วีเออาร์ เริ่มใช้งานจริง โดยเมื่อวันที่ 25 ม.ค. ที่อาคารจิตต์อุทัย ชั้น 14 “บิ๊กอ๊อด”พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ เป็นประธานในการทดลองระบบเทคโนโลยีวีเออาร์ หรือวิดีโอช่วยตัดสิน ที่จะนำมาช่วยการตัดสินในฟุตบอลโตโยต้า ไทยลีก 2019 ทุกเกมการแข่งขัน

วีเออาร์ ในไทยลีกใช้เครื่องมือ ยี่ห้อ EVS และระบบสื่อสารผู้ตัดสิน ใช้ยี่ห้อ VOKKERO ส่วนระบบการทำงานจะส่งสัญญาณผ่านระบบเน็ตเวิร์ก โดยภาพและเสียงจะถูกถ่ายจากกล้องภายในสนามไปยังห้องควบคุมส่วนกลาง ซึ่งจะทำให้ผู้ตัดสินในสนามไม่ถูกเจ้าหน้าที่ทีม หรือนักเตะ เข้ามากดดัน ขณะดูวิดีโอ

เกาะติดข่าวกีฬา แค่กดติดตาม ไลน์@ข่าวสดกีฬา ที่นี่
เพิ่มเพื่อน

โดยระบบวีเออาร์ที่จะใช้ในการแข่งขันฟุตบอลโตโยต้าไทยลีก 2019 จะเป็นระบบเดียวกับที่ใช้ในฟุตบอลโลก 2018 รอบสุดท้าย ที่ประเทศรัสเซีย และฟุตบอลเอเชียน คัพ 2019 ที่ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์

พล.ต.อ.สมยศ กล่าวว่า “สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ได้รับการสนับสนุนจากการกีฬาแห่งประเทศไทย ในการนำระบบ VAR มาใช้กับการแข่งขันฟุตบอลโตโยต้าไทยลีก ฤดูกาล 2019 ซึ่งเป็นการยกระดับการทำหน้าที่ของผู้ตัดสินให้มีความน่าเชื่อถือ มีความยุติธรรมมากขึ้น เพื่อให้การแข่งขันเป็นที่ยอมรับจากแฟนบอล ถ้าการแข่งขันมีความบริสุทธิ์ ยุติธรรม ผมเชื่อว่าแฟนบอลจะมีความเชื่อมั่นในการแข่งขันมากขึ้น”

“จากการทดลองระบบ VAR ในวันนี้ ถือว่ามีความสมบูรณ์แบบ เพราะว่าระบบที่เรานำมาใช้ เป็นระบบเดียวกันกับการแข่งขันฟุตบอลโลกที่ประเทศรัสเซีย และการแข่งขันฟุตบอลเอเชียน คัพ 2019 ที่ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ซึ่งถือว่าเป็นระบบที่มีมาตรฐานสูงสุดในขณะนี้ โดยจะทดลองใช้อย่างจริงจังในการแข่งขันฟุตบอลเจลีก เอเชีย ชาลเลนจ์ 2019 เพื่อให้มีความสมบูรณ์แบบที่สุด ก่อนการแข่งขันฟุตบอลโตโยต้า ไทยลีก จะเริ่มแข่งขันช่วงเดือนกุมภาพันธ์”

“ฟุตบอลโตโยต้าไทยลีก ฤดูกาล 2019 จะใช้ VAR ทุกคู่ของการแข่งขัน และฟุตบอลไทยลีก 2 บางคู่ เราจะขอความร่วมมือจากการกีฬาแห่งประเทศไทย ให้ต่อยอดเพื่อใช้กับไทยลีก 2 ในอนาคต”

นายทนุเกียรติ จันทร์ชุม ผอ.ฝ่ายกีฬาอาชีพและกีฬามวย การกีฬาแห่งประเทศไทย เผยว่า “VAR เป็นเรื่องที่สำคัญอย่างยิ่ง นอกจากจะเป็นการยกระดับมาตรฐานผู้ตัดสินแล้ว ยังเป็นการช่วยเหลือการกีฬาของประเทศไทย ซึ่งเรามีนโยบายให้ความสำคัญเรื่องการป้องกันการทุจริตในการล็อกผลการแข่งขันฟุตบอลอาชีพ ถึงขั้นออกกฎหมายโดยเฉพาะ”

“เมื่อก่อนเราไม่มีเครื่องมือใดๆ ที่จะสามารถพิสูจน์การตัดสินอย่างบริสุทธิ์ยุติธรรม ตอนนี้เรามี VAR มาช่วยในจุดนี้จะช่วยในการตรวจสอบการล้มบอลหรือล็อกผลการแข่งขัน ซึ่งจะนำพาความเสียหายมาสู่วงการฟุตบอลไทย นี่เป็นสิ่งที่น่าสนับสนุนอย่างยิ่ง”

ขณะที่ ดร.องอาจ ก่อสินค้า ผู้จัดการทีมการท่าเรือ เอฟซี กล่าวว่า “การนำ VAR มาทดลองใช้ในปีที่ผ่านมาเป็นสิ่งที่ดี ทำให้การแข่งขันมีความยุติธรรม มีบรรทัดฐาน สามารถเป็นที่พึ่งของทุกทีมได้ แต่ปีที่แล้วไม่มีการใช้ VAR ทุกเกม ปีนี้สมาคมนำเอา VAR มาใช้ทุกแมตช์ ทำให้การแข่งขันเกิดความยุติธรรมมากขึ้น นอกจากนี้ยังสร้างอรรถรส ความเป็นธรรม และความสม่ำเสมอในการแข่งขัน ผมในนามตัวแทนของสโมสรการท่าเรือ เอฟซี ต้องขอขอบคุณสมาคมรวมทั้งตัวสโมสรต่างๆ ตอนนี้สมาคมเดินมาถูกทางแล้ว แม้จะมีค่าใช้จ่ายจำนวนมาก แต่สมาคมมารับภาระตรงนี้ ต้องขอยกย่อง”

สำหรับ เทคโนโลยี VAR จะใช้ช่วยตัดสินสถานการณ์ 4 สถานการณ์ ประกอบด้วย

1.เป็นประตู/ไม่เป็นประตู (ข้ามเส้น/ไม่ข้ามเส้น, มีการฟาวล์ก่อน, ล้ำหน้า, ลูกบอลออกนอกสนามก่อนเข้าประตู)

2.จุดโทษ/ไม่จุดโทษ (ตำแหน่งของการฟาวล์, ฝ่ายรุกทำฟาวล์ก่อน, ลูกบอลออกนอกสนามก่อนการฟาวล์, การที่ผู้รักษาประตูหรือผู้ยิงประตู ทำผิดกติกาขณะเตะจุดโทษ)

3.ใบแดงโดยตรง (เจตนาป้องกันประตูผิดกติกาอย่างตั้งใจ, การทำผิดกติกาอย่างร้ายแรง เช่น ถ่มน้ำลาย, ดูหมื่น และ ใช้วาจาไม่สุภาพ)

4.ระบุตัวผู้เล่นผิดพลาด (เมื่อผู้ตัดสินคาดโทษหรือไล่ออกผู้เล่นผิดคน)

 

อ่านข่าวอื่นที่นี่

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน