กระต่ายแก้ว บีจี ปทุม ยูไนเต็ด ที่ตามหลังทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด แต่ได้จุดโทษในช่วงครึ่งหลัง บาร์รอส ทาร์เดลี ดันยิงไม่เข้ากรอบทำให้แพ้คาบ้าน ตกรอบ 32 ทีม ขณะที่ “กว่างโซ้งมหาภัย” เจ้าของแชมป์เก่าเค้นผลงานสุดโหดไล่ถล่มแอร์ฟอร์ ยูไนเต็ด แบบไม่ไว้หน้าถึงบ้านมีลุ้นป้องกันแชมป์อีกสมัย

กระต่ายแก้ว บีจี ปทุม ยูไนเต็ด จ่าฝูงไทยลีก 2 เปิดบ้านพบ “แข้งเทพ”ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด ศึกฟุตบอล ช้าง เอฟเอ คัพ 2019 เมื่อวันที่ 19 มิ.ย. รอบ 32 ทีมสุดท้าย คู่บิ๊กแมตช์ที่ลีโอ สเตเดียม เกมนี้ทั้งสองทีมสู้กันอย่างสนุก ต่างฝ่ายต่างเปิดเกมบุกเข้าใส่กันอย่างต่อเนื่อง

เกาะติดข่าวกีฬา แค่กดติดตาม ไลน์@ข่าวสดกีฬา ที่นี่
เพิ่มเพื่อน

นาทีที่ 4 เจ้าบ้านพลาดการได้ประตูขึ้นนำอย่างน่าเสียดาย จากจังหวะที่ ดาเนียล การ์เซีย โรดริเกซ วางบอลจากฝั่งขวาให้ บาร์รอส ทาร์เดลี หลุดเข้าไปยิงแต่บอลข้ามคานออกไป นาที 19 ทรู แบงค็อก ได้ฟรีคิกระยะประมาณ 25 หลา แต่ พีระพัฒน์ โน๊ตชัยยา ปั่นข้ามคาน

นาทีที่ 29 บีจี ปทุม ได้ลุ้นประตูบ้างจากจังหวะที่ บาร์รอส ทาร์เดลี ไหลให้ โรมูโล คาบราล ยิงมุมแคบแต่ผู้รักษาประตูทีมเยือนยังปัดออกไปได้ แต่นาที 39 ทีมเยือน ทรู แบงค็อก ที่มาได้ประตูขึ้นนำก่อน 1-0 จากจังหวะพาบอลลุยเข้าไปของ ปกเกล้า อนันต์ แนวรับ บีจีพียู สกัดบอลมาเข้าทางของ ร็อบสัน เฟอร์นานเดส ยิงด้วยขวาเข้าประตูไป

ครึ่งหลัง นาที 53 เดอะแร็บบิท ได้ลุ้นประตู ธรรมยุต รักบุญ พาบอลขึ้นทางฝั่งขวาก่อนเปิดมาหน้าประตู บาร์รอส ทาร์เดลี ขึ้นโหม่งแต่บอลเบาเกินไปเข้ามือประตูทีมเยือน นาที 59 บีจีได้ลูกจุดโทษจากจังหวะที่ ธรรมยุต รักบุญ โดนทำฟาวล์ในกรอบเขตโทษ แต่ บาร์รอส ทาร์เดลี ที่รับหน้าที่สังหารชิพบอลข้ามคานออกไปไม่น่าเชื่อ

ช่วงเวลาที่เหลือทั้งสองทีมยังมีโอกาสลุ้นประตูอย่างต่อเนื่อง แต่ไม่สามารถทำสกอร์เพิ่มได้ทำให้จบเกม บีจี ปทุม ยูไนเต็ด เปิดบ้านแพ้ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด 0-1 ร่วงตกรอบอย่างน่าเสียดาย

ที่สนามธูปะเตมีย์ “อินทรีทัพฟ้า”แอร์ฟอร์ซ ยูไนเต็ด พบกับ “กว่างโซ้งมหาภัย”สิงห์ เชียงราย ยูไนเต็ด แชมป์เก่า และดับเบิ้ลแชมป์บอลถ้วยปีที่แล้ว ปรากฎว่า เชียงราย สวมบทโหด บุกมาถล่ม แอร์ฟอร์ซ ขาดลอย 8-0 ได้ประตูจาก พิธิวัต สุขจิตธรรมกุล นาทีที่ 14, 16, อี ยอง แร นาทีที่ 25, ปิยะพล ผานิชกุล นาทีที่ 39, อรรถวิท สุขช่วย นาทีที่ 41, วิลเลียม เอ็นริเก นาทีที่ 52, 22 และ กฤษณะ เกษมกุลวิไล นาทีที่ 90 เข้ารอบ 16 ทีมสุดท้าย

ส่วนที่สนามกีฬา อบจ.สิงห์บุรี “นักสู้บางระจัน”สิงห์บุรี บางระจัน เอฟซี พบกับ “กิเลนผยอง” เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด นัดนี้ เมืองทอง ที่มี อเล็กซานเดร กามา คุมทีมเป็นนัดที่ 2 ส่งนักเตะดาวดังลงเล่นหลายคน ก่อนจะถล่มไป 4-1 ได้ประตูจาก มาริโอ ยูรอฟสกี นาทีที่ 25, กรวิชญ์ ทะสา นาทีที่ 29, 36 และ เฮแบร์ตี แฟร์นานเดส นาทีที่ 55 ส่วน สิงห์บุรี ตีไข่แตกจาก วิศรุต สิงหเสนี นาทีที่ 47 เมืองทอง เข้ารอบ 16 ทีมสุดท้าย ได้ตามเป้าหมาย

อีกคู่ที่ช้าง อารีนา “ปราสาทสายฟ้า” บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด จ่าฝูงไทยลีก พบกับ “รถม้ามรกต” ลำปาง เอฟซี ทีมในไทยลีก 2 ซึ่งเจ้าถล่มไป 4-1 ได้ประตูจาก เปโดร จูเนียร์ นาทีที่ 33, กรกช วิริยอุดมศิริ นาทีที่ 56 และ ศุภชัย ใจเด็ด นาทีที่ 65 และ วัชรกร มะโนวร นาทีที่ 90+3 ส่วน ลำปาง ได้จาก เมลวิน เดอ ลูว์ นาทีที่ 54 ทำให้ บุรีรัมย์ เข้ารอบ 16 ทีมสุดท้ายต่อไป

ผลคู่อื่นๆ เอ็มโอเอฟ ศุลกากร ยูไนเต็ด ชนะ อุบล ยูไนเต็ด 2-1, ราชบุรี มิตรผล เอฟซี ชนะ ชัยนาท ฮอร์นบิล 2-0, ปลวกแดง ยูไนเต็ด แพ้ นครราชสีมา มาสด้า เอฟซี 0-4, นครศรีธรรมราช ยูไนเต็ด ชนะ สงขลา อัสลาน ทีเอสยู 1-0 และ สุราษฎ์ธานี ซิตี้ ชนะ นครราชสีมา ห้วยแถลง ยูไนเต็ด 3-1, บ้านค่าย ยูไนเต็ด ชนะจุดโทษ ศรีสะเกษ เอฟซี สกอร์รวม 8-7 (เสมอในเวลา 1-1), กระบี่ เอฟซี แพ้ ไทย ฮอนด้า เอฟซี 1-3, สมุทรปราการ ซิตี้ แพ้ อาร์มี่ ยูไนเต็ด 1-2, ระยอง เอฟซี ชนะ สุพรรณบุรี เอฟซี 1-0, โปลิศ เทโร เอฟซี ชนะ หนองบัว พิชญ เอฟซี 3-1, ราชนาวี แพ้ ตราด เอฟซี 0-5, การท่าเรือ เอฟซี ชนะ สุโขทัย เอฟซี 4-1

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน