โค้ชนายด่านไทย อย่าง ซาซา โทดิช ออกมาขอโทษที่เป็นหนึ่งของความวุ่นวายหลังเกมที่เวียดนาม เสมอ ไทย 0-0 ในฟุตบอลโลก รอบคัดเลือก โซนเอเชีย เมื่อ 19 พ.ย.ที่ผ่านมา พร้อมกับชี้แจงว่าการแสดงท่าทางยกมือขึ้น-ลง สื่อถึงอันดับตารางคะแนนของกลุ่มจี ที่จะมีการเปลี่ยนแปลง ไม่ได้หมายถึงความสูงของ ปาร์ก ฮัง ซอ โค้ชใหญ่เวียดนามแต่อย่างใด

โค้ชนายด่านไทย อย่าง ซาชา โทดิช กล่าวชี้แจง และขอโทษกับเรื่องราวปัญหาที่เกิดขึ้น หลังจบเกมบุกไปเสมอ ทีมชาติเวียดนาม 0-0 ในฟุตบอลโลก 2022 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย รอบ 2 นัดที่ 5 กลุ่มจี ที่สนามีดินห์ สเตเดียม เมื่อวันที่ 19 พ.ย.ที่ผ่านมา

เกาะติดข่าวกีฬา แค่กดติดตาม ไลน์@ข่าวสดกีฬา ที่นี่
เพิ่มเพื่อน

เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจบเกมในขณะที่ ปาร์ก ฮัง ซอ กุนซือเจ้าถิ่น เดินเข้ามาจับมือกับ อากิระ นิชิโนะ หัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมชาติไทย แต่จากนั้นจู่ๆ กลับปรี่เข้ามามีเรื่องกับ ซาชา โทดิช ซึ่งเจ้าตัวเผยว่าเป็นเพราะถูกหัวเราะเยาะเย้ย ในช่วงระหว่างสั่งการ นอกจากนี้ประเด็นดังกล่าวยังแรงขึ้นไปอีก เมื่อมีภาพที่ดูเหมือนโค้ชผู้รักษาประตูช้างศึก ทำมือเหยีดยความสูง เฮดโค้ชชาวเกาหลีใต้ หลุดออกมาด้วย

ล่าสุด ซาชา โทดิช กล่าวชี้แจงว่า “เมื่อพิจารณาจากความจริง มีการพูดกันมากมายเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นหลังเกมระหว่างเวียดนามกับไทย ผมต้องออกมาและแสดงถึงสิ่งที่ถูกต้องในเหตุการณ์นี้”

“ทุกอย่างที่เผยแพร่ทางสื่อต่างๆ และโซเชียลมีเดียไม่เป็นความจริง โดยเฉพาะอย่างยิ่งไม่มีการเหยียดเชื้อชาติอย่างที่บางสื่อนำเสนอ มีคลิปวิดีโอที่เห็นปฏิกิริยาของผมและทีมงานไทยทั้งหมดชัดเจนที่ม้านั่งสำรองเช่นกัน”

“เราโดนด่าทั้งที่อยู่ในพื้นที่ของเรา ตรงหน้าม้านั่งสำรอง เราทุกคนมีปฏิกิริยา แต่กระแสพุ่งตรงมาที่ผมคนเดียวอย่างที่มีรูปปรากฏออกมา”

“ผมทำท่าวัดความสูงของโค้ช นั่นคือสิ่งที่สื่อใช้ทำให้เกิดเรื่องอื้อฉาว ถึงแม้จะมีคลิปวิดิโอที่ปฏิเสธเรื่องนี้ได้ เพราะเห็นได้เลยว่าผมทำมือขึ้นลง ผมกำลังคิดว่าเวียดนามตอนนี้อยู่ที่หนึ่งของกลุ่มแต่จะร่วงลงมาในตอนหลัง เพราะไทยจะแซงพวกเขาขึ้นไป”

“ท่าทางของผมในวิดีโอไม่ได้ตั้งใจที่จะทะเลาะหรือดูหมิ่นใคร แต่พูดด้วยรอยยิ้มและทำมือแสดงท่าทางว่าเวียดนามจะหล่นลงมาจากอันดับหนึ่งมาอันดับต่ำกว่าเราในภายหลัง”

“ผมขอใช้โอกาสนี้ขอโทษคนที่เข้าใจท่าทางของผมผิดความคิดเห็นจากแฟนบอลชาวเวียดนามจำนวนมากที่โจมตีผม โดยได้รับเรื่องที่ไม่จริงจากสื่อ เห็นแค่รูปภาพและไม่รู้ความจริง ตอนนี้คุณได้รู้ความจริงแล้วได้โปรดยอมรับคำขอโทษของผมด้วย”

“มีเรื่องขัดแย้งและความตึงเครียดระหว่างเราอยู่เสมอ แต่ไม่จำเป็นที่ผมจะไม่บอกความจริงและทำให้ทุกคนโกรธ”

“ในอาชีพของผม ผมทำงานมาแล้วมากกว่า 400 นัดในเกมลีกและเกมทีมชาติ ผมไม่เคยมีความขัดแย้งกับใครทั้งในฐานะนักเตะและการเป็นโค้ชในภายหลัง ผมยุติธรรมกับเพื่อนร่วมงานและนักเตะของผม และรวมถึงเพื่อนร่วมงานและนักเตะของคู่แข่งด้วย”

“ทั้งหมดนี้คือเรื่องจริง ต้องขอโทษอีกครั้งสำหรับความวุ่นวายที่สื่อเขียนขึ้นมา ต่อผู้คนและแฟนบอลเวียดนาม สหพันธ์ฟุตบอลเวียดนาม ทีมงานและนักเตะเวียดนาม ด้วยความเคารพ”

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน