เอเอฟซี อนุโลมให้ “โค้ชโต่ย”ศิริศักดิ์ ยอดญาติไทย ขึ้นคุมทัพช้างศึก ลุยฟุตบอลโลก รอบคัดเลือก โซนเอเชีย หลังมีชื่อเข้าอบรมโปรไลเซนส์ ส่วน โชคทวี พรหมรัตน์ ที่จะหลุดโผเนื่องจากไม่มีดีกรีระดับเอไลเซนส์ “โค้ชเฮง” ยืนยัน ไม่หนุนคุมทีมชาติไทยลุยซีเกมส์ช่วงปลายปี
เอเอฟซี – ตามที่สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ประกาศแต่งตั้ง “โค้ชโต่ย”ศิริศักดิ์ ยอดญาติไทย ขึ้นเป็นหัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมชาติไทย ชุดใหญ่ คุมทีมล่าแชมป์ฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทาน “คิงส์คัพ” ครั้งที่ 47 โดยมี “โค้ชโชค”โชคทวี พรหมรัตน์ เป็นผู้ช่วยผู้ฝึกสอน อย่างไรก็ตามหลังจบคิงส์คัพ ทีมชาติไทย เตรียมจะลงสนามในฟุตบอลโลก รอบคัดเลือก โซนเอเชีย แต่สมาพันธ์ฟุตบอลเอเชีย หรือเอเอฟซีกำหนดไว้ว่าโค้ชที่คุมทีมชาติชุดใหญ่ในทัวร์นาเมนต์อย่างเป็นทางการต้องผ่านการอบรมโค้ชระดับโปรไลเซนส์ ขณะที่ “โค้ชโต่ย” แม้ว่าจะเริ่มเข้าอบรมโปรไลเซนส์แต่ยังไม่จบหลักสูตร เพราะเพิ่งเข้าอบรมช่วงที่ 2 จากทั้งหมด 4 ช่วง
เกาะติดข่าวกีฬา แค่กดติดตาม ไลน์@ข่าวสดกีฬา ที่นี่
เกี่ยวกับเรื่องนี้ “โค้ชเฮง”วิทยา เลาหกุล อุปนายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ฝ่ายพัฒนาเทคนิค กล่าวว่า สมาคมฟุตบอลได้ร้องขอต่อเอเอฟซีแล้วว่าอยากให้โค้ชโต่ยคุมทีมชาติไทยในฟุตบอลโลก รอบคัดเลือก ซึ่งในเบื้องต้นเอเอฟซีอนุโลมให้เนื่องจากมีชื่อในการอบรมโค้ชระดับโปรไลเซนส์แล้ว
“เราพยายามผลักดันให้โค้ชคนไทยมีโอกาสคุมทีมชาติไทย เพราะโค้ชไทยรู้จักความคิด นิสัย และวิถีของนักเตะไทยดีกว่าโค้ชต่างชาติ ดังนั้นเราจึงพยายามขอจากเอเอฟซีให้ โต่ย ได้คุมทีมชาติไทย ซึ่งตอนนี้เอเอฟซียินยอมอนุโลมให้โต่ยเป็นหัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมชาติไทย ในการแข่งขันฟุตบอลโลก รอบคัดเลือก โซนเอเชีย เนื่องจากมีชื่อในการอบรมโค้ชระดับโปรไลเซนส์แล้ว”
“ส่วนคำถามที่ว่าเมื่อโต่ยอบรมหลักสูตรโปรไลเซนส์จบแล้วจะได้คุมทีมชาติไทยยาวเลยหรือไม่ คงต้องดูที่ผลงานว่าเป็นที่น่าพอใจมากน้อยเพียงใด เพราะเราจะมีการประเมินผลงานโค้ชทุกทัวร์นาเมนต์อยู่แล้ว ที่สำคัญต้องดูด้วยว่าสมาคมจะจ้างให้ทำงานต่อหรือไม่ตรงนี้ไม่ได้เกี่ยวกับเรื่องไลเซนส์ แต่เป็นผลพวงมาจากผลงานที่ออกมาเป็นหลัก”
ขณะเดียวกัน “โค้ชเฮง” ยังกล่าวถึงประเด็นที่ “โค้ชโชค” จะไม่ได้เป็นผู้ช่วยโค้ชทีมชาติไทย ในฟุตบอลโลก รอบคัดเลือก โซนเอเชีย เนื่องจากไม่มีไลเซนส์โค้ชระดับเอไลเซนส์ ว่าคงเป็นไปไม่ได้ที่จะสนับสนุนให้คุมทีมชาติไทยในการแข่งขันซีเกมส์ช่วงปลายปีนี้
“แม้ฝ่ายจัดการแข่งขันซีเกมส์จะไม่ได้ระบุว่าโค้ชทีมชาติจะต้องผ่านการอบรมโค้ชระดับใด แต่กฎของเอเอฟซีระบุไว้ว่าโค้ชทีมชาติในระดับเยาวชนต้องผ่านการอบรมโค้ชระดับเอไลเซนส์เป็นอย่างน้อย ซึ่งโชคทวีมีเพียงแค่ซีไลเซนส์ ดังนั้นคงเป็นไปไม่ได้ที่เราจะดันให้ไปคุมทีมชาติชุดซีเกมส์ช่วงปลายปีนี้ ผมได้แนะนำโชคทวีไปแล้วว่าให้ไปอบรมโค้ชเพิ่มเติมเพื่อโอกาสในการคุมทีมชาติไทยในอนาคต ซึ่งตรงนี้ต้องขึ้นอยู่กับตัวโค้ชเองว่าจะตัดสินใจอย่างไร”
“ส่วนประเด็นที่ว่าใครจะเป็นผู้ฝึกสอนทีมชาติไทย ชุดซีเกมส์ ตอนนี้ผมยอมรับว่ายังตอบไม่ได้ เพราะมีโค้ชไทยหลายคนที่ผ่านการอบรมเอไลเซนส์ แต่ที่บอกได้คือโค้ชซีเกมส์ต้องเป็นคนไทยแน่นอน เนื่องจากที่ผ่านมาโค้ชต่างชาติไม่เคยประสบความสำเร็จในทัวร์นาเมนต์นี้มาก่อน ดังนั้นช่วงนี้คงต้องเร่งกันพิจารณาว่าใครเหมาะสมที่สุดในการพาทีมชาติไทยไปป้องกันแชมป์ซีเกมส์ที่ฟิลิปปินส์”
