ชนาธิป สรงกระสินธ์ กองกลางร่างเล็กทีมชาติไทย ประกาศทุ่มเต็มร้อยในศึกเอเชียน คัพ ครั้งแรกของชีวิต พาช้างศึกเข้ารอบ 16 ทีมเป็นอย่างน้อย
ชนาธิป – “ช้างศึก”ทีมชาติไทย ชุดใหญ่ ภายใต้การคุมทัพของ มิโลวาน ราเยวัช กุนซือชาวเซิร์บ ซึ่งกำลังเตรียมความพร้อมก่อนทำศึกฟุตบอลเอเชียน คัพ 2019 ระหว่าง 5 ม.ค. – 1 ก.พ.2562 ที่ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (ยูเออี) โดยไทยอยู่กลุ่มเอ ร่วมกับ ยูเออี (เจ้าภาพ), อินเดีย และบาห์เรน ขณะที่ 4 ผู้เล่นอย่าง ธีรศิลป์ แดงดา, ธีราทร บุญมาทัน-ชนาธิป สรงกระสินธ์ และ กวินทร์ ธรรมสัจจานันท์ ซึ่งค้าแข้งต่างประเทศกลับมาร่วมทีมครบหมดแล้ว
ทางด้านสรรวัชญ์ เดชมิตร กองกลางฟอร์มสด จาก ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด ที่โชว์ฟอร์มได้อย่างโดดเด่นในฟุตบอล เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ 2018 และถูกมองว่าอาจจะทับตำแหน่งกับชนาธิปนั้น ยืนยันว่าตนไม่หวั่นการมาของผู้เล่นที่ค้าแข้งต่างแดนแต่อย่างใด
“ตอนนี้ทุกคนพยายามปรับตัวเข้าหากันหมด การได้ 4 นักเตะที่เล่นฟุตบอลอาชีพในต่างแดนกลับมา แต่ฟุตบอลเล่น 11 คน ผมไม่อยากให้ใครคิดว่า เราต้องพึ่งพี่มุ้ย, เจ หรืออุ้ม กลับกันผมอยากให้เราโฟกัสว่าทำอย่างไรจะผสมผสานกันได้ลงตัวที่สุดมากกว่า ถ้าเรามีทีมเวิร์กที่ดีผมเชื่อว่าเราเป็นทีมที่แข็งแกร่งมากๆ ทีมหนึ่ง”
“ผมเข้าใจที่หลายคนบอกว่า เมื่อ เจ กลับมาต้องได้เล่นอยู่แล้ว ใครจะคิดแบบนั้นคิดไป แต่ที่ผ่านมาผมเคยลงเล่นพร้อมกับ เจ มาแล้ว ผมไม่กังวลเกี่ยวกับเรื่องนี้เลย เพราะส่วนตัวผมชอบมากที่ภายในทีมมีการแข่งขันกันสูงขึ้น และในฐานะนักฟุตบอลเป็นเรื่องดีที่ทำให้โค้ชปวดหัวในการเลือกนักเตะ ดังนั้น ผมรู้สึกสนุกไปกับมันมากกว่า และผมเชื่อว่าทุกคนรู้สึกแบบนั้น ที่สำคัญไม่ว่าใครจะได้เล่นหรือไม่ได้เล่น แต่อย่างน้อยเรามาที่นี่เพื่อคอยสนับสนุนกันอยู่แล้ว”
“พอเราพลาดแชมป์อาเซียน หลายคนอาจคิดว่ามาถึงเอเชียนคัพเราคงตกรอบแน่ ส่วนตัวไม่ได้ซีเรียสอะไร มันเป็นแรงผลักดันมากกว่า และเราจะได้ไม่ต้องกดดันมากด้วย เอาเป็นว่าเราจะพยายามทำให้ดีที่สุด แพ้หรือชนะ ผมไม่รู้ แต่เราเต็มที่แน่นอน”
ด้าน “เมสซี่่เจ” กองกลางทีมชาติไทย เปิดเผยว่า อยากพาทีมผ่านเข้าสู่รอบ 16 ทีมสุดท้ายให้ได้เป็นอย่างน้อยในการแข่งขันเอเชียน คัพ 2019
“เอเชียนคัพเป็นรายการใหญ่สุดในเอเชีย เราทุกคนอยากทำผลงานให้ดี อีกอย่างเป็นครั้งแรกของใครหลายๆ คนด้วย เช่นเดียวกับผม ส่วนตัวภูมิใจ และดีใจที่มีโอกาสเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในครั้งนี้ ทุกครั้งที่เข้ามาอยู่ในทีมชาติ ผมและเพื่อนร่วมทีมพยายามเตรียมตัวให้ดีที่สุด เราทำงานหนักกันในทุกวัน แต่สำหรับผมอาจต้องใช้เวลาปรับตัวเข้าหาเพื่อนร่วมทีม และเรียนรู้แท็คติคจากโค้ชมากขึ้น เพราะที่ผ่านมาแทบไม่ได้อยู่กับทีม แต่ไม่มีปัญหาอะไรโดยรวมคุ้ยเคยกันดีอยู่แล้ว”
“ขณะที่เป้าหมาย ในฐานะที่เรามาอยู่ตรงนี้ มีธงทีมชาติติดบนหน้าอกซ้าย อยากจะทำหน้าที่ให้ดีที่สุดครับ อยากพาทีมผ่านเข้าสู่รอบ 16 ทีม หรือลึกกว่านี้ให้ได้ ที่สำคัญ นอกจากเราเล่นเพื่อตัวเอง และเพื่อชาติแล้ว เราจะเล่นเพื่อแฟนบอลในทุกวินาทีที่อยู่ในสนามครับ หวังว่าทุกคนจะเป็นกำลังให้เรา และแน่นอนว่า เราจะทุ่มเทเกินร้อยเพื่อทุกคนครับ”
