การแข่งขันกีฬาเยาวชนแห่งชาติ ครั้งที่ 33 “ชุมพร-ระนองเกมส์” ที่จังหวัดชุมพรและระนองร่วมเป็นเจ้าภาพ เมื่อวันที่ 20 มี.ค. ไฮไลต์อยู่ที่ว่ายน้ำชิง 7 ทอง ประเภทฟรีสไตล์ 100 ม. หญิง ”เงือกมิ้ง” เบ็ญจมาภรณ์ สังขะวัตร์ จากกทม. ว่ายแตะขอบสระเป็นคนแรกด้วยเวลา 58.41 วินาที คว้าเหรียญทอง เป็นเหรียญที่ 4 ของตัวเอง ขณะที่กรรเชียง 200 ม. หญิง ฝนปราย แย้มสรวล จากกทม. ทำเวลา 2.24.19 คว้าเหรียญทองได้เป็นเหรียญที่ 3

ส่วนรายการอื่นเฉพาะทอง ฟรีสไตล์ 400 ม. ชาย จักรตฤณ จัคโคโมเพียซซ่า (ปทุมธานี) 4.12.07 นาที, กรรเชียง 50 เมตร ชาย นรังค์ พรสิริภร (กทม.) 27.67 วินาที, เดี่ยวผสม 200 ม. หญิง ณัฐวศา ดีงาม (กทม.) 2.24.79 นาที, กบ 100 ม. ชาย จิรภัทร ริมประนาม (กทม.) 1.05.71 นาที, ผลัดฟรีสไตล์ 4×100 ม.ชาย เชียงใหม่ 3.41.52 นาที

 

เบ็ญจมาภรณ์ เผยว่า สำหรับผลงานในตอนนี้ถือว่าเป็นน่าพอใจที่สามารถคว้าเหรียญทองได้อย่างที่หวังไว้ แต่หากพูดถึงเรื่องสถิตินั้นถือว่ายังไม่น่าพอใจเท่าไหร่เพราะเวลายังไม่ดีเท่าไหร่เนื่องจากในครั้งทางสมาคมฯมาเก็บสถิติเพื่อเป็นไปเป็นเกณฑ์การคัดเลือกนักกีฬาซีเกมส์ ซึ่งตนหวังว่าจะต้องทำเวลาให้ดีกว่าส่วนเป้าหมายในครั้งต้นเป้าคว้าทุกเหรียญทองทั้ง 8 รายการซึ่งนี้ได้มา 4 ทอง ยังเหลือเดี่ยวอีก 3 รายการและผลัดอีก 1 รายการ ซึ่งพยายามทำให้ดีที่สุดตามความหวังที่ตั้งเป้าไว้

 

กรีฑาชิง 9 ทอง ผลัด 4×100 ชาย สุราษฏร์ธานี ที่มี ศิริพล พันธ์แพ, สิทธิพร ดอนไพรที, กรัสนัส ชัยศรี, ปฏิพัทธ์ กาสุวรรณ์ ทำเวลา 41.13 วินาที คว้าเหรียญทองไปครอง ส่วน ผลัด 4×100 ม. หญิง นครราชสีมา แชมป์เก่า ที่มี ตะวันฉัตร ช่างบุ, จิรวรรณชูตระกูล, ญาณิศา แกล้วกล้า, ชัญญานุช ไกรยา เข้าเส้นชัยเวลา 47.97 คว้าทองเช่นกัน

 
ส่วนรายการอื่นๆ เฉพาะทอง วิ่ง 1,500 ม. ชาย ขจรศักดิ์ นาคีเภท (สุราษฏร์ธานี) 4.9.42 นาที วิ่ง 1,500 ม. หญิง วีรฉัตร สุวรรณโชติ (ชลบุรี) 4.54.81 นาที, วิ่งข้ามรั้ว 110 ม. ชาย สมพงษ์ ผุดผ่อง (ขอนแก่น) 14.85 วินาที, วิ่งข้ามรั้ว 100 ม. หญิง ปัทมวรรณ ริยาพันธ์ (นครศรีธรรมราช) 15.27 วินาที, เขย่งก้าวกระโดด หญิง สุภาวดี อินตาถึง (อุดรธานี) 11.98 ม., พุ่งแหลน หญิง เกวลิน ลพประเสริฐ (อุทัยธานี) 39.36 ม., วิ่ง 10,000 ม. อิทธิพล โคตรชา (ขอนแก่น) 35.05.46 นาทีร

 

ยกน้ำหนัก ชิง 9 ทอง รุ่น 69 กก.หญิง อมรรัตน์ ปิ่นทอง (ชลบุรี) คว้า 2 เหรียญทอง จากท่าสแนทช์ 81 กก. น้ำหนักรวม 186 กก. ขณะที่ สาวิกา ทองถิ่น (ชลบุรี) ได้ 1 เหรียญทอง จากท่าคลีนแอนด์เจิร์ก 105 กก., รุ่น 94 กก.ชาย ยุทธพล รุ่งเรือง (นครราชสีมา) คว้า 2 เหรียญทอง จากท่าคลีนแอนด์เจิร์ก 151 กก. น้ำหนักรวม 271 กก. ขณะที่ อิทธิศักดิ์ อาษานอก (นครราชสีมา) ได้ 1 เหรียญทอง จากท่าสแนทช์ 126 กก., รุ่น 75 กก.หญิง พรธิตา หมูทอง (ชลบุรี) กวาด 3 เหรียญทอง จากท่าสแนทช์ 83 กก. ท่าคลีนแอนด์เจิร์ก 108 กก. และน้ำหนักรวม 191 กก.

ส่วนผลเหรียญทองที่น่าสนใจ แบดมินตัน ชิง 2 เหรียญทอง รอบชิงชนะเลิศ ทีมชาย กรุงเทพฯ ชนะ นนทบุรี 3-0 คู่, ทีมหญิง กรุงเทพฯ ชนะ นนทบุรี 3-1 คู่, ยูโด ชิง 5 เหรียญทอง รอบชิงชนะเลิศ รุ่น 66 กก.ชาย ประสิทธิ์ พูลกลาง (ชลบุรี) ชนะ อดิศร จอมสุริยะ (สงขลา), รุ่น 73 กก.ชาย จักรธร ผกามาศ (ชลบุรี) ชนะ ธนโชติ คำดี (นครปฐม), รุ่น 48 กก.หญิง วิจิตรา คำเบ้า (ศรีสะเกษ) ชนะ พรสวรรค์ ศรีเมือง (ชลบุรี), รุ่น 52 กก.หญิง กนกวรรณ เจริญ (ชลบุรี) ชนะ นิธิมา สังฆคุณ (เพชรบูรณ์), รุ่น 57 กก.หญิง ธิติมา จันทหาร (นครปฐม) ชนะ ประภาทิพย์ นาคราช (ชลบุรี)

ด้าน ฟุตบอลชาย รอบก่อนรองชนะเลิศ “แชมป์เก่า” ชลบุรี เฉือนชนะ อุดรธานี 1-0 โดยได้ประตูชัยจาก จักรพงษ์ สังกันตกุล นาทีที่ 37 ขณะที่ อุดรธานี เหลือ 10 คน ตั้งแต่นาที 74 หลัง จักรรินทร์ คนแรง ถูกใบแดงไล่ออกจากสนาม อีกคู่ นราธิวาส พบกับ นครสวรรค์ คู่นี้หวดกันดุเดือด เหลือฝั่งละ 10 คน โดย ฮาซาฟี ลอแม ของนราธิวาส โดนไล่ออกก่อนในนาทีที่ 83 ก่อนที่ พิชณธัญ สันติกุล ของนครสวรรค์ จะโดนใบแดงในนาทีที่ 90 ครบ 90 นาทีเสมอกัน 0-0 ต้องดวลจุดโทษหาผู้ชนะ ปรากฏว่า นราธิวาส ยิงได้แม่นกว่าเอาชนะไป 4-3 ผ่านเข้ารอบรองชนะเลิศสำเร็จ ขณะที่ฟุตบอลหญิง “แชมป์เก่า” ศรีสะเกษ ยังโชว์ฟอร์มดีดีเช่นกัน เอาชนะ ลำปาง 3-0 ด้าน “รองแชมป์เก่า” ขอนแก่น ชนะ นครศรีธรรมราช 1-0

 

นายชฎาลม วงศ์ด้วง ผู้อำนวยการศูนย์การกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) จ.หนองคาย เปิดเผยว่า หนองคายได้ส่งนักกีฬา และเจ้าหน้าที่เข้าร่วมการแข่งขันกีฬาเยาวชนแห่งชาติ ครั้งที่ 33 “ชุมพร-ระนองเกมส์” ทั้งสิ้น 23 คน แบ่งเป็น นักกีฬาชาย 8 คน , นักกีฬาหญิง 6 คน และเจ้าหน้าที่ 9 คน รวมทั้งสิ้น 23 คน ใน 9 ชนิดกีฬา ได้ตั้งความหวังคว้าเหรียญทองแดงจากมวยสากลสมัครเล่นหญิง และเปตอง หลังจากกีฬาเยาวชนแห่งชาติครั้งก่อน “สุพรรณบุรีเกมส์” หนองคายไม่สามารถคว้าเหรียญได้เลย แต่ก็ย้ำกับนักกีฬาตลอดว่าให้เล่นด้วยความผ่อนคลาย เพื่อไม่เป็นการสร้างแรงกดดันให้กับตัวเอง และสร้างผลงานให้ออกมาดีตามที่ได้ฝึกซ้อมมา ซึ่งหากคว้าเหรียญทองจะได้รับเงินอัดฉีด 50,000 บาท, เงิน 30,000 บาท และทองแดง 20,000 บาท รวมถึงจะได้รับการสนับสนุนเพิ่มเติมจากทางผู้สนับสนุนภายในจังหวัดอีกด้วย

 

 

ผอ.ศูนย์ กกท.จ.หนองคาย กล่าวเพิ่มเติมว่า ขณะเดียวกันยังมีการหารือถึงความเป็นไปได้ในการเสนอตัวเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬาเยาวชนแห่งชาติในครั้งต่อๆ ไป เพราะที่ผ่านหนองคายยังไม่เคยจัดกีฬาในระดับชาติมาก่อน นอกจากนี้ ยังพูดคุยหารือกันภายในจังหวัดเรื่องเตรียมความพร้อมในการพัฒนาพื้นฐานกีฬาว่า ทุกชมรมกีฬาจะต้องมีนักกีฬา เพื่อความเป็นเลิศ และสร้างความตื่นตัว สร้างแรงกระตุ้นให้ตัวนักกีฬาอีกด้วย

 

ส่วน นายณัฐวุฒิ เรืองเวส รองผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) เปิดเผยว่า ภาพรวมของการจัดการแข่งขัน ซึ่งมีเจ้าภาพร่วมเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ หลังผ่านไปครึ่งทางนั้น เป็นที่น่าพอใจเป็นอย่างมาก ประชาชน 2 จังหวัดให้ความสนใจ มีความตื่นตัว ให้ความร่วมมือ หลายอย่างทั้ง 2 จังหวัดทำได้ดี เช่น พิธีการเชิญธง รับเหรียญรางวัล ก็มีการเปิดเพลงประจำจังหวัด รวมถึงการสร้างภาพลักษณ์ด้วยสปอร์ตพรีเซนเตชั่น ในกีฬาแบดมินตัน มวย ลีลาศ ได้มีการนำแสงสีเสียง มาเปิดตัวนักกีฬาก่อนเริ่มการแข่งขัน ก็ทำได้ดี เป็นที่น่าสนใจ

 
นายณัฐวุฒิ เผยอีกว่า ครั้งนี้ 2 จังหวัดจัดร่วมกันได้ดี แม้จะมีการพูดว่าการเดินทางระหว่าง 2 จังหวัดค่อนข้างไกล แต่ถ้านึกให้ดี บางครั้งจัดในจังหวัดใหญ่ ต่างอำเภอออกไป ก็ใช้เวลาเดินทางเช่นกัน เพียงแต่อาจต้องปรับเล็กน้อยเรื่องรูปแบบคณะกรรมการจัดการแข่งขัน การเพิ่มรองหัวหน้านักกีฬา เข้าไป เพราะการประชุมหัวหน้านักกีฬา อาจต้องมีทั้ง 2 จังหวัด ต้องแยกกันทำงาน ช่วยกันทำงานมากขึ้น ดังนั้นในอนาคตกกท. ยังเดินหน้านโยบาย 2 จังหวัดจัดร่วมกันต่อไปเหมือนเดิม

 
สรุปเหรียญ (ทอง-เงิน-ทองแดง) 1.กทม. (52-44-55) 2.ชลบุรี (28-20-22) 3.นครศรีธรรมราช (26-22-30) 4. นครราชสีมา (18-19-5) 5.สุพรรณบุรี (16-20-17)

 

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน