รวมเกร็ดน่าสนใจหลังท็อตแนม ฮอตสเปอร์ เข้าชิงชนะเลิศยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก ไปเจอกับลิเวอร์พูล ซึ่งนับเป็นอีกครั้งที่ทีมจากชาติเดียวกันมาชิงดำกันเอง

เกาะติดข่าวกีฬา แค่กดติดตาม ไลน์@ข่าวสดกีฬา ที่นี่
เพิ่มเพื่อน

หลังจากที่ “ไก่เดือยทอง”ท็อตแนม ฮอตสเปอร์ จากอังกฤษ พลิกนรกหักด่านอาแจ็กซ์ อัมสเตอร์ดัม จากเนเธอร์แลนด์ เข้าชิงชนะเลิศยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก ไปเจอกับ “หงส์แดง”ลิเวอร์พูล ทีมจากอังกฤษอีกรายได้นั้น

นี่จึงกลายเป็นนัดชิงชนะเลิศครั้งที่ 7 ในประวัติศาสตร์ ที่สโมสรจากชาติเดียวกันเข้าชิงชนะเลิศถ้วยนี้กันเอง ครั้งแรกสุดที่เกิดขึ้นเป็นคู่เรอัล มาดริด-บาเลนเซีย จากสเปน เมื่อฤดูกาล 1999-2000

จากนั้นต่อด้วยเอซี มิลาน-ยูเวนตุส จากอิตาลี ฤดูกาล 2003-04, แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด-เชลซี จากอังกฤษ ฤดูกาล 2007-08, บาเยิร์น มิวนิก-โบรุสเซีย ดอร์ตมุนด์ จากเยอรมนี ฤดูกาล 2012-13, เรอัล มาดริด-แอตเลติโก มาดริด จากสเปน เจอกันเอง 2 หนฤดูกาล 2013-14 และ 2015-16

สำหรับลิเวอร์พูลเป็นการเข้าชิงชนะเลิศหนที่ 9 ก่อนหน้านี้สมหวังได้แชมป์ 5 สมัย และอกหักไป 3 ครั้ง ส่วนสเปอร์สเข้าชิงถ้วยนี้หนแรกในประวัติศาสตร์สโมสร

ทั้งนี้สเปอร์สนับเป็นทีมจากอังกฤษรายที่ 8 ที่เข้าชิงถ้วยนี้ได้ ก่อนหน้านี้มีอาร์เซนอล, แอสตัน วิลลา, เชลซี, ลีดส์ ยูไนเต็ด, ลิเวอร์พูล, แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และน็อตติงแฮม ฟอเรสต์

นอกจากนี้ฤดูกาล 2018-19 อาจเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ลูกหนังยุโรป ที่ทีมจากชาติเดียวกันครองพื้นที่นัดชิงชนะเลิศทั้ง 2 ถ้วย เนื่องจาก 2 ทีมอังกฤษอย่างอาร์เซนอลและเชลซีมีโอกาสดีที่จะทะลุชิงกันเองในศึกยูฟ่า ยูโรปา ลีก

ขณะที่ ลูคัส มูรา กองหน้าสเปอร์ส เป็นนักเตะคนที่ 5 ที่ทำแฮตทริกได้ในเกมรอบรองชนะเลิศแชมเปียนส์ ลีก ก่อนหน้านี้มีแค่ อเลสซานโดร เดล ปิเอโร, อิวิกา โอลิช, โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี และคริสเตียโน โรนัลโด

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน