ทัพนักกีฬาคนพิการ ทีมชาติไทย ยิ้มออก หลังการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) อัดงบประมาณในการเก็บตัวฝึกซ้อมยาวถึง 6 เดือน ก่อนเข้าร่วมอาเซียนพาราเกมส์ ที่ฟิลิปปินส์ ปีหน้า

เกาะติดข่าวกีฬา แค่กดติดตาม ไลน์@ข่าวสดกีฬา ที่นี่
เพิ่มเพื่อน

เมื่อวันที่ 9 ก.ค.62 ที่ห้องประชุมชั้น 24 อาคารเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบพระชนมพรรษา กกท. หัวหมาก ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) พร้อมด้วย นายจุตินันท์ ภิรมย์ภักดี ประธานคณะกรรมการพาราลิมปิกแห่งประเทศไทย ร่วมกันเป็นประธานในงานปฐมนิเทศ นักกีฬาคนพิการและผู้ฝึกสอน เก็บตัวฝึกซ้อมเพื่อเตรียมการแข่งขันกีฬาอาเซียนพาราเกมส์ ครั้งที่ 10 โดยมีนายชูเกียรติ สิงห์สูง นายกสมาคมกีฬาคนพิการแห่งประเทศไทยฯ ร่วมให้การต้อนรับนักกีฬา

ทัพนักกีฬาคนพิการ

ชูเกียรติ สิงห์สูง นายกสมาคมกีฬาคนพิการแห่งประเทศไทยฯให้การต้อนรับคณะนักกีฬาที่มาร่วมปฐมนิเทศเก็บตัวฝึกซ้อมเตรียมทีมเข้าร่วมการแข่งขันกีฬาอาเซียนพาราเกมส์ ครั้งที่10 ที่อาคารเฉลิมพระเกียรติฯ กกท.หัวหมาก

สำหรับการแข่งขันกีฬาอาเซียนพาราเกมส์ ครั้งที่ 10 จะจัดขึ้นที่เมืองซูบิค ประเทศฟิลิปปินส์ ระหว่างวันที่ 18-25 มกราคม พ.ศ.2563 โดยไทยส่งนักกีฬาเข้าแข่งขันทั้งสิ้น 16 ชนิดกีฬา ประกอบด้วย กรีฑา, ว่ายน้ำ, เทเบิลเทนนิส, ยิงธนู, บอคเซีย, หมากรุกสากล, ฟุตบอล 7 คน, โกลบอล, ยูโด, ยกน้ำหนัก, โบว์ลิ่ง, จักรยาน, วอลเลย์บอล(นั่ง), วีลแชร์บาสเกตบอล และไตรกีฬา มีจำนวนนักกีฬาทั้งสิ้น 323 คน ผู้ฝึกสอน 91 คน ผู้ช่วยเหลือนักกีฬา 53 คน รวมทั้งสิ้น 467 คน ซึ่งเริ่มทำการเก็บตัวตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม ถึง 15 มกราคม พ.ศ.2563

ดร.ก้องศักด กล่าวว่า การปฐมนิเทศนั้นทางกกท. ได้ร่วมมือกับคณะกรรมการพาราลิมปิกแห่งประเทศไทย และสมาคมกีฬาคนพิการที่เกี่ยวข้อง เพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจให้กับนักกีฬาที่จะเข้าร่วมการแข่งขัน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของวิทยาศาสตร์การกีฬา, การป้องกันการใช้สารต้องห้าม เป็นต้น และการเก็บตัวร่วมกันจะทำให้ช่วยสร้างความสามัคคีของนักกีฬาไทยที่จะเป็นตัวแทนประเทศชาติ ผลักดันสร้างนักกีฬาให้มีผลการแข่งขันที่ดีให้ได้

“ก่อนหน้านี้ได้มีการไปเยี่ยมชมการฝึกซ้อมของนักกีฬายิงธนู และยิงปืนมาแล้ว ทางกกท. ก็จะเดินทางไปเยี่ยมชมและให้กำลังใจถึงสนามซ้อม ที่เก็บตัวทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัดเช่น นครราชสีมา, ลพบุรี หรือสุพรรณบุรี เพื่อจะได้รับฟังปัญหา และช่วยหาทางแก้ไขอย่างใกล้ชิดต่อไป”

ด้าน นายจุตินันท์ กล่าวว่า สำหรับการแข่งขันอาเซียนพาราเกมส์นั้น ภาพรวมยังคงมองเป็นการซ้อมใหญ่ก่อนการแข่งขันพาราลิมปิกเกมส์ 2020 ที่กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ครั้งนี้มีนโยบายให้ส่งนักกีฬาหน้าใหม่อย่างน้อย 30 เปอร์เซ็นต์ ร่วมแข่งขันในแต่ละชนิดกีฬา ซึ่งผลการแข่งขันไม่ได้เน้นมาก จะเน้นเฉพาะกีฬาสากล และก็ไม่ได้เน้นเหรียญรางวัลแต่เน้นสถิติส่วนตัว เพื่อจะประเมินสู่พาราลิมปิกเกมส์ 2020 ต่อไป

“การแข่งขันครั้งนี้เจ้าภาพจัด 16 ชนิดกีฬา ส่วนใหญ่เป็นกีฬาที่ได้รับการยอมรับระดับนานาชาติ ความพร้อมของนักกีฬานั้นส่วนหนึ่งก็เก็บตัวแข่งขันคัดเลือก ทำสถิติตลอดเวลา ดังนั้นมีความพร้อมอยู่แล้ว ส่วนพวกหน้าใหม่อาจจะยังขาดประสบการณ์อยู่บ้าง อย่างไรก็ตามครั้งนี้เป็นนิมิตหมายที่ดี ที่ทางกกท.ให้งบประมาณเก็บตัวถึง 6 เดือน มากกว่าทุกครั้งที่ผ่านมา ต้องขอบคุณทางกกท.ด้วยที่เห็นความสำคัญของการเก็บตัวนักกีฬาคนพิการ” ประธานพาราลิมปิกไทย กล่าวปิดท้าย

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน