คืนวันเสาร์นี้มีฟุตบอลลีกยุโรปเช่นเคย ศึกพรีเมียร์ ลีก อังกฤษ “ทอฟฟี่สีน้ำเงิน”เอฟเวอร์ตั้น เล่นในถิ่น เจอกับ ฮัลล์ ขณะที่”เชลซี”จ่าฝูงไปเยือน สโต๊ก “ปืนใหญ่”บุกถิ่นเวสต์บรอมวิช ด้านลา ลีกา สเปน รีล มาดริด จ่าฝูงพบบิลเบา ส่วน กัลโช่ เอซี มิลาน พบเจนัว ขณะที่อินเตอร์ฯไปเยือนโตริโน่ ทีมไหนจะได้ฉลองชัย แฟนลูกหนังต้องลุ้น
วันเสาร์ที่ 18 มี.ค. 2560
ฟุตบอลพรีเมียร์ ลีก อังกฤษ
เวสต์บรอมวิช-อาร์เซนอล เกมนี้เจ้าถิ่นไม่มีเจมส์ มอร์ริสัน กองกลาง ที่บาดเจ็บข้อเท้า
นอกจากนี้จะขาดแมตต์ ฟิลิปป์

ขณะที่ตัวหลักอื่นยังอยู่ครบ ทั้งคริส บรันต์, ซาโลมอน รอนดอน,

ด้าน”ปืนใหญ่”อาร์เซนอล มีปัญหานักเตะเจ็บหลายคน ทั้ง ซานติ กาซอร์ล่า,

ต้องเช็กความฟิตของอเล็กซ์ อ๊อกซ์เลด แชมเบอร์เลน, ดาวิด ออสปิน่า,

นักเตะปืนใหญ่พร้อมบุกถิ่นเวสต์บรอมวิช (เอเอฟพี)

ขณะที่โมฮาเหม็ด เอลเนนี่อาการดีขึ้น น่าจะพร้อมลงเล่นในเกมนี้

ส่วนแดนนี่ เวลเบ๊ก หัวหอกทีมชาติอังกฤษมีอาการป่วย แต่น่าจะหายทันลงเล่นได้

แต่ตัวหลักอื่นอย่างเมซุต โอซิล, อเล็กซิส ซานเชซ, ธีโอ วัลค็อตต์ พร้อมลงสนาม
เกมนี้ไม่ง่ายสำหรับอาร์เซนอล มองแล้วน่าจะแค่แบ่งแต้ม








Advertisement

 

พาเลซ-วัตฟอร์ด ทีม”ปราสาทเรือนแก้ว”เปิดบ้านต้อนรับทีม”แตนอาละวาด” วัตฟอร์ด
เจ้าถิ่นอยู่อันดับ 17 มี 25 แต้ม ส่วนทีมเยือน วัตฟอร์ด อยู่ที่ 13 มี 31 แต้ม จากการลงเตะ 27 นัดเท่ากัน
ความพร้อมเกมนี้ เจ้าถิ่นต้องเช็กความฟิตของ มาติเยอ ฟลามินี่ ที่เจ็บกล้ามเนื้อ และดาริล ยานมัต ที่เจ็บโคนขาหนีบ,
โลอิก เรมี่ กองหน้าชาวฝรั่งเศสยังเจ็บ

ส่วนตัวหลักอื่น นำทัพโดย คริสติย็อง เบนเตเก้,

ทีมเยือนจะไม่มี เมาโร ซาราเต้ หัวหอกชาวอาร์เจนไตน์ที่บาดเจ็บหัวเข่า รวมทั้งเอเตียน คาปูเอ้ ที่ยังเจ็บ
เกมนี้ พาเลซเล่นในถิ่น น่าเบียดเก็บชัยได้อีกนัด
เอฟเวอร์ตั้น-ฮัลล์ เจ้าถิ่น “ทอฟฟี่สีน้ำเงิน”รั้งอันดับ 7 มี 47 แต้ม กำลังไล่ล่าตั๋วฟุตบอลยุโรป ส่วนทีมเยือน ฮัลล์ อยู่ที่ 18มี 24 แต้ม จาก 28 แต้ม ต้องเร่งเก็บคะแนนหนีตกชั้น นัดล่าสุดเฉือนชนะสวอนซี 2-1

โรเมลู ลูคาคู หัวหอกเอฟเวอร์ตั้นพร้อมยิงฮัลล์(เอเอฟพี)

สภาพความพร้อมเกมนี้ เอฟเวอร์ตั้นนำทัพโดย โรเมลู ลูคาคู หัวหอกทีมชาติเบลเยียม ดาวซัลโวสูงสุดพรีเมียร์ลีกขณะนี้ 19 ลูก
เจ้าถิ่นเกมนี้ไม่มี 2 ดาวดังอย่างยานนิก โบลาซี่ และ เจมส์ แม็กคาร์ธีย์ ที่บาดเจ็บ
ขณะที่เลห์ตั้น เบนส์ แบ๊กซ้ายตัวเก๋าน่าจะฟิตสมบูรณ์ลงเล่นเกมนี้ได้

ส่วนทีมเยือนมีนักเตะเจ็บหลายราย ทั้ง ไมเคิล ดอว์สัน, วิล คีน, ไรอัน เมสัน, มาร์คุส เฮนริกเซ่น,เดเมอร์ซี่ เอ็มโบกานี่ หัวหอกตัวเก่ง ที่บาดเจ็บ

ขณะเดียวกันต้องเช็กความฟิตของเอวานโดร กองกลางชาวบราซิล

เจ้าถิ่นพร้อมกว่า เกมรุกและเกมรับเหนือกว่า มีสิทธิ์เก็บชัยได้
สโต๊ก-เชลซี ทีม”ช่างปั้นหม้อ”สโต๊ก ของมาร์ก ฮิวจ์ส
เกมนี้ไม่มีเกลน จอห์นสัน แบ๊กตัวเก๋าที่เจ็บหัวไหล่
แต่จะได้ เซอร์ดาน ชาคิรี่, มาร์โก้ อาร์นูอาโตวิชและวิลฟรีด โบนี่ คืนทัพช่วยทีม ประสานงานกับ ปีเตอร์ เคร้าช์,

ดิเอโก้ คอสต้า (ภาพจากรอยเตอร์)

ทีมเยือน”สิงโตน้ำเงินคราม” เชลซี จ่าฝูง ฟอร์มแรงต่อเนื่อง ล่าสุดเพิ่งเขี่ยแมนฯยู แชมป์เก่าตกรอบเอฟเอ คัพ รอบ 8 ทีมสุดท้าย
เกมรุกกำลังมั่นใจ เด็ดขาด ทั้งดิเอโก้ คอสต้า, เอ เดน อาซาร์, เปโดร, แดนกลางมีทั้งเอ็นโกโล่ ก็องเต้, เนมันย่า มาติช, มาร์คอส อลอนโซ่
แต่ต้องเช็กเความฟิตของวิกเตอร์ โมเซส,
สถิติเจอกัน 7 นัดหลังสุด เชลซีไม่เคยแพ้เลย
ยิ่งช่วงนี้ฟอร์มกำลังแกร่ง แต่สโต๊กก็เล่นในบ้านได้ดี เกมนี้ เชลซีอาจแค่เบียดชนะ
ซันเดอร์แลนด์-เบิร์นลีย์ เจ้าถิ่น”แมวดำ”ซันเดอร์แลนด์ รั้งบ๊วย นัดล่าสุด มี 19 แต้ม จาก 27 นัด ผลงาน 3 นัดหลังสุดรวมทุกรายการ แพ้รวด
ด้านเบิร์นลีย์ ล่าสุดแพ้ ลิเวอร์พูล 1-2 อยู่อันดับ 12 มี 31 แต้ม ผลงาน 5 นัดหลังสุดไม่ชนะใครเลย
เกมรุกจะนำทัพโดย อังเดร เกรย์, แอชลีย์ บาร์นส์, แซม โวก์ส, โจอี้ บาร์ตั้น
ศักยภาพเกมรุกใกล้เคียงกัน มีสทธิ์ออกเสมอ

 

เวสต์แฮม-เลสเตอร์ สองทีมค่อนท้ายตารางเจอกัน เจ้าถิ่น”ขุนค้อน” เวสต์แฮม เปิดสนามลอนดอน สเตเดี้ยม ต้อนรับ”จิ้งจอกสยาม” เลสเตอร์ แชมป์เก่า
สภาพความพร้อมเกมนี้ เวสต์แฮมจะขาดดิอาฟรา ซาโก้, โกคาน ทอเร่ และแองเจโล่ อ๊อกบอนนา เซ็นเตอร์ฮาล์ฟชาวอิตาเลียน ที่บาดเจ็บ เช่นเดียวกับ มาร์ก โนเบิล กัปตันทีม

ชินจิ โอคาซากิ ร่วมยินดีกับริยาด มาห์เรซ หลังพังประตูทีมฮัลล์(เอเอฟพี)

ต้องรอเช็กความฟิตของมิกคาอิล อันโตนิโอ ที่เจ็บหัวไหล่
ขณะที่ทีมเยือนต้องเช็กความฟิตของนัมปาลิส เมนดี้ กองกลางที่บาดเจ็บ หัวเข่า
ส่วนแนวรุกตัวอื่นพร้อมลงสนาม ทั้งริยาด มาห์เรซ, เจมี่ วาร์ดี้,ชินจิ โอกาซากิ
รวมทั้งจะได้แดนนี่ ดริงก์วอเตอร์ กองกลางตัวหลักฟิตพร้อมลงสนามในเกมนี้

เลสเตอร์เสียเปรียบเรื่องเสียงเชียร์ อีกทั้งความสดเป็นรอง เนื่องจากเพิ่งลงเตะศึกยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก เมื่อวันอังคาร ด้วยการชนะเซบีญ่า 2-0 ผ่านเข้ารอบ 8 ทีมได้
เวสต์แฮมสดกว่า อีกทั้งได้เล่นในบ้าน มีสิทธิ์เบียดชนะ
บอร์นมัธ-สวอนซี สองทีมครึ่งล่างของตารางเจอกัน เจ้าถิ่น บอร์นมัธ อยู่อันดับ 14 มี 30 แต้ม ส่วน”หงส์ขาว”สวอนซี อยู่ที่ 16 มี 27 แต้ม จากการลงเตะ 28 นัดเท่ากัน
เจ้าบ้านจะไม่มี ไทโรน มิงก์ส กองหลังที่ติดโทษแบน เช่นเดียวกับ แอนดรูว์ เซอร์แมน ส่วนคัลลั่ม วิลสัน กองหน้าตัวเก่งมีอาการเจ็บ หัวเข่า
และต้องเช็กความฟิตของอดัม เฟเดริชี่, และแฮร์รี่ อาร์เตอร์

ทีมเยือนมีกองหน้าอันตรายอย่างเฟอร์นันโด ยอเรนเต้ และรอเช็กความฟิตของนาธาน ดายเออร์ ปีกตัวเก่ง, แต่จะไม่มีมาร์ติน โอลส์สัน และ อังเคล รันเกล

คู่นี้สูสี มีสิทธิ์ออกเสมอ

 

ลา ลีกา สเปน
บิลเบา-รีล มาดริด เจ้าบ้านรั้งที่ 7 มี 44 แต้ม ยังมีลุ้นพื้นที่ยูโรปา ส่วนเจ้าถิ่น “ราชันชุดขาว” รีล มาดริดเพิ่งทวงคืนจ่าฝูงลา ลีกามาได้ เกมนี้จะได้ แกเร็ธ เบล พ้นโทษแบนกลับมา แต่ต้องเช็กความฟิตของราฟาเอล วาราน เซ็นเตอร์ชาวฝรั่งเศส ส่วนอื่นพร้อมลง นำทัพโดย คริสเตียโน่ โรนัลโด้, คาริม เบนเซม่า, อัลบาโร่ โมราต้า

นักเตะรีล มาดริดจะได้ฉลองชัยหรือไม่ (เอเอฟพี)

บิลเบาแข็งแกร่งในถิ่น แต่รีล มาดริดก็มีเกมรุกที่เด็ดขาด มองแล้ว ลูกทีมของซิเนอดีน ซีดาน น่ามีแต้มติดมือ
เออิบาร์-เอสปันญ่อล สองทีมกลางตารางเจอกัน เจ้าถิ่น เออิบาร์ อยู่ที่ 8 มี 40 แต้ม ส่วนทีมเยือน”นกแก้ว” เอสปันญ่อล อยู่ที่ 9 มี 39 แต้ม ค่อนข้างสบายตัว ศักยภาพใกล้เคียงกัน น่าออกเสมอ
อลาเบส-รีล โซเซียดัด เจ้าถิ่น รั้งที่ 10 มี 37 แต้ม ไม่ต้องดิ้นรนมาก ส่วนรีล โซเซียดัด อยู่ที่ 6 มี 48 แต้ม มีลุ้นพื้นที่ยุโรป เกมรุกของทีมเยือนเฉียบขาด น่าได้แต้มติดมือ
รีล เบติส-โอซาซูน่า เจ้าบ้าน รีล เบติส อยู่ที่ 14 มี 28 แต้ม ยังไม่ปลอดภัยนัก ต้องเร่งเก็บแต้ม ส่วนทีมเยือน อยู่บ๊วย มี 11 แต้ม จาก 27 นัด โอกาสตกชั้นสูง ผลงานย่ำแย่ ไม่ชนะใคร 19 นัดติด เกมนี้ รีล เบติสได้เปรียบเยอะ คงไม่พลาด
บุนเดสลีกา เยอรมนี
โคโลญจน์-แฮร์ธ่า เบอร์ลิน สองทีมค่อนบนของตารางเจอกัน เจ้าบ้าน”แพะบ้า” โคโลญจน์ ช่วงหลังชักแผ่ว 5 นัดหลังสุดไม่ชนะใครเลย เสม อ2 นัด แพ้ 3 นัด ขณะที่แฮร์ธ่าฯดีกว่าชนะ 2 เสมอ 1 แพ้ 2 นัด เกมรุกช่วงนี้แฮร์ธ่าดีกว่า น่ามีแต้มติดมือ
ฮอฟเฟ่นไฮม์-เลเวอร์คูเซ่น สองทีมครึ่งบนของตารางเจอกัน เจ้าบ้านรั้งอันดับ 4 มี 40 แต้มกำลังลุ้นพื้นที่ยุโรป ส่วนทีมเยือนอยู่ที่ 10 มี 31 แต้ม เพิ่งลงเตะกลางสัปดาห์ เสมอแอตฯมาดริด 0-0 ศึกยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก เกมนี้ ฮอฟเฟ่นไฮม์ได้เปรียบเสียงเชียร์และความสด ขณะที่เกมรุกก็อันตราย น่าเบียดชนะได้
โวล์สฟบวร์ก-ดาร์มสตัดต์ สองทีมท้ายตารางเจอกัน เจ้าถิ่นรั้งที่ 14 มี 26 แต้ม ส่นทีมเยือนรั้งบ๊วย มีเพียง 15 แต้ม เจ้าบ้านได้เปรียบค่อนข้างเยอะ ไม่น่าพลาด
เบรเมน-ไลป์ซิก เจ้าบ้าน ฟอร์มดีขึ้นเรื่อยๆ 4 นัดหลังสุดชนะ 3 เสมอ 1 นัด เจอกับรองจ่าฝูงที่ฟอร์มแกร่งเช่นกัน มองแล้ว มีสิทธิ์แบ่งแต้ม
แฟรงก์เฟิร์ต-ฮัมบูร์ก เจ้าถิ่นอยู่ที่ 6 มี 35 แต้ม ยังได้ลุ้นพื้นที่ยุโรป ขณะที่ฮัมบูร์กอยู่ที่ 16 มี 26 แต้ม ต้องหนีตาย เจ้าบ้านเกมรุกเหนือกว่าเยอะ น่าบดชนะได้
เอาก์สบวร์ก -ไฟรบวร์ก สองทีมค่อนข้างสูสี มีโอกาสแบ่งแต้ม
กัลโช่ เซเรีย อา อิตาลี
เอซี มิลาน-เจนัว “ปิศาจแดงดำ” เอซี มิลาน ฟอร์มกำลังแรง แต่นัดนี้ไม่มี โฮเซ่ โซซ่า และคาร์ลอส บักก้า ติดโทษแบน นอกจากนี้ มีนักเตะเจ็บหลายคน ทั้ง ซูโซ่ กองกลางชาวสเปน, ริกคาร์โด มอนโตลิโว่, เจียโคโม่ โบนาเวนตูร่า
ส่วนทีมเยือน จะไม่มี มิเกล เวโลโซ่ กองกลางชาวโปรตุกีส ที่เจ็บกล้ามเนื้อ
เจ้าถิ่น ดีกว่า มีสิทธิ์เบียดชนะ

อินเตอร์ มิลานพร้อมลงสนาม(เอเอฟพี)

โตริโน่-อินเตอร์ มิลาน เจ้าถิ่น”กระทิงหิน”โตริโน่ มีแนวรุกอันตรายอย่าง อันเดรีย เบล็อตติ กองหน้าตัวเก่ง ขณะที่อินเตอร์ฯก็มีหัวหอกที่คม อย่างเมาโร อิคาร์ดี้ และแดนกลางที่แข็งแกร่งอย่าง อิวาน เปริซิช และอันโตนิโอ คันเดรว่า
ศักยภาพไม่ห่างกันมาก มีสิทธิ์ออกเสมอ

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน