การแข่งขันกีฬาเยาวชนแห่งชาติ ครั้งที่ 33 “ชุมพร-ระนองเกมส์” เมื่อวันที่ 24 มี.ค. ไฮไลต์อยู่ที่ กอล์ฟ แข่งขันวันสุดท้ายชิง 4 ทอง ประเภทบุคคลหญิง “น้องจีน” อาฒยา ฐิติกุล จากนครปฐม ดีกรีเยาวชนทีมชาติไทย วัย 14 ปี ทีเพิ่งได้รับเชิญเข้าร่วมการแข่งขันกอล์ฟหญิงอาชีพ “ฮอนด้า แอลพีจีเอ ไทยแลนด์ ค.ศ.2007” รอบสุดท้ายสวิงร้อนเก็บเพิ่ม 7 อันเดอร์ พลิกแซงคว้าแชมป์ด้วยสกอร์รวม 11 อันเดอร์พาร์ 205 ขณะที่ทีมหญิง สงขลา ที่นำโดย “น้องอ๋อม” ฐิตาภา แก้ตัวสำเร็จ คว้าเหรียญทองไปครอง สกอร์ 433 ส่วนทีมชาย เหรียญทองเป็นของชลบุรี (ถิรวัฒน์ จิรายุสกมล, เด่นวิทย์ เดวิด บริบูรณ์ทรัพย์, อติรุจ วินัยเจริญชัย, วนิพันธุ์ มีสมอรรถ) สกอร์ 885 และบุคคลชาย เอกปริษฐิ์ หวู่ (ระยอง) 1 โอเวอร์พาร์ 289

 

ยิงปืน ปืนสั้นสตรี บุคคลหญิง “ลูกตาล” กัลป์ยกร หิรัญเพิ่ม นักแม่นปืนทีมชาติ เจ้าของเหรียญทองปืนสั้นสตรี ประเภททีม กีฬาซีเกมส์ 2015 ที่ประเทศสิงคโปร์ ลั่นไกได้ 577.21 คะแนน คว้าทองไปครองตามความคาดหมาย ขณะเดียวกัน กัลป์ยกร ร่วมกับ วชิราภรณ์ คำทองเงิน และวรุณยุพา แก้วเงิน ยิงรวมกัน 1636.31 คะแนน คว้าแชมป์ปืนสั้นสตรี ประเภททีมเป็นทองที่ 2 ของ กทม. ด้านปืนยาวท่านอน บุคคลหญิง หยดเทียน ประทุมทอง จาก กทม.เช่นกัน ยิงได้ 610.20 คะแนน คว้าทองที่ 3 ปิดท้ายให้ทัพลั่นไกเมืองหลวง

 
จักรยาน ประเภทลู่ ไทม์ไทรอัล 500 เมตร หญิง “บีม” ชนิภรณ์ บัตริยะ เยาวชนทีมชาติจาก กทม. ปั่นทำเวลา 39.26 วินาที คว้าแชมป์ ขณะที่ไทม์ไทรอัล 1 กม.ชาย “เรียว” เชตวัน สามงามมา จากพิษณุโลกคว้าแชมป์ด้วยเวลา 1.09.28 นาที

 

เซปักตะกร้อชายหาด ชิง 2 ทอง ทีมเดี่ยวหญิง ชลบุรี ชนะ นครสวรรค์ 2-0 เซ็ต 21-16, 21-13, ทีมเดี่ยวชาย ปทุมธานี ชนะ ชลบุรี 2-0 เซ็ต 21-16, 21-15

 

 

 

วูซูยุทธลีลา จันทบุรีกวาด 3 แชมป์จากมณเทียนทอง ศุภพร, ชัยรัตน์ สัณห์ฐิติรุ่งโรจน์, ธีรเดช พลสุวรรณ ประเภทชุดต่อสู้มือเปล่า ทีมชาย ขณะที่ กัญญาวีร์ พลสุวรรณ, ศุทธินี เมืองใย, ฟ้าใส พานิชการ ร่วมกันคว้า 2 แชมป์จากชุดต่อสู้มือเปล่า ทีมหญิง และชุดต่อสู้ประกอบอุปกรณ์ ทีมหญิง ด้านแชมป์ชุดต่อสู้ประกอบอุปกรณ์ ทีมชาย ธนายุต เกษมาลา, ศุภฤกษ์ สนธิรักษ์, ธีรภัทร์ ส่งศรี (ชลบุรี)

 

ส่วนทอง วูซู ประลองยุทธ เฉพาะทอง รุ่น 48 กก.หญิง ปานวาด พ่อสีชา (นครพนม), รุ่น 52 กก.หญิง พิมพ์วิมล ตาทอง (บุรีรัมย์), รุ่น 56 กก.หญิง ปิยะฉัตร แดงวิบูลย์ (กทม.), รุ่น 48 กก.ชาย ณัฐวัตร นาดี (อำนาจเจริญ), รุ่น 52 กก.ชาย ชวลิต สดชื่น (สตูล) และรุ่น 56 กก.ชาย ณัฐพงศ์ สร้างนอก (ชุมพร)

 
เปตอง รอบชิงชนะเลิศ ทีมชาย กทม.นำโดย เฉลิมชัย ธรรมนาม, ปรัชญา เทียมคง, สหัสสชัย ทองนุ่ม, พีรพล ปริญจิตร ทอยเอาชนะ สุโขทัย ที่มี นันทวัฒน์ จันตรี, ศุภชัย หมี่ตา, รัชตะ คำดี, ธนพนธ์ ไชยโย 13-10 คว้าทองสำเร็จ ขณะที่ทีมหญิง กทม.นำโดย เบญจมาศ ดีขำ, พิมบุษย์ เจริญวัฒนรุจน์, ชิชา ยิ้มสายคำ, ธนาพร เอี่ยมสอาด ชนะ พิจิตร ที่มี สุชาดา ศรีวงษ์, หัทยา ชุ่มจันทร์จิรา, สุดารัตน์ ทะซ้อน, ภัทรธิดา มีพักตร ทำให้เปตองเมืองหลวงเหมา 2 ทอง

 


นายพรรณภพ อุ่นเสียม ผู้อำนวยการสำนักงานการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) จ.ระนอง เปิดเผยว่า กีฬาเยาวชนแห่งชาติครั้งนี้เป็นมิติใหม่ที่มีเจ้าภาพร่วม ซึ่งทั้ง 2 จังหวัดต่างแข่งกันเพื่อจัดการแข่งขันให้ดีที่สุด ภาพรวมก็ทำได้ดีทั้ง 2 จังหวัด แต่ระนองก็เสียดายที่ไม่มีโอกาสได้จัดพิธีปิดการแข่งขัน ทั้งที่คิดว่ามีศักยภาพเพียงพอ และน่าจะมีโอกาสได้ทำมากกว่านี้ อย่างไรก็ตาม จากการที่ไม่ได้รับงบประมาณสนับสนุนจากส่วนท้องถิ่น ทำให้ส่งผลกระทบอยู่พอสมควร และความสมบูรณ์ไม่เต็มร้อย ดังนั้น กกท.ควรจะต้องกลับไปทบทวนว่าควรจะต้องงบเพิ่มเติมให้เจ้าภาพหรือไม่

 
นายพรรณภพกล่าวอีกว่า ระนองได้จัดตั้งอาคารศูนย์วิทยาศาสตร์การกีฬาภายใน อบจ.ระนอง ด้วยงบก่อสร้าง 14.8 ล้านบาท ซึ่งมีเพียงอาคาร แต่ยังขาดอุปกรณ์ โดยนายสกล วรรณพงษ์ ผู้ว่าการ กกท. ได้ลงมาตรวจชม และบอกว่าจะจัดอุปกรณ์ทดสอบสมรรถภาพร่างกาย และอุปกรณ์ฝึกซ้อมพละกำลังกล้ามเนื้อให้ และศูนย์แห่งนี้จะเปิดให้ชาวระนองได้ใช้ และวางแผนจะเสนอให้เป็นหนึ่งในตัวเลือกจากภาคใต้ที่จะใช้เป็นสถานที่เก็บตัวนักกีฬาทีมชาติด้วย

 
“ถ้าได้อุปกรณ์ต่างๆ มาพร้อมก็จะเสนอใช้เป็นศูนย์วิทย์แห่งนี้เป็นสถานที่เก็บตัวทีมชาติ และได้วางแผนปรับปรุงสนามฟุตบอล และยิมเนเซียมให้มีมาตรฐานยิ่งขึ้น อีกทั้งจะนำของดีเมืองระนองอย่างน้ำแร่จากบ่อน้ำแร่ร้อนธรรมชาติที่ขึ้นชื่อติดอันดับ 3 ของโลก และไม่มีกลิ่นกำมะถันแห่งเดียวของประเทศไทย ต่อสายเข้ามายังศูนย์วิทย์แห่งนี้เป็นแห่งแรก เพื่อรองรับนักกีฬาทีมชาติที่จะมาเก็บตัวฝึกซ้อมด้วยวารีบำบัด และธรรมชาติแวดล้อม ซึ่งถือเป็นจุดขายในการพัฒนากีฬาควบคู่กับการท่องเที่ยวด้วย” ผอ.กกท.จ.ระนอง กล่าวปิดท้าย

 

 

ส่วน พิธีปิดการแข่งขันกีฬาเยาวชนแห่งชาติ ครั้งที่ 33 “ชุมพร-ระนองเกมส์” จะมีขึ้นที่สนามกีฬากลาง จ.ชุมพร วันที่ 26 มี.ค. โดยมีนายสกล วรรณพงษ์ ผู้ว่าการ กกท. เป็นประธานในพิธี ร่วมด้วย นายณรงค์ พลละเอียด ผู้ว่าราชการ จ.ชุมพร และนายจตุพจน์ ปิยัมปุตระ ผู้ว่าราชการ จ.ระนอง โดยเจ้าภาพร่วมชุมพร และระนอง ได้จัดชุดการแสดงส่งท้ายพิธีปิดในชื่อชุด “อำลามิตรภาพไร้พรมแดน” จากนั้นมีพิธีการเชิญธงการแข่งขัน, ธงสัญลักษณ์การแข่งขัน และธงชาติไทยลงจากยอดเสา เพื่อเข้าสู่พิธีมอบธงให้แก้เจ้าภาพครั้งต่อไป ในการแข่งขันกีฬาเยาวชนแห่งชาติ ครั้งที่ 34 “น่านเกมส์” ที่ จ.น่าน ระหว่างวันที่ 19-29 มี.ค. พ.ศ.2561 และเจ้าภาพครั้งต่อไปได้จัดชุดการแสดงร่วมในพิธีปิดครั้งนี้ด้วย

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน