เรือใบพลาดจุดโทษ แถมต้องหาคนมาทำหน้าที่ผู้รักษาประตูเฉพาะกิจ ก่อนจบเจ๊าอตาลันตา ขณะที่ “เปแอสเช-เสือใต้-ม้าลาย” ต่างเก็บชัยคว้าตั๋วเข้ารอบน็อกเอาต์ยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก

เกาะติดข่าวกีฬา แค่กดติดตาม ไลน์@ข่าวสดกีฬา ที่นี่
เพิ่มเพื่อน

การแข่งขันฟุตบอลยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก รอบแบ่งกลุ่ม เมื่อวันที่ 6 พฤศจิกายน กลุ่มซี อตาลันตา จากอิตาลี ลงเล่นที่สนามสตาดิโอ จูเซปเป เมอัซซา เมืองมิลาน ปะทะกับ “เรือใบสีฟ้า”แมนเชสเตอร์ ซิตี้ จากอังกฤษ โดยทีมเยือนขอแค่ชนะเกมนี้จะเข้ารอบทันที

เกมนี้อตาลันตาส่ง โยซิป อิลิชิช, อเลฆานโดร โกเมซ, มาริโอ ปาซาลิช ลงตัวจริง ส่วนแมนฯซิตี้นำโดย กาเบรียล เชซุส, ราฮีม สเตอร์ลิง, ริยาด มาห์เรซ

เริ่มเกมมาแค่ 7 นาที แบร์นาร์โด ซิลวา แทงบอลเข้าเขตโทษ กาเบรียล เชซุส วิ่งมาถึงแล้วตอกส้นให้ ราฮีม สเตอร์ลิง ยิงเข้าไปไม่พลาด แมนฯซิตี้นำตัวหัววัน 1-0

นาที 35 กาเบรียล เชซุส รับบอลจากเพื่อนแล้วแปะต่อให้ ริยาด มาห์เรซ พาบอลเข้ามาถึงหน้าเส้นเขตโทษก่อนสับไกยิง แต่นายทวารยังพุ่งปัดไว้ทันเวลา ทีมเยือนจึงไม่ได้ประตูเพิ่ม

นาที 40 ราฟาเอล โตลอย ไปทำฟาวล์ใส่ ราฮีม สเตอร์ลิง บริเวณใกล้เส้นเขตโทษ ผู้ตัดสินจึงต้องขอเช็กวีเออาร์ว่าควรเป็นจุดโทษหรือไม่ ก่อนเป่าให้แมนฯซิตี้ได้แค่ฟรีคิกหน้าเขตโทษเท่านั้น

จากนั้นสเตอร์ลิงยิงฟรีคิกไปติดกำแพงอตาลันตาที่ยืนกันในเขตโทษ ผู้ตัดสินจึงขอดูวีเออาร์อีกครั้ง พบว่าบอลโดนแขน โยซิป อิลิชิช คราวนี้จึงเป็นจุดโทษของแมนฯซิตี้ อย่างไรก็ตาม กาเบรียล เชซุส กลับสังหารพลาดหลุดกรอบไปเอง จบครึ่งแรก “เรือใบสีฟ้า” ยังนำแค่ 1-0

ครึ่งหลังนาที 49 เสียงเชียร์กระหึ่มสนาม อเลฆานโดร โกเมซ สปีดตามไปหาบอลทางริมเส้นฝั่งซ้าย ก่อนเปิดเข้าเขตโทษอย่างเหมาะเหม็งให้ มาริโอ ปาซาลิช โขกเต็มหัวเสียบตาข่าย สกอร์จึงเสมอกัน 1-1

นาที 81 สถานการณ์ของแมนฯซิตี้แย่กว่าเดิม เมื่ออตาลันตาตัดบอลได้จากกลางสนามแล้วแทงทะลุให้ โยซิป อิลิชิช ควบแซงแนวรับได้ เคลาดิโอ บราโบ จึงตัดสินใจพุ่งออกมานอกเขตโทษเพื่อสกัด แต่ดันพลาดไปเสียบอิลิชิชล้มลง ผู้ตัดสินจึงแจกใบแดงไล่ออกจากสนาม แมนฯซิตี้ต้องเหลือ 10 คน

ยิ่งไปกว่านั้น แมนฯซิตี้ยังไม่เหลือตัวสำรองในตำแหน่งผู้รักษาประตูอีก เนื่องจากบราโบเป็นคนที่ถูกเปลี่ยนลงมาแทน เอแดร์สัน โมเรส ในช่วงครึ่งหลัง ทำให้ต้องตัดสินใจส่ง ไคล์ วอล์กเกอร์ ผู้เล่นตำแหน่งแบ๊กขวา ลงเฝ้าเสาเฉพาะกิจแทน โดยเปลี่ยนตัวกับ ริยาด มาห์เรซ

จากลูกฟรีคิกระยะประมาณ 25 หลา รุสลัน มาลินอฟสกี ตะบันเรียดพุ่งผ่านกำแพงไปตรงตัววอล์กเกอร์ แต่มือกาวจำเป็นรายนี้ออกอาการเหวอรับหลุดมือเฉย เดชะบุญที่กระฉอกใกล้ตัวและไม่มีใครตามมาซ้ำทัน สุดท้ายเกมจบเสมอกันไป 1-1

อีกคู่ในกลุ่มเดียวกัน ดินาโม ซาเกร็บ(โครเอเชีย) เสมอชักตาร์ โดเน็ตส์ก(ยูเครน) 3-3

ทำให้ผ่านไป 4 นัด แมนฯซิตี้เก็บเพิ่มเป็น 10 คะแนน นำจ่าฝูง อันดับ 2 ชักตาร์(5 แต้ม) อันดับ 3 ดินาโม ซาเกร็บ(5 แต้ม) อันดับ 4 อตาลันตา(1 แต้ม)

ด้านกลุ่มเอ ปารีส แซงต์ แชร์กแมง จากฝรั่งเศส เฉือนชนะ คลับ บรูช จากเบลเยียม 1-0 ได้ประตูชัยจาก เมาโร อิการ์ดี นาที 22

ผลอีกคู่ เรอัล มาดริด(สเปน) เอาชนะกาลาตาซาราย(ตุรกี) 6-0

ทำให้ผ่านไป 4 นัด เปแอสเชชนะรวด กวาดไป 12 คะแนนเต็ม นำจ่าฝูงและเข้ารอบน็อกเอาต์แล้ว ตามด้วยอันดับ 2 มาดริด(7 แต้ม) อันดับ 3 คลับ บรูช(2 แต้ม) อันดับ 4 กาลาตาซาราย(1 แต้ม)

กลุ่มบี “เสือใต้”บาเยิร์น มิวนิก จากเยอรมนี เอาชนะโอลิมเปียกอส จากกรีซ 2-0 เจ้าถิ่นได้จาก โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี นาที 69, อิวาน เปริซิช นาที 89

ส่วนอีกคู่ เชอร์เวนา ซเวซดา(เซอร์เบีย) แพ้ต่อท็อตแนม ฮอตสเปอร์(อังกฤษ) 0-4

ทำให้ผ่านไป 4 นัด บาเยิร์นชนะรวด กวาดไป 12 คะแนนเต็ม นำจ่าฝูงและการันตีผ่านเข้าสู่รอบน็อกเอาต์แล้ว อันดับ 2 สเปอร์ส(7 แต้ม) อันดับ 3 ซเวซดา(3 แต้ม) อันดับ 4 โอลิมเปียกอส(1 แต้ม)

กลุ่มดี โลโคโมทีฟ มอสโก จากรัสเซีย พ่ายให้กับ “ม้าลาย”ยูเวนตุส จากอิตาลี 1-2 ทีมเยือนได้จาก อารอน แรมซีย์ นาที 4, ดักลาส คอสตา นาที 90 ส่วนเจ้าถิ่นได้จาก อเล็กเซ มิรันชุก นาที 12

อีกคู่ ไบเออร์ เลเวอร์คูเซน(เยอรมนี) เอาชนะแอตเลติโก มาดริด(สเปน) 2-1

หลังผ่านไป 4 นัด ยูเวนตุสเก็บได้ 10 คะแนน นำจ่าฝูงและการันตีผ่านเข้าสู่รอบน็อกเอาต์แล้ว อันดับ 2 แอตฯมาดริด(7 แต้ม) อันดับ 3 โลโคโมทีฟ(3 แต้ม) อันดับ 4 เลเวอร์คูเซน(3 แต้ม)

ผลฟุตบอลยูฟ่า ยูโรปา ลีก รอบแบ่งกลุ่ม

วิตอเรีย กิมาไรส์(โปรตุเกส) 1-1 อาร์เซนอล(อังกฤษ)

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน