บิ๊กอ๊อด พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง นายกสมาคมลูกหนังรุดให้กำลังใจขุนพล ช้างศึก ทีมชาติไทย ชุดใหญ่ ก่อนเกมเอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ 2018 นัดสอง ดวล อิเหนา อินโดนีเซีย เสาร์นี้ วอนแฟนลูกหนังร่วมเชียร์เหตุทีมเยือนยกทัพครึ่งหมื่นเข้าราชมังคลากีฬาสถาน
บิ๊กอ๊อด – ความเคลื่อนไหวทัพ “ช้างศึก” ทีมฟุตบอลทีมชาติไทย ชุดใหญ่ ซึ่งกำลังลงแข่งขันป้องกันแชมป์ “เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ 2018” โดยเตรียมลงสนามนัดที่สอง ของกลุ่มบี ด้วยการเปิดราชมังคลากีฬาสถาน รับการมาเยือนของ อินโดนีเซีย ในวันที่ 17 พ.ย. เวลา 18.30 น. ถ่ายทอดสดทางช่อง 7 เอชดี
ล่าสุดเมื่อวันที่ 13 พ.ย. “บิ๊กอ๊อด”พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ได้เข้ามาเยี่ยมทัพนักเตะทีมชาติไทย และพูดคุยกับ มิโลวาน ราเยวัช หัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมชาติไทย ซึ่งกำลังเก็บตัวอยู่ที่โรงแรมเลอ เมอริเดียน สุวรรณภูมิ
ประมุขลูกหนังไทย กล่าวว่า การเข้ามาเยี่ยมวันนี้ได้เข้ามาตามดูความเป็นอยู่ มีปัญหาอะไรหรือไม่ ซึ่งจากการพูดคุยกับนักเตะและโค้ช ทุกคนนั้นอยู่ในสภาพสมบูรณ์ร้อยเปอร์เซ็นต์ ไม่มีใครบาดเจ็บหรือว่ามีอาการป่วยแต่อย่างใด ทุกคนพร้อมที่จะลงสนามกับอินโดนีเซียแล้ว ขณะที่สปิริตในทีมดีเยี่ยม มีความมุ่งมั่นและกระหายที่จะสร้างความสุขให้กับคนไทย
“สำหรับการแข่งขันกับอินโดนีเซียนั้นผมมีความมั่นใจว่าทีมชาติไทยจะสามารถเอาชนะได้ แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดคือเสียงเชียร์ อยากให้แฟนบอลชาวไทยเข้ามาเชียร์ในสนามมากๆ เพราะอย่างที่ทราบข่าวกันว่าตอนนี้ทางอินโดนีเซีย จากที่ได้ตั๋ว 3,000 ใบ นั้นขอเพิ่มเป็น 5,000 ใบ ดังนั้นถ้าหากกองเชียร์ไทยไม่เข้ามาช่วยกันเยอะๆ อาจจะทำให้นักเตะขาดกำลังใจได้”
ประมุขลูกหนังไทย กล่าวปิดท้ายว่า เรื่องของอัดฉีดนั้นในฐานะที่ตัวเองเป็นนายกสมาคมไม่เคยบกพร่องเรื่องการดูแลขวัญและกำลังใจของทั้งนักกีฬาและทีมงานอยู่แล้ว ทุกคนรู้ดีว่าถ้าสามารถพาทีมชาติไทยประสบความสำเร็จแล้วจะได้รับรางวัลอะไรบ้าง และคงไม่ต้องพูดมากเพราะเป็นเรื่องที่ปฏิบัติเป็นปกติอยู่แล้ว
ด้าน “มิงค์” กรกช วิริยะอุดมศิริ แบ๊กซ้ายทีมชาติไทย ที่ทำไป 1 แอสซิสต์ ในเกมกับติมอร์เลสเต เปิดเผยว่า ดีใจกับผลงานเกมแรกของตัวเองในรายการนี้ ถือว่าเป็นการเริ่มต้นที่ดี ส่วนตัวไม่ได้รู้สึกตื่นเต้นมาก แค่ทำออกมาให้ดีที่สุดเท่านั้น
“การที่ถูกนำไปเทียบกับอุ้ม (ธีราทร บุญมาทัน) ไม่ได้คิดถึงเรื่องนั้นอยู่แล้ว เพราะยังไงผมมองว่าธีราทรนั้นคือเบอร์ 1 ของประเทศไทยอยู่เสมอ ผมแค่อยากจะช่วยซัพพอร์ตทีมให้ได้มากที่สุดในยามที่ไม่มีธีราทรเท่านั้น”
กรกช กล่าวปิดท้ายว่า การเจอกับติมอร์ เลสเต ในนัดแรกเอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ 2018 ซึ่งไทยชนะ 7-0 เกมนั้นยังถือว่าวัดผลงานอะไรไม่ได้มาก เพราะคู่แข่งนั้นไม่ได้แกร่งมาก รอดูในเกมต่อๆ ไปจะดีกว่า ซึ่งการเจอกับอินโดนีเซียจะพยายามอย่างเต็มที่ ได้รับความมั่นใจจากเกมแรกมาพอสมควร ทุกคนในทีมเองพร้อมที่จะทำการแข่งขันหมดแล้ว
“เป้าหมายในรายการนี้แน่นอนว่าไม่มีอย่างอื่นนอกจากการป้องกันแชมป์ที่ทีมก่อนหน้านี้ทำกันมาไว้ให้ได้ รักษาผลงานของทีมชาติไทยเอาไว้ให้ดีที่สุด” แบ๊กซ้ายจากบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด กล่าวปิดท้าย
