ธรรมศาสตร์ ยืนยันสนามฟุตบอลที่ศูนย์รังสิต ปรับปรุงทันรองรับเจ้าภาพฟุตบอลเยาวชนชิงแชมป์เอเชีย รุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี รอบสุดท้ายที่ไทยจะเป็นเจ้าภาพต้นปีหน้า เหลือเพียงการปรับพื้นที่บางส่วนเท่านั้น ด้าน กรวีร์ ปริศนานันทกุล เลขาสมาคมลูกหนัง ชี้ทีมงานโค้ชจะลงตัวหลังจบฟุตบอลโลก รอบคัดเลือก ที่จะดวลกับยูเออี

สนามธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต เป็น 1 ใน 4 สนามสำหรับใช้แข่งฟุตบอลเยาวชนชิงแชมป์เอเชีย รุ่นอายุ 23 ปี รอบสุดท้ายที่ไทยจะเป็นเจ้าภาพ คัดเลือกตัวแทนทวีปเอเชียเข้าร่วมฟาดแข้งฟุตบอลโอลิมปิกโตเกียว 2020 ทั้งนี้เมื่อวันที่ 23 ก.ย. ฝ่ายจัดการแข่งขันและกิจกรรมฟุตบอล สมาพันธ์ฟุตบอลแห่งเอเชีย (เอเอฟซี) พร้อมด้วยเจ้าหน้าทีสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ เดินทางไปตรวจสอบความคืบหน้าการปรับปรุงสนามธรรมศาสตร์ รังสิต เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับจัดการแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์เอเชีย รุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี ในช่วงเดือนม.ค.2563

เกาะติดข่าวกีฬา แค่กดติดตาม ไลน์@ข่าวสดกีฬา ที่นี่
เพิ่มเพื่อน

หลังการตรวจสอบ นายณัฐพงศ์ จงอักศร หัวหน้าฝ่ายพัฒนาธุรกิจกีฬา สนามธรรมศาสตร์ กล่าวว่า “เอเอฟซีได้ตรวจสภาพโดยรอบของสนาม ว่าสนามของเรามีอะไรดำเนินการไปแล้วบ้าง โดยเราแบ่งการปรับปรุงเป็น 3 ช่วง ช่วงแรกคือการปรับปรุงภูมิทัศน์รอบนอก และสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ อาทิ ลานจอดรถ ที่ได้เพิ่มลานจอดรถกว่า 500 คัน พร้อมกันนี้ได้ซ่อมแซมลานจอดรถเดิม และเพิ่มไฟส่องสว่างให้มีจำนวนมากขึ้น รวมถึงห้องน้ำภายในสนามสำหรับแฟนบอลทั้ง 20 ห้อง ขณะเดียวกัน เราได้เพิ่มไฟส่องสว่างภายในอาคาร เพื่อให้เหมาะสมกับความสะดวกและปลอดภัยสำหรับแฟนบอล โดยเฟสแรก มีเดดไลน์คือต้องเสร็จก่อนเกมฟุตบอลโลก รอบตัดเลือก ที่เจอกับเวียดนาม ซึ่งเราทำเสร็จเรียบร้อย เมื่อวันที่ 5 ก.ย.ที่ผ่านมา”

“ส่วนช่วงที่สองเรากำลังดำเนินการอยู่ในปัจจุบันคือพื้นที่ของสื่อมวลชน อาทิ พื้นที่การทำงานของสื่อภายในสนาม ที่ต้องเพิ่มที่นั่งให้เพียงพอ 150 ที่นั่ง รวมถึงห้องแถลงข่าว และห้องสำหรับผู้บรรยายเกมการแข่งขัน ส่วนช่วงที่ 3 เราต้องรอให้ฟุตบอลลีกภายในประเทศจบลง เนื่องจากสนามของเรา ทีมทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด ใช้เป็นสนามเหย้า หลังจากฟุตบอลลีกจบแล้วจะทำการปรับห้องพักนักกีฬา ห้องพักผู้ตัดสิน และห้องที่เกี่ยวข้องกับการแข่งขัน รายละเอียดที่ต้องเพิ่มเติมไม่ได้มีอะไรมาก อาจจะขยับอะไรนิดหน่อย เพื่อให้ทุกอย่างสะดวกสบายมากขึ้น ซึ่งเรามีแผนที่จะต้องเสร็จให้ทันเดดไลน์ของเอเอฟซี ในวันที่ 15 ธ.ค.”

ส่วนความคืบหน้าของทีมงานทีมชาติไทย รุ่นอายุ 23 ปี ภายใต้ อากิระ นิชิโนะ กุนซือชาวญี่ปุ่นที่ทำหน้าที่ควบกับคุมทีมชาติชุดใหญ่นั้น ตอนนี้ยังไม่มีบทสรุปว่าจะเลือกใครเป็นผู้ช่วยนิชิโนะ ระหว่าง อิสสระ ศรีทะโร, ธชตวัน ศรีปาน หรือ อนุรักษ์ ศรีเกิด ซึ่งเป็นผู้ช่วยโค้ชในทีมชาติชุดใหญ่

“บิ๊กแชมป์”นายกรวีร์ ปริศนานันทกุล เลาขาธิการสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ เผยว่า ทุกอย่างยังอยู่ในขั้นตอนการพิจารณาของ อากิระ นิชิโนะ หัวหน้าโค้ชทีมชาติไทย เพียงแต่ตอนนี้ยังไม่มีกรณีเร่งด่วนในการแต่งตั้ง คงต้องรอหลังจากจบเกมฟุตบอลโลก รอบคัดเลือก โซนเอเชีย ที่ไทยจะเปิดบ้านพบสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (ยูเออี) วันที่ 15 ต.ค.นี้

“ตอนนี้ นิชิโนะ กลับมาจากญี่ปุ่นและตามดูฟอร์มนักเตะในเกมไทยลีก เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา เพื่อเตรียมศึกษาว่าจะเลือกใครเข้าเล่นในเกมที่ไทยจะพบกับสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ส่วนเรื่องทีมงานโค้ชทีมเยาวชน 23 ปีนั้นคงต้องรอจบจากเกมกับยูเออีเสียก่อน เพราะอย่าลืมว่าเยาวชน 23 ปีมีโปรแกรมก่อนชิงแชมป์เอเชีย นั่นคือฟุตบอลในซีเกมส์ ครั้งที่ 30 ที่ประเทศฟิลิปปินส์ช่วงปลายปีนี้

“หากนิชิโนะเลือกทีมงานโค้ชชุดซีเกมส์ เชื่อว่าทีมงานชุดนี้จะเป็นทีมงานโค้ชชุดเดียวกับฟุตบอลเยาวชนชิงแชมป์เอเชีย รุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี ที่ประเทศไทยจะเป็นเจ้าภาพในช่วงเดือนม.ค.ปีหน้าด้วยเช่นกัน เพียงแต่ตอนนี้ยังไม่ชัดเจว่าจะใช้ผู้ช่วยที่มีอยู่แล้วทั้ง 3 คน หรือว่าจะประกาศแต่งตั้งใครเข้ามาเพิ่มอีก”

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน