พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ยืนยัน เรียก 4 แข้งที่ไปเล่นลีกต่างประเทศ กลับมาร่วมทัพช้างศึก ลุย คิงส์ คัพ ครั้งที่ 47

เกาะติดข่าวกีฬา แค่กดติดตาม ไลน์@ข่าวสดกีฬา ที่นี่
เพิ่มเพื่อน

ความเคลื่อนไหวก่อนการแข่งขันฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทาน คิงส์ คัพ ครั้งที่ 47 จะมีขึ้นในวันที่ 5 และ 8 มิถุนายนนี้ ที่สนามช้าง อารีน่า จ.บุรีรัมย์ ซึ่งมี 4 ชาติร่วมฟาดแข้ง ประกอบด้วย ทีมชาติไทย เจ้าภาพ (อันดับ 114), เวียดนาม(อันดับ 98), อินเดีย(อันดับ 101) และกือราเซา (อันดับ 82) ซึ่งครั้งล่าสุด “ช้างศึก” ได้เพียงรองแชมป์ เมื่อพ่ายให้ สโลวาเกีย ไป 2-3

ล่าสุด“บิ๊กอ๊อด” พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ เปิดเผยว่า เรื่องความพร้อมของสถานที่จัดการแข่งขันฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทาน คิงส์คัพ ครั้งที่ 47 ที่ จ.บุรีรัมย์ ตอนนี้ถือว่ามีความพร้อมเป็นอย่างมาก ทีมที่มาแข่งขันทั้ง เวียดนาม, อินเดีย และกือราเซา ก็พร้อมครับ”

“สมาคมฯ ได้เรียกนักเตะที่ค้าแข้งอยู่ต่างประเทศกลับมาลงแข่งขันทั้งหมด (กวินทร์ ธรรมสัจจานันท์ , ธีราทร บุญมาทัน , ชนาธิป สรงกระสินธ์ และ ฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์) ส่วนผู้เล่นคนอื่นๆ ผมกำชับกับทีมงานสตาฟฟ์โค้ชว่า จะต้องเลือกผู้เล่นที่มีฟอร์มการเล่นที่ดี และลงเล่นอย่างสม่ำเสมอ มาติดทีมชาติไทย”

“ในช่วงเวลาที่ผมเป็นนายกสมาคมฯ ผมพยายามผลักดันให้การแข่งขันฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทาน คิงส์คัพ เป็นการแข่งขันระดับ เอ แมตช์ ซึ่งจะได้รับการรับรองจากฟีฟ่าและเอเอฟซี ทำให้ผลการแข่งขันจะถูกนับคะแนนในฟีฟ่าแรงกิ้ง ดังนั้นทีมที่เข้าร่วมการแข่งขันจะต้องมีอันดับในฟีฟ่าแรงกิ้งสูงกว่าเรา ซึ่งทุกทีมที่มาแข่งขันไม่ธรรมดาแน่นอน”

“ผมคิดว่านักเตะจะได้ประสบการณ์จากทีมที่แข็งแกร่ง ส่วนแฟนบอลจะได้ชมเกมฟุตบอลที่มีคุณภาพสูง สนุก ตื่นเต้น เร้าใจ ส่วนความคาดหวังผมเชื่อว่านักเตะ และแฟนบอล อยากรักษาถ้วยพระราชทานไว้ที่เมืองไทย? เพราะถ้วยพระราชทานคิงส์คัพ ถือเป็นถ้วยที่มีความศักดิ์สิทธิ์ และมีสำคัญต่อนักฟุตบอลและแฟนบอลไทย”

สำหรับการแข่งขันฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทาน คิงส์ คัพ ครั้งที่ 47 จะจัดการแข่งขันที่สนามช้าง อารีนา จังหวัดบุรีรัมย์ โดยในการแข่งขันรอบแรกจะแข่งขันวันที่ 5 มิถุนายน 2562

ส่วนรอบชิงชนะเลิศ และชิงอันดับ 3 จะแข่งขันวันที่ 8 มิถุนายน 2562 ซึ่งการแข่งขันทุกนัดจะได้รับการรับรองจากฟีฟ่า และ เอเอฟซี ให้เป็น แมตช์ระดับ International ‘A’ Match และมีการนำผลลัพธ์ไปคำนวณคะแนนฟีฟ่าแรงกิ้ง และจะมีการถ่ายทอดสด ช่อง 32

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน