ราฟฟี่ สิงห์ป่าตอง ทิ้งชีวิตแดนน้ำหอมเพื่อยืนหนึ่งบนสังเวียนผืนผ้าใบ

ราฟฟี่ สิงห์ป่าตอง ทิ้งชีวิตแดนน้ำหอมเพื่อยืนหนึ่งบนสังเวียนผืนผ้าใบ – (7 มิ.ย.62) “ราฟฟี่ โบฮิค” นักมวยฝรั่งหัวใจไทย อาศัยอยู่ภูเก็ต ชาวมวยเรียกขานกันติดปากว่า “ราฟฟี่ สิงห์ป่าตอง” เจ้าของเข็มขัดแชมป์สนามมวยเวทีลุมพินี ซึ่งเป็นที่ใฝ่ฝันของนักมวยไทยทุกคนอยากจะนั่งบัลลังก์อันสูงส่งแห่งนี้

การที่นักมวยต่างชาติสามารถครอบครองเข็มขัดแชมป์มวยไทยจากสนามมวยมาตรฐานอันเก่าแก่ระดับประเทศได้ ไม่ใช่เรื่องธรรมดา ลำพังอาศัยรูปร่างหน้าตาคงช่วยไม่ได้ มันต้องใช้ความสามารถด้านหมัด เท้า เข่า ศอกเท่านั้นจึงจะคุยกันรู้เรื่อง

“ราฟฟี่” เป็นนักมวยฝรั่งที่มีพรสวรรค์ รู้จักใช้ “ศาสตร์แห่งอาวุธทั้ง 8” หรือที่ภาษาอังกฤษเรียกว่า “The Art of Eight Limbs” อันประกอบด้วย หมัด 2 เท้า 2 เข่า 2 ศอก 2 ออกอาวุธได้อย่างครบเครื่อง คล่องแคล่ว ราวกับนักมวยไทยในร่างชาวต่างชาติ

พรหมลิขิตบันดาลให้ราฟฟี่เริ่มรู้จัก “มวยไทย” เมื่อวัย 17 ปีที่ประเทศฝรั่งเศสอันเป็นบ้านเกิดของตัวเอง บวกกับที่ได้รับแรงบันดาลใจจากนักมวยหนุ่มคนชาติเดียวกัน “เดเมียน อลามอส” ซึ่งประสบความสำเร็จเป็นอดีตแชมป์สนามมวยเวทีลุมพินี

3 ปีให้หลังราฟฟี่ตัดสินใจทิ้งชีวิตในแดนน้ำหอม ข้ามน้ำข้ามทะเลมายังดินแดนขวานทองเพื่อฝึกวิทยายุทธด้านมวยไทยให้เก่งกาจขึ้น โดยมุ่งหน้าสู่ภาคใต้ที่ค่ายมวย “สิงห์ป่าตอง” จังหวัดภูเก็ต สถานที่ฝึกซ้อมเดียวกับ เดเมียน อลามอส ผู้เป็นไอดอลของเขา และพัฒนาฝีมือจนอยู่ในระดับแถวหน้าของประเทศไทย สั่งสมสถิติทั้งสิ้น 90 ไฟต์ (ชนะ 74 แพ้ 15 เสมอ 1) โดยเป็นการชนะน็อกถึง 31 ครั้ง

ปัจจุบันราฟฟี่ในวัยย่าง 28 ปี ได้ครองเข็มขัดแชมป์มวยไทยมาแล้วหลายเส้น ทั้งแชมป์โลก WBC และ WMC รุ่น 140 ปอนด์ ก่อนจะขึ้นแท่นแชมป์สนามมวยเวทีลุมพินี รุ่น 147 ปอนด์ และป้องกันตำแหน่งไว้ได้หลายต่อหลายครั้งจนถึงปัจจุบัน

ด้วยฝีมือและคุณสมบัติทั้งหมดทำให้ราฟฟี่ได้จรดปากกาเข้าร่วมแข่งขันในรายการศิลปะการต่อสู้ที่มาแรงที่สุดในเวลานี้อย่าง “วัน แชมเปี้ยนชิพ” และมีเป้าหมายสร้างฐานแฟนคลับไปทั้ง 140 ประเทศและจะขยายเป็น 196 ประเทศทั่วโลกในอนาคต รวมถึงได้สัมผัสความรู้สึกบนบัลลังก์แชมป์โลกของวันอย่างน้อยสักครั้งในชีวิต

ติดตามความเคลื่อนไหวของ “ราฟฟี่ โบฮิค” ได้ก่อนใครได้ทาง www.onefc.com และโซเชียลมีเดียทุกช่องทางของ ONE Championship