‘ดร.ก้อง’ ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) เชื่อมั่นว่าทัพนักกีฬาไทยจะสามารถคว้าตั๋วโอลิมปิกเกมส์ 2020 ‘โตเกียวเกมส์’ มากกว่า 50 ที่ ทว่ายอมรับว่ายังมีปัญหาหลายด้าน

เกาะติดข่าวกีฬา แค่กดติดตาม ไลน์@ข่าวสดกีฬา ที่นี่
เพิ่มเพื่อน

‘โตเกียวเกมส์’ – เมื่อวันที่ 26 มิ.ย. ที่โรงแรมอโนมา แกรนด์ นพ.วชิร คชการ รักษาการแทนรองอธิการบดีฝ่ายวิจัยและวิชาการ มหาวิทยาลัยมหิดล และ ‘ดร.ก้อง’ ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) ร่วมเปิดการประชุมวิชาการนานาชาติ “International Conference on Sport and Exercise Science”

การประชุมในครั้งนี้เป็นการประชุมเชิงวิชาการเกี่ยวกับศาสตร์ด้านวิทยาศาสตร์การกีฬา เพื่อเตรียมความพร้อมให้กับนักกีฬาสู่การแข่งขันโอลิมปิก จัดโดย วิทยาลัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีการกีฬา มหาวิทยาลัยมหิดล และ สมาคมกีฬาแบดมินตันแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ และเป็นความร่วมมือระหว่างเครือข่ายคณบดีวิทยาศาสตร์การกีฬาและพลศึกษา โดยมุ่งเน้นประเด็นที่เกี่ยวข้องกับปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อการพัฒนานักกีฬาสู่ความเป็นเลิศ ทั้งในด้านการฝึกซ้อม การเตรียมร่างกาย ชีวกลศาสตร์ สรีรวิทยา จิตวิทยา โภชนาการ การค้นหาและพัฒนาศักยภาพนักกีฬา การป้องกันและเฝ้าระวังการบาดเจ็บ การฟื้นฟูสภาพร่างกายหลังจากการบาดเจ็บ ตลอดจนการส่งเสริมการมีกิจกรรมทางกาย และการจัดการด้านกีฬา

นอกจากนี้ ดร.ก้องศักด ได้เป็นวิทยากรในหัวข้อการเตรียมนักกีฬาไทยสู่โอลิมปิกเกมส์ 2020 “โตเกียว 2020” ที่ประเทศญี่ปุ่น ในปีหน้า แข่งขันระหว่างวันที่ 24 กรกฎาคม – 9 สิงหาคม 2563 ซึ่งกล่าวบนเวทีว่า “กกท.ได้มีแนวทางในการเตรียมนักกีฬารอบด้าน เน้นไปที่การนำวิทยาศาสตร์การกีฬาเข้ามาดูแลนักกีฬาให้เข้มข้นขึ้น ติดตามการฝึกซ้อมอย่างละเอียด เตรียมสถานที่ฝึกซ้อมให้มีความเหมาะสม หารือกับโค้ชของแต่ละชนิดกีฬาในเรื่องการฝึกซ้อม รวมทั้งดูแลเรื่องสวัสดิการของนักกีฬา เพื่อไม่ให้มีความกังวลในเรื่องอื่นๆ ระหว่างการเก็บตัว ส่วนในระหว่างการแข่งขันจะมีการเปิดศูนย์บริการทางวิทยาศาสตร์การกีฬา หรือ “ไทยเฮ้าส์” ที่ดูแลเรื่องสภาพร่างกาย จิตใจ อาหาร รอบด้าน ซึ่งตอนนี้ได้สถานที่ตั้งไทยเฮ้าส์ในกรุงโตเกียว ช่วงโอลิมปิกเกมส์แล้ว คือ วิทยาลัยการศึกษาและศิลปะอาริคาเกะ ซึ่งอยู่ห่างจากหมู่บ้านนักกีฬาเพียง 10 นาทีด้วยรถยนต์เท่านั้น มั่นใจว่าจะมีความพร้อมสูงที่จะให้บริการนักกีฬาทีมชาติไทยทุกด้าน”

ผู้ว่าการ กกท.กล่าวหลังการประชุมว่า คาดว่าจำนวนนักกีฬาไทยที่จะได้โควต้าไปแข่งขันโตเกียว 2020 จะมีจำนวนใกล้เคียงกับครั้งที่แล้วที่ประเทศบราซิล คือ 54 คน เนื่องจาก กกท.สนับสนุนในเรื่องการออกไปควอลิฟายเพื่อชิงโควต้าให้ได้มากที่สุด ส่วนการออกไปตรวจเยี่ยมการฝึกซ้อมของนักกีฬาหลายๆ สมาคมในช่วงที่ผ่านมานั้น ปัญหาส่วนใหญ่ที่พบ คือ การขาดบุคลากรและเครื่องมือทางวิทยาศาสตร์การกีฬา และสถานที่ฝึกซ้อมไม่พร้อม รวมทั้งหลายกีฬาต้องการนักจิตวิทยาเข้าไปดูแลให้มากกว่าเดิม ซึ่งเมื่อพบปัญหาได้เร่งแก้ปัญหาให้ทุกสมาคมแล้ว เพื่อจะได้ฝึกซ้อมอย่างมีประสิทธิภาพที่สุด เนื่องจากเวลาในการเตรียมทีมมีไม่ถึง 1 ปีแล้ว

“บางปัญหาอาจจะเป็นปัญหาเล็กๆ เช่น แอร์เสีย ห้องน้ำไม่ดี แต่ก็ไม่สามารถปล่อยไว้ได้ เพราะมีปัญหาโดยตรงกับสภาพจิตใจนักกีฬา กกท.ได้เร่งแก้ไขให้ทั้งหมด เพื่อให้ทุกคนซ้อมอย่างเต็มที่และมีความสุขมากที่สุด เพราะจะส่งผลต่อผลงานในการแข่งขันด้วย” ผู้ว่าการ กกท. ในฐานะประธานเตรียมนักกีฬาทีมชาติไทยกล่าว

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน