ศึกเทควันโด รายการ “ฟูไจราห์ 2018 เวิลด์ เทควันโด กรังด์ปรีซ์ ไฟนอล” ซึ่งเป็นรายการใหญ่สุดท้ายของปี ที่ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (ยูเออี) รายการนี้คัดเอานักกีฬาที่มีอันดับโลก 16 อันดับแรกของโลก ทั้งชายและหญิง อย่างละ 4 รุ่น มาแข่งขันชิงคะแนนสะสม 80 คะแนน

ล่าสุด เมื่อวันที่ 22 พ.ย. เป็นการแข่งขันในวันสุดท้ายของทั้ง 8 รุ่น มีจอมเตะไทย ผ่านเข้ารอบชิงชนะเลิศ เพียงคนเดียว คือ รุ่น 49 กก.หญิง “น้องเทนนิส” พาณิภัค วงศ์พัฒนกิจ เจ้าของเหรียญทองแดง โอลิมปิกเกมส์ 2016 และแชมป์เอเชี่ยนเกมส์ 2018 ปัจจุบันรั้งอันดับ 1 ของโลก และยังเป็นแชมป์เก่ารายการนี้ พบกับ คิม โซ ฮุย จอมเตะอันดับ 2 เจ้าของเหรียญทอง โอลิมปิกเกมส์ 2016 และแชมป์โลกคนล่าสุดจากเกาหลีใต้ ส่วนการรีแมทช์นัดชิงหนนี้ ผลปรากฎว่า เทนนิส พาณิภัค พลาดท่าพ่ายไปอย่างหวุดหวิด 8-10 ชวดแชมป์ไปอย่างน่าเสียดาย

และเป็นการพ่ายแพ้ คิม โซ ฮุย ครั้งที่ 2 จากการพบกัน 6 ครั้งในการเล่นรุ่นประชาชน ซึ่งแต่ละครั้งจะเป็นเกมสำคัญทั้งสิ้นโดยหนแรก แพ้ให้จอมเตะสาวเกาหลีใต้ในรอบ 8 คนสุดท้าย โอลิมปิกเกมส์ 2016 จนพลาดเป้าเหรียญทอง

จบจากรายการนี้ พาณิภัค จะมีโปรแกรมแข่งขันเทควันโด รายการสุดท้ายของปีในเดือนหน้า ที่ประเทศจีน เป็นรายการ อู๋ซี่ 2018 เวิล์ด เทควันโด แกรนด์ สแลม แชมเปี้ยน ซีรี่ย์

พิมล ศรีวิกรม์ นายกสมาคมกีฬาเทควันโดแห่งประเทศไทย ที่เดินทางมาชมการแข่งขันยอมรับว่า เสียดายที่พาณิภัค พลาดแชมป์ ซึ่งเกมการแข่งขันถือว่าสูสี พลาดแชมป์ครั้งนี้ก็มีรายการอื่นๆให้แก้มืออีก และเชื่อว่า พาณิภัค มีโอกาสชนะ คิม โซ ฮุย ได้อีกในรายการต่อไปที่ต้องเจอ แพ้ครั้งนี้ก็เอาข้อบกพร่องไปแก้ไข เพราะด้วยเทคนิคและสรีระ พาณิภัค ถือว่าได้เปรียบ คิม โซ ฮุย ค่อนข้างเยอะ

หลังการแข่งขัน พ่อ “น้องเทนนิส” โพสต์ผ่านเฟสบุ๊กส่วนตัว เผยว่า ก่อนแข่งขันรายการนี้เกิดอุบัติเหตุทางรถจักรยานยนต์ ทำให้มีอาการบาดเจ็บเอ็นขาขวาฉีก ซึ่งแพทย์วินิจฉัยว่าไม่สามารถลงแข่งขันได้ แต่ในเวลาต่อมาเห็นว่าอาการดีขึ้น จึงตัดสินใจลงแข่งขัน อย่างไรก็ตามแม้จะได้ฝึกซ้อมน้อย แต่เหรียญเงินที่ทำได้ก็ถือว่าเกินเป้า

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน