ศอกผีดิบเมืองไทย ในบทบาท “พ่อค้าขายผัก” แห่งตลาดสดหนองกี่ – “เมืองไทย พี.เค.แสนชัยมวยไทยยิม” ยอดมวยจากบุรีรัมย์เจ้าของฉายา “ขุนศอกผีดิบ” ที่กวาดแชมป์ต่างๆ อย่างมากมาย และล่าสุดได้รางวัล “คู่มวยดุเดือดแห่งปี 2561” ของการกีฬาแห่งประเทศไทย ในไฟต์ที่ชกกับ “กุหลาบดำ สจ.เปี๊ยกอุทัย”
แม้เป็นนักมวยชื่อดังค่าตัวหลักแสน แฟนหมัดมวยรู้จักทั้งประเทศ แต่ “เมืองไทย” ยังทำตัวติดดินเหมือนเดิม โดยในวันว่างจากซ้อมมวยและช่วงไม่มีรายการชก เมืองไทยสวมบทบาท “พ่อค้าขายผัก” อยู่ที่ตลาดเจริญดี อ.หนองกี่ จ.บุรีรัมย์ ซึ่งเป็นบ้านเกิดของตัวเอง
“จริงๆ แล้วร้านผักเป็นร้านของทางครอบครัวแฟนผมที่ตกทอดมาจากพ่อแม่ ทำมาหลายสิบปีแล้วครับ ยามว่างเว้นจากการชกมวยหรือช่วงเทศกาลหยุดยาว ผมก็จะมาช่วยแฟนเข็นผัก ขายผักอยู่เสมอ”
“การขายผักถือว่าเป็นอาชีพที่สุจริต และสร้างรายได้พอสมควร อยู่ที่ว่าเราจะขยันขนาดไหน ซึ่งมันก็ไม่มีอะไรมาก ตื่นเช้ามาก็ไปรับผักจากแหล่งขายส่งที่อยู่ต่างอำเภอ จากนั้นก็เอามาขาย หากวันไหนขายดีวันรุ่งขึ้นก็เติมของเยอะหน่อย แต่ถ้าวันไหนขายไม่ดี ก็เอาผักของเดิมแช่น้ำแข็งเพื่อคงความสดเอาไว้ ซึ่งที่ผ่านมาก็ขายดี กำไรตกวันละพันบาท ยิ่งช่วงเทศกาลยิ่งขายดีเป็นพิเศษ บางวันนับเงินได้ถึงหมื่นบาทก็มี นับว่าเป็นอีกอาชีพที่ช่วยจุนเจือและสร้างรายได้ให้กับครอบครัวเป็นอย่างดีครับ”
เมืองไทย เผยอีกว่า ที่ผ่านมามีลูกค้าหลายคนจำตนได้ ต่างเข้ามาทักทายและขอถ่ายรูป บางคนถึงขั้นขับรถมาจากอีกจังหวัดหนึ่งเพื่อมาหา โดยเฉพาะเมื่อรู้ว่าช่วงเทศกาลตนจะมาขายผักที่นี่ จึงขอขอบคุณแฟนหมัดมวยทุกคนที่ให้การสนับสนุนและส่งกำลังเชียร์โดยตลอด
ต่อข้อซักถามว่า “ชกมวย” กับ “ขายผัก” อาชีพไหนยากกว่ากัน “เมืองไทย” ตอบอย่างไม่ลังเล
“แฟนผมขายของเก่ง ขณะที่ผมไม่มีหัวการค้าเลย แถมคิดเลขก็ช้า ทอนเงินลูกค้าผิดจนโดนแฟนผมด่าเป็นประจำ คงเป็นเพราะตอนเด็กๆ ผมไม่ตั้งใจเรียน เรื่องค้าขายมีแฟนผมอยู่แล้วก็อุ่นใจ คงปล่อยให้แฟนผมทำเป็นหลัก ส่วนผมขอชกมวยหาเงินตามที่ถนัดดีกว่า”
“ผมตั้งใจว่าจะเปิดธุรกิจของตัวเอง คิดไว้หลายอย่าง หนึ่งในนั้นคือการทำโรงสีข้าว ซึ่งเป็นอาชีพดั้งเดิมของพ่อที่เลิกทำไปนานแล้ว แต่พ่ออยากกลับมาทำอีกครั้ง จึงอยากทำให้พ่อสมหวัง ตอนนี้ผมซื้อที่ดินไว้แล้ว เหลือผ่อนอีกราวสองแสนบาทก็จะหมดหนี้ ซึ่งคงไม่เกินปีหน้านี้ ก็จะพยายามต่อยมวย เก็บเงินทำความฝันของพ่อให้สำเร็จครับ” เมืองไทยกล่าวปิดท้าย
“พ่อค้าขายผัก” กับ “นักชกผู้มีศอกเพชฌฆาต” อาจดูไม่เข้ากันสักเท่าไหร่ แต่นี่คือชีวิตจริงของ “เมืองไทย พี.เค.แสนชัยมวยไทยยิม” ซึ่งนอกจากจะมีผลงานชกมวยในบ้านเราแล้ว ยังโกอินเตอร์เป็นหนึ่งนักชกในสังกัด “วัน แชมเปี้ยนชิพ (ONE Championship)” และขึ้นประเดิมสังเวียนไปแล้วเมื่อเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา ในไม่ช้าเราคงได้เห็นเขาบนสังเวียนระดับโลกแห่งนี้อีกแน่นอน
