(29 ก.ย.62) “ศิษย์ดีต้องมีครูดี” คำกล่าวนี้มีให้เห็นเป็นประจักษ์ในทุกวงการ ทุกยุคทุกสมัย “เจ้าบอล” แสงมณี แสงมณีเสถียรมวยไทยยิม ยอดนักชกไทยจากเมืองหมอแคน จังหวัดขอนแก่น มีพ่อผู้ให้กำเนิดและเป็นครูมวยผู้ถ่ายทอดวิชาความรู้ด้านมวยไทย และยังสอนเรื่องการครองตัวเป็นนักมวยที่ดีด้วย

นักมวยรูปหล่ออนาคตไกล ชื่อเสียงติดอันดับตัวท็อปของประเทศ “แสงมณี แสงมณีเสถียรมวยไทยยิม” นักมวยผู้เป็นที่หมายตาของทุกศึกทุกสาย กว่าที่เขาจะก้าวขึ้นมาเป็นที่เชิดหน้าชูตาของวงศ์ตระกูล ก็ได้พ่อผู้ให้กำเนิดซึ่งเป็นอดีตนักมวยไทยนามว่า “เพลงศึก สุรสีห์ปิยะ” เป็นผู้ผลักดัน เคี่ยวเข็ญ ดั่งต้นไม้จะงามต้องรดน้ำ พรวนดิน ใส่ปุ๋ย และตัดแต่งกิ่งก้านใบ จนมันสวยงาม

“นายหนูกัน สิทธิเดช” พ่อของแสงมณี เดิมมีอาชีพทำไร่ไถนา ฐานะความเป็นอยู่ไม่สู้ดี จึงหันไปยึดอาชีพชกมวยเป็นรายได้เสริม โดยมี “นางเพ็ญศรี สิทธิเดช” ผู้เป็นภรรยา และ “เจ้าบอล” ลูกชาย ตามไปเชียร์ถึงขอบเวทีเป็นประจำ

เจ้าบอล ไปดูพ่อชกมวยตั้งแต่ปากยังไม่สิ้นกลิ่นน้ำนม ยิ่งเห็นก็ยิ่งชอบ จึงขอพ่อซ้อมมวยบ้าง เมื่อได้โอกาสจึงลองชกกับเด็กรุ่นราวคราวเดียวกันตั้งแต่อายุ 6 ขวบ ปรากฏว่า 13 ไฟต์รวดสะกดคำว่าแพ้ไม่เป็น ฉายแววดาวดังวงการมวยไทยตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา

จากนักมวยบ้านนอก ชกมวยเพื่อหาค่าขนม ค่าอาหาร ไปโรงเรียน โดยไม่เป็นภาระครอบครัว ต่อมามีโอกาสได้ชกออกทีวีช่อง 9 ศึกอัศวินดำ กลายเป็น “ทารกเงินล้าน” รู้จักกันไปทั่ว และโด่งดังข้ามไปชกที่สนามมวยเวทีมาตรฐานราชดำเนิน-ลุมพินี

ด้วยความเก่งระดับอัจฉริยะทำให้ แสงมณี ผงาดเป็นยอดมวยไทยสองเวทีเป็นคนแรกในประวัติศาสตร์ ทั้งยังได้เป็น “นักมวยไทยยอดเยี่ยม” รางวัลถ้วยพระราชทานฯ จากสมาคมผู้สื่อข่าวกีฬาแห่งประเทศไทย พ.ศ.2555 ในวัยเพียง 15 ปี พร้อมด้วยฉายาที่นักข่าววงการมวยมอบให้ว่า “ขวัญใจนักเรียน” เพราะขณะนั้นเจ้าบอลกำลังเรียนหนังสือ และเมื่อไปชกที่ไหนก็จะมีเพื่อนๆ นักเรียนตามไปเชียร์อยู่เสมอ

ขณะนี้ เจ้าบอล ในวัย 22 ปีเป็นดาวเด่นประดับวงการ โดยตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาหลังจากได้รับตำแหน่งยอดมวยไทย ไม่เคยมีประวัติเสื่อมเสีย มีแต่จะสร้างชื่อ สร้างบารมีเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะ 4 ไฟต์หลังล่าสุด ที่เอาชนะ ชูเจริญ ดาบรันสารคาม, ตะวันฉาย พี.เค.แสนชัยฯ, ยอดเหล็กเพชร อ.อัจฉริยะ และ ยอดพนมรุ้ง จิตรเมืองนนท์ ซึ่งล้วนแต่เป็นนักมวยเก่งระดับประเทศทุกคน

นายหนูกัน ผู้เป็นพ่อกล่าวถึง เจ้าบอล อย่างภาคภูมิใจว่า “ครอบครัวเราเกิดมาจากรากหญ้า ผ่านความลำบากมาเยอะ สมัยก่อนบางปีปลูกผักปลูกมันไม่ได้ผลผลิตเลย แต่เราต้องกินต้องใช้ จึงยึดอาชีพต่อยมวยเป็นอาชีพเสริม ซึ่งการชกมวยทำให้เราและครอบครัวมีกินมีใช้มาจนทุกวันนี้ เจ้าบอลได้เรียนหนังสือดีๆ มีบ้านมีรถ ไปไหนมาไหนมีคนนับหน้าถือตา เมื่อเราได้ดีแล้วอย่าลืมตัว อย่าออกนอกลู่นอกทาง เจอผู้หลักผู้ใหญ่ให้มีสัมมาคารวะ”

ด้านเจ้าบอลเสริมว่า “ผมเชื่อฟังคำสั่งสอนของพ่อแม่มาตลอด ผมทราบดีว่าท่านหวังดีกับผม เรื่องการเรียน การเงิน ก็ไม่เคยเสีย ท่านสอนอะไร ผมทำตาม ไม่ออกนอกลู่นอกทางครับ”

“เจ้าบอล” พงศกร สิทธิเดช เป็นเด็กดีของครอบครัว ปัจจุบันค่าตัวจากการชกมวยในประเทศ 250,000–300,000 บาท ส่วนต่างประเทศมากกว่านี้ 2–3 เท่า เป็นนายของตัวเองตั้งแต่ยังหนุ่ม เป็นเจ้าของค่ายมวย “แสงมณีเสถียรมวยไทยยิม” ตั้งอยู่รามคำแหง 88 ล่าสุดตัดสินใจเซ็นสัญญาเป็นนักมวยในสังคมรายการระดับโลกที่มีผู้ชมกว่า 140 ประเทศทั่วโลกอย่าง “วัน แชมเปียนชิพ” ต่อไปนี้ชื่อของ แสงมณี จะแผ่ขจรไกลชนิดฉุดไม่อยู่ทีเดียว

เร็วๆ นี้แฟนๆ จะได้เห็นผลงาน “แสงมณี แสงมณีเสถียรมวยไทยยิม” บนสังเวียน วัน แชมเปียนชิพ ไม่นานเกินรอ ติดตามอัพเดตข่าวสารของเขาได้ทาง เฟซบุ๊ก ONE Championship Thailand

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน