นักมวยปริญญาโท! รถเหล็ก เมินคำสบประมาท ยึดมั่นความพยายามอยู่ที่ไหน ความสำเร็จอยู่ที่นั่น
(6 มิ.ย.62) เนื่องในวันที่ 6 มิถุนายนของทุกปีตรงกับ “National Higher Education Day” ซึ่งเป็นวันที่ทำให้เราตระหนักถึงความสำคัญของการศึกษาในชั้นสูงๆ ตั้งแต่ระดับอุดมศึกษาขึ้นไป ซึ่งปัจจุบันสถาบันหลายแห่งพยายามที่จะออกแบบหลักสูตรเพื่อให้มีความเหมาะสมกับผู้เรียนในหลากหลายอาชีพและตรงกับความต้องการของตลาดมากขึ้น
นักมวยไทยเจ้าของดีกรีปริญญาโท “รถเหล็ก พี.เค.แสนชัยมวยไทยยิม (จ้าวทะเลทอง)” ซึ่งอาจเรียกได้ว่าเป็นนักมวยไทยที่มีระดับการศึกษาสูงและแทบจะหาได้เพียงไม่กี่คนเท่านั้นในวงการมวยไทย
ในขณะที่นักมวยไทยอาชีพหลายคนอาจมองข้ามความสำคัญของการศึกษา แต่สำหรับรถเหล็กกลับมีความคิดที่แตกต่างโดยได้แชร์ประสบการณ์ส่วนตัวให้ฟังว่า
“หลังจากที่ผมเรียนจบ ปวส.ที่สมุย และเดินทางเข้ามาชกมวยที่กรุงเทพฯ ผมมีเวลาว่างหลังซ้อมมวยทุกวัน และหลังขึ้นชกอีกประมาณ 7-10 วัน ผมมองว่าเอาเวลาว่างตรงนี้ไปเรียนหนังสือดีกว่าอยู่เฉยๆ ผมจึงตัดสินใจเรียนต่อทันทีในระดับปริญญาตรีที่มหาวิทยาลัยรัตนบัณฑิต (RBAC) ซึ่งเป็นสถาบันที่สนับสนุนด้านการศึกษาให้กับนักกีฬาอาชีพอยู่แล้ว โดยเทียบโอนจากระดับ ปวส.ต่ออีก 2 ปีก็จบปริญญาตรีในสาขาคอมพิวเตอร์ธุรกิจ”
“ทีแรกผมไม่ได้คิดว่าจะเรียนต่อปริญญาโท วันจันทร์ถึงวันศุกร์ผมซ้อมมวย กลางวันนอนพัก ตกกลางคืนพอมีเวลาว่าง ผมคิดว่าเรียนต่อดีกว่า เอาเวลาตรงนั้นมาอ่านหนังสือบ้าง ทยอยทำงานส่งอาจารย์บ้าง ช่วงแรกๆ ต้องเข้าเรียนทุกวันศุกร์ เสาร์ อาทิตย์ พอเรียนมาสักระยะก็เหลือเฉพาะวันเสาร์ อาทิตย์ จนสุดท้ายก็เหลือวันอาทิตย์วันเดียว”
“ความยากลำบากในการเรียนไม่มีอะไรมากนอกจากเราต้องปลุกตัวเองให้ตื่นเพื่อไปเรียนหนังสือ ไปฟังอาจารย์ ในขณะที่บางครั้งเราเหนื่อยและอยากพัก อีกอย่างคือเมื่อเรียนในระดับที่สูงขึ้น มันก็จะยากขึ้นเรื่อยๆ เป็นธรรมดาอยู่แล้ว”
“ผมเรียนต่อปริญญาโทในสาขาวิชารัฐประศาสนศาสตร์เพราะคิดว่าจะเป็นประโยชน์กับผมในเรื่องความรู้ด้านบริหารจัดการ และอาจได้ใช้ประโยชน์มากกว่าสาขาคอมพิวเตอร์ธุรกิจ บางคนเห็นหน้าผมแล้วไม่เชื่อ บอกหน้าตาแบบนี้เหรอจบปริญญาโท ผมมีความพยายาม ผมเชื่อว่าผมสามารถเรียนได้ และผมก็ทำสำเร็จจริงๆ”
รถเหล็กจบการศึกษาระดับปริญญาโทเมื่อปี พ.ศ.2558 ปัจจุบันเขาอายุ 29 ปี ผ่านสังเวียนมาแล้ว 170 ไฟต์ และกำลังจะก้าวสู่สังเวียนอันยิ่งใหญ่ระดับโลก “วัน แชมเปี้ยนชิพ” ซึ่งแฟนๆ สามารถติดตามข่าวสารบนสังเวียนของเขาได้ทาง www.onefc.com และโซเชียลมีเดียทุกช่องทางของ ONE Championship
