “น้องเล็ก” เพชรมงคล ป.พีณภัทร นักมวยเด็กวัย 13 ปี เสียชีวิตคาสังเวียน ด้วยอาการเลือดคั่งในสมอง หลังพ่ายน็อก ฟ้าใหม่ ว.สุดประเสริฐ ยก 3 ในการชกที่ เวทีมวยชั่วคราว โรงเรียนวัดคลองมอญ ต.บ้านคลองสวน อ.พระสมุทรเจดีย์ จ.สมุทรปราการ โดยการแข่งขันชกมวยรายการดังกล่าว เป็นการแข่งขันชกมวยการกุศลโครงการต้านภัยยาเสพติดครั้งที่ 1 ชิงถ้วยรางวัลของ พล.อ ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เมื่อคืนวันเสาร์ที่ 10 พ.ย.61

คนวงการมวย

หลังมีคลิปภาพการชกวินาทีสุดท้าย ก่อนน้องเล็กจะเสียชีวิตแพร่ออกไปทางโลกโซเชียล เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์กันในวงกว้าง และทางด้าน สมาคมกีฬามวยอาชีพแห่งประเทศไทย ได้จัดงานรวมตัวบุคคลวงการมวยหลายฝ่าย มาร่วมหารือกันถึงการต่อต้าน การเสนอแก้ไข พรบ.มวย ฉบับใหม่ ซึ่งมีประเด็นสำคัญ คือการห้าม นักมวยเด็กอายุต่ำกว่า 12 ปี ขึ้นชกมวย ที่ห้องอาหาร 13 เหรียญพระราม 9 เมื่อวันที่ 12 พ.ย.ที่ผ่านมา

เกียวกับโศกนาฏกรรมน่าเศร้าของนักมวยเด็กที่ต้องสังเวยชีวิตจากการชกมวยรายล่าสุดนั้น มีการสอบถามไปยัง “ขาวผ่อง” นายทวี อัมพรมหา เลขาธิการสมาคมกีฬามวยไทยนายขนมต้ม เผยว่า
ก่อนหน้านี้ ตนพร้อมด้วย สามารถ พยัคฆ์อรุณ นายกสมาคมฯนายขนมต้ม และ เจริญทอง เกียรติบ้านช่อง ได้ยื่นคำร้องคัดค้าน กฎหมายมวยไทยฉบับใหม่ที่ห้ามเด็กต่ำกว่า 12 ปีชกมวย ต่อ นายก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการกีฬาแห่งประเทศไทย เพื่อส่งต่อไปยัง นายวีระศักดิ์ โควสุรัตน์ กระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา ไปแล้ว ร้องเรียนไปยัง สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) พิจารณาทบทวน เสนอ ร่าง แก้ไข พรบ.มวย ฉบับใหม่ ที่มีสาระสำคัญ คือ กำหนดให้นักกีฬามวยที่ประสงค์จะเข้าแข่งขันต้องขึ้นทะเบียนต่อนายทะเบียน ผู้เยาว์ที่ประสงค์ขึ้นทะเบียนเป็นนักกีฬามวย ต้องได้รับความยินยอมเป็นหนังสือจากผู้แทนโดยชอบธรรมก่อน นอกจากนี้ ห้ามไม่ให้ผู้จัดรายการแข่งขันกีฬามวยและนายสนามมวยอนุญาตให้เด็กที่มีอายุต่ำกว่า 15 ปีเข้าร่วมแข่งขัน เว้นแต่ได้รับความชอบจากนายทะเบียน แต่สำหรับเด็กที่มีอายุต่ำกว่า 12 ปีนั้นจะไม่สามารถเข้าร่วมแข่งขันได้

แต่สำหรับเหตุการณ์ล่าสุด ที่เกิด นักมวยเด็กเสียชีวิตขึ้นจากการชกมวยโดยตรง “ขาวผ่อง” อดีตเหรียญเงิน มวยสากลสมัครเล่น โอลิมปิคเกมส์ 1984 ให้เหตุผลว่า “โศกนาฏกรรมดังกล่าวถือเป็นเรื่องน่าเศร้า เป็นอุบัติเหตุที่เกิดขึ้น ถือเป็นสิ่งสำคัญที่เราจะต้องมองให้ลึกลงไปในรายละเอียด สิ่งที่เกิดขึ้น ต้องมองถึงปัจจัยในหลายๆด้าน กรรมการผู้ทำหน้าที่บนเวทีทันต่อเกมหรือไม่ มีแพทย์สนามข้างเวทีที่ดีหรือเปล่า และเวทีนั้น เป็นมาตรฐานแค่ไหน รวมไปถึงการจัดประกบคู่มวย เราต้องวิเคราะห์ในหลายๆประเด็นเพื่อดูที่มาของสาเหตุ”

อดีตยอดมวยไทย ในนาม “ขาวผ่อง สิทธิชูชัย” ขยายความต่อว่า “เรื่องของ นักมวยเด็กนั้น เรายังต้องมองถึงพื้นฐานโดยละเอียดด้วยเช่นกัน ผมมองไปที่เป้าใหญ่ว่า เด็กกว่า 90 เปอร์เซ็นต์ ล้วนมาจากครอบครัวที่ยากจน จำเป็นต้องชกมวยก็เพราะต้องการเงินไปจุนเจือครอบครัว ถ้าคนมีเงินทั่วไปเขาก็ไม่ให้ลูกมาชกมวยหรอก ในส่วนของกีฬา คนจนมีสิทธิเข้าถึงมากที่สุดก็คือมวย ถามว่า กีฬามวยมีผลกระทบต่อสมองหรือไม่ จริงๆแล้ว ฟุตบอล เทควันโด หรือ กีฬาปะทะอื่นก็ล้วนมีผลกระทบกันหมด ถ้าคุณจะวิจัยกันจริงๆ ก็ควรหยิบกีฬาเหล่านั้นขึ้นมาวิจัยด้วย หรือแม้กระทั่ง กีฬายกน้ำหนัก มันก็มีส่วนทำให้ สะรีระร่างกายของมนุษย์ผิดเพี้ยนไปได้เหมือนกัน หากพูดถึงความเป็นจริง ทำไมไม่วิจัยสิ่งเหล่านั้นด้วย”

ฮีโร่เหรียญเงิน โอลิมปิค เหรียญแรกของไทย วัย 58 ปี กล่าวต่อว่า “การชกมวยนั้น ต้องกระทบกระทั่งกันอยู่แล้ว ยอดมวยไทยทุกคนไม่ว่าอดีตหรือปัจจุบัน 99 เปอร์เซ็นต์ล้วนแต่ชกมวยครั้งแรกอายุต่ำกว่า 10 ขวบ นับเรียงตัวกันได้เลย และ พระราชบัญญัติกีฬามวย ฉบับ 2542 เดิมที่ใช้อยู่นั้น ก็ดีอยู่แล้ว เพียงแต่ว่า เราต้องเน้นการป้องกันให้มากขึ้น”

“เดิมเขามีกฎการป้องกันตัวดีอยู่แล้ว แต่คนเรานี่แหละ ไปแหกกฎ กติกา อย่างมวยเด็กโข่ง คือมวยที่ถูกจำกัดน้ำหนักให้ต่อยอยู่แต่ในพิกัดเท่านั้น โดยไม่ยอมให้ขึ้นชกตามวัยที่เติบโต นี่เป็นสิ่งที่ไม่ควรทำ ยกตัวอย่างมวยอายุ 15 ปี ก็ยังจะบังคับให้เด็กชกในน้ำหนัก 30 กก.เช่นเดิม ซึ่งเหล่านี้เป็นอันตรายต่อเด็กอย่างมาก และก็พาลให้ส่งผลต่อสุขภาพ ร่างกายของเด็ก ที่ไม่สมบูรณ์เมื่อขึ้นชก”

“การไปพลิกแพลงเอามวยแบกน้ำหนักมาต่อยกัน อย่างเราเห็น นักชกต่างชาติมาชกกับเราที่ต้องแบกน้ำหนักเขาเยอะ เห็นฝรั่งมาน็อกคนไทย ตูมตูม ทางจอทีวี โดยไม่คิดถึงอันตรายต่อตัวนักมวย สิ่งเหล่านี้ก็ไม่ต้องไปโทษใคร โทษคนวงการมวยกันเองนี่แหละ..!?!?”

“มวยเด็กกับเด็กชกกัน หากอายุน้ำหนักตัวเท่ากัน ผมยังเชื่อว่า ไม่อันตรายหรอก แม้กระทั่งเด็กผู้หญิงก็ยังชกกับเด็กผู้ชายได้เลย แต่ปัญหาที่เกิดขึ้นเป็นเพราะพวกผู้ใหญ่เห็นแก่ตัวเหล่านี้แหละ ที่ทำให้เกิดปัญหา เราต้องเอาใจใส่ให้มากกว่านี้ ไม่ใช่แต่จะเอาผลประโยชน์ ความได้เปรียบของตัวเองเป็นหลัก วงการมวยก็เจ๊งกันหมดเพราะแบบนี้ ยิ่งในปัจจุบันเขาใช้ วิทยศาสตร์การกีฬาเข้าช่วย แต่ค่ายมวย บางแห่ง ยังโบราณอยู่เลย อย่างเช่น ฝึกให้นักมวยคาบดัมเบล ด้วยความเชื่อจะทำให้กรามแข็งแรง หรือ เอาเป้าทุบหน้าท้องนักมวยแรงๆ ผมว่า มันไม่ใช่สิ่งที่ถูกหลัก หรือการที่ ผู้ใหญ่ปล้ำกับมวยเด็ก แล้วกระชากคอแรงๆให้ล้มกลิ้งล้มหงาย แบบนั้นไม่ใช่การฝึกที่ถูกวิธีหรอก ยิ่งถ้าเรานำเอา วิทยาศาสตร์การกีฬาเข้ามาช่วย นักมวยจะมีสุขภาพ ร่างกาย ที่ดีกว่านี้ และไม่ประสบอุบัติเหตุถึงเสียชีวิต อย่างที่เราได้เห็นกัน”

คนวงการมวย

ทางด้าน นายนริส สิงหวังชา ประธาน มวยสากลอาชีพแห่งประเทศไทย หรือ “PAT” ซึ่งขึ้นตรงต่อ สมาคมกีฬามวยอาชีพแห่งประเทศไทย และได้รับการรับรองจากการกีฬาแห่งประเทศไทย ให้ความเห็นว่า “ความเห็นของผมนั้น แต่ละฝ่ายต่างก็มีเหตุผล ฝ่ายกฎหมายก็มีเหตุผลของเขา การจะแก้ไขทั้งหมดเลยนั้นคงไม่ได้หรอก จะต้องมีการผ่อนปรนปรับเข้าใช้กัน ได้ข้างหนึ่งเสียข้างหนึ่ง ผู้ปกครองเด็ก ก็ยืนยันว่า มวยเด็กนั้นเป็นอาชีพที่จะหารายได้มาช่วยครอบครัว คุยกันลำบาก ต่างฝ่ายก็มีเหตุผล แต่ มวยไทยนั้น ความเป็นจริงต้องฝึกฝนมาตั้งแต่เล็ก แต่ไหนแต่ไรแล้ว แต่ถ้าเราจะ หามาตรการป้องกัน การกระทบกระเทือน ถ้าเด็กอายุไม่เกิน 12 ปี คู่ชกก็ต้องอายุพอๆกัน ไม่ใช่ไปต่อยกับมวยโตกว่า กระดูกอายุมวยมากกว่า มวยคนละเบอร์เจอกันมันจะเกิดอันตรายขึ้นได้”

“ส่วนกรณีหากเด็กอายุไม่เกิน 12 ปี ขึ้นชก ก็ควรจะมีการเซฟตี้ อยากเลือกนวมที่ใช้ให้ใหญ่ขึ้น สรุปมวยเด็ก ก็ยังควรจะคงอยู่ต่อไป เพราะเค้ามีมานานแต่ไหนแต่ไรแล้ว การที่เราจะมาห้ามชกเลย ก็ดูกระไรอย่ เพียงแต่เราควรจะทุเลาความรุนแรงลงไปในส่วนของปลีกย่อย การกระทบกระเทือนอันตรายที่เกิดกับนักมวยจริงๆนั้น มันอยู่ที่ ระบบสมอง ประสาท ซึ่งโดนอาวุธหมัดเป็นสำคัญ แต่มวยไทยนั้น จริงๆแล้ว ยังไม่อันตรายเท่ากับมวยสากล ที่เน้นแต่การออกหมัดเป็นหลัก การถึงแก่ชีวิตของนักมวยส่วนใหญ่ก็ล้วนแต่มาจากพิษหมัดเป็นสำคัญ นี่คือความเห็นส่วนตัวของผม”

เพิ่มเป็นเพื่อนไลน์@ข่าวสดกีฬาที่นี่
เพิ่มเพื่อน

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน