คล็อปป์ ชี้การผงาดบัลลังก์ยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก ฤดูกาล 2018-19 เป็นค่ำคืนที่ดีที่สุดในอาชีพของพลพรรคหงส์แดง ขณะที่โปเช็ตติโนยังภูมิใจในขุนพลไก่เดือยทองแม้เป็นเพียงพระรอง

เกาะติดข่าวกีฬา แค่กดติดตาม ไลน์@ข่าวสดกีฬา ที่นี่
เพิ่มเพื่อน

เจอร์เกน คล็อปป์ ผู้จัดการทีม “หงส์แดง”ลิเวอร์พูล แห่งอังกฤษ เผยหลังสโมสรผงาดบัลลังก์แชมป์ยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก ฤดูกาล 2018-19 โดยชี้ว่าเป็นค่ำคืนที่ดีที่สุดในอาชีพของพวกตนเลยทีเดียว

ในนัดชิงชนะเลิศที่สนามว่านต๋า เมโตรโปลิตาโน กรุงมาดริด ของสเปน เมื่อวันที่ 1 มิถุนายน ลิเวอร์พูลชนะ “ไก่เดือยทอง”ท็อตแนม ฮอตสเปอร์ ทีมอังกฤษอีกราย 2-0 ได้ประตูจาก โมฮาเหม็ด ซาลาห์ นาที 2(จุดโทษ), ดิว็อก โอริกี นาที 88

ทำให้ลิเวอร์พูลคว้าแชมป์รายการนี้สมัยที่ 6 ขึ้นแท่นมากสุดอันดับ 3 เพียงลำพัง รองจากเรอัล มาดริด ของสเปน(13 สมัย) และเอซี มิลาน ของอิตาลี(7 สมัย)

รวมถึงเป็นหนแรกบนเส้นทางอาชีพทั้งของคล็อปป์และของผู้เล่นในทีมเกือบทั้งหมด ยกเว้นแค่ แดเนียล สเตอร์ริดจ์ และแชร์ดาน ชากิรี ซึ่งเคยได้สมัยเล่นทีมอื่นมาก่อนแล้ว

คล็อปป์กล่าวว่า “ผมมีความสุขกับนักเตะทุกคน พวกเขายอมเจ็บปวดเพื่อผม พวกเขาสมควรได้รับสิ่งนี้ยิ่งกว่าใคร คุณเคยเห็นทีมแบบนี้มั้ย ต่อสู้โดยไม่มีหมดพลัง แถมยังมีผู้รักษาประตูที่ทำเรื่องยากให้เป็นเรื่องง่ายอีก มันเป็นค่ำคืนที่ดีที่สุดในอาชีพของพวกเรา”

ขณะที่ จอร์แดน เฮนเดอร์สัน กองกลางกัปตันทีมลิเวอร์พูล กล่าวว่า “สิ่งนี้คงเป็นไปไม่ได้หากเราไร้ผู้จัดการทีม เขาสร้างบรรยากาศพิเศษในห้องแต่งตัว ทุกคำชื่นชมต้องยกให้เขา ซึ่งผมเองรู้สึกภูมิใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของสโมสรแห่งนี้”

ทางด้าน เมาริซิโอ โปเช็ตติโน กุนซือสเปอร์ส เผยรู้สึกภูมิใจในทีมตนแล้ว “ผมภูมิใจอย่างมากกับการต่อสู้ของเรา เราอาจจะโชคไม่ดีนักในเกมนี้ ผมดีใจที่ได้ทำหน้าที่จัดการนักเตะชุดนี้ กระนั้นต้องขอแสดงความยินดีกับลิเวอร์พูลด้วย”

อูโก โยริส ผู้รักษาประตูกัปตันทีมสเปอร์ส ชี้ฝั่งตัวเองไม่ดุดันพอทำให้แพ้ “เราพยายามทำในสิ่งที่เคยทำได้ แต่เราขาดความเฉียบคมและดุดันไป เราไม่มีอันตรายและทำให้ลิเวอร์พูลตั้งรับได้ง่าย เราไม่อาจสร้างสรรค์โอกาสอันเหมาะเหม็งเพื่อทำประตูในเกมนี้”

สำหรับสถิติน่าสนใจในเกมนี้ ประตูแรกของซาลาห์เกิดขึ้นหลังเริ่มเกม 1 นาที 48 วินาที เป็นประตูในนัดชิงชนะเลิศแชมเปียนส์ ลีก ที่เร็วสุดอันดับ 2 รองจาก เปาโล มัลดินี อดีตกองหลังเอซี มิลาน ซึ่งยิงลิเวอร์พูลในเวลา 50 วินาที เมื่อฤดูกาล 2004-05

นอกจากนี้ ซาลาห์ยังเป็นนักเตะทวีปแอฟริกาคนที่ 5 และโอริกีเป็นนักเตะจากเบลเยียมคนที่ 2 ที่ยิงได้ในนัดชิงชนะเลิศแชมเปียนส์ ลีก

ขณะที่ เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ แบ๊กขวาลิเวอร์พูล เป็นนักเตะคนแรกในประวัติศาสตร์ที่ลงเล่นตัวจริงนัดชิงแชมเปียนส์ ลีก 2 ปีติดกัน ทั้งที่อายุต่ำกว่า 21 ปี โดยแมตช์นี้เจ้าตัวเพิ่งมีอายุเพียง 20 ปี 237 วัน

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน