ความคืบหน้าในการสรรหากุนซือ “ช้างศึก”ทีมชาติไทยคนใหม่แทนที่ “ซิโก้”เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง ใกล้ลงตัวมีกุนซือระดับโลกจำนวน 7 คน ส่งโปรไฟล์และเข้าสัมภาษณ์กับสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ อย่างเป็นทางการ ได้แก่วินฟรีด เชเฟอร์ (เยอรมนี), เรเน มูเลนสตีน (เนเธอร์แลนด์), มิโลวาน ราเยวัช (เซอร์เบีย), มาซาฮิโระ ชิโมดะ (ญี่ปุ่น), จอร์วาน วิเอรา (บราซิล), มาร์กอส ปาเกตา (บราซิล), ดราแกน ทาลายิช (โครเอเชีย) และจะปิดรับสมัครในวันที่ 24 เม.ย. ซึ่ง อแล็ง แปร์กแรง ชาวฝรั่งเศส จะมาสัมภาษณ์เพิ่มเติม โดย “บิ๊กอ๊อด”พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ มอบหมายให้ “โค้ชเฮง”วิทยา เลาหกุล ประธานฝ่ายพัฒนาเทคนิค สมาคมกีฬาฟุตบอลฯ เป็นผู้คัดเลือกรายชื่อเพื่อนำเสนอ
โดยแปร์กแรง วัย 60 ปี เคยทำงานในระดับสโมสรมาหลายทีมในลีกเอิง ฝรั่งเศส เช่นทรัวส์, มาร์กเซย, ลียง, แซงต์ เอเตียง และรับงานในต่างแดนมาแล้วเช่น ปอร์ตสมัธ, อัล กาลาฟา ในกาตาร์, ทีมชาติกาตาร์ชุดโอลิมปิก และล่าสุดคุมทีมชาติจีนระหว่าง 2014-2016
นายวิทยา กล่าวว่า คาดว่าจะมีเพิ่มเข้ามาคนเดียว จากนั้นตนจะนำรายชื่อเสนอให้ พล.ต.อ.สมยศ พิจารณา โดยเชื่อว่าวันอังคารที่ 25 เม.ย. น่าจะประกาศรายชื่อหัวหน้าโค้ชทีมชาติไทยคนใหม่ได้ สำหรับชื่อที่ตนคัดเลือกไว้ ตอนนี้มีในใจแล้ว อาจจะเสนอชื่อผู้ที่อยู่ในข่าย 3 คนทั้งนี้โค้ชแต่ละคน ไม่ค่อยสนใจเรื่องเงินค่าจ้างนัก แต่ต้องการมาสร้างชื่อเสียงในการคุมทีมชาติไทยที่กำลังอยู่ในช่วงพัฒนา
“สำหรับโค้ชที่จะมาคุมทีมชาติไทย จะมีทีมผู้ช่วยมาด้วย หลักๆ 3 ตำแหน่ง คือผู้ช่วยโค้ช, โค้ชผู้รักษาประตู, ฟิตเนสโค้ช สมาคมฯ จะมาพิจารณาตามความจำเป็นว่าต้องการกี่คน อาจตัดบางตำแหน่ง อย่างนักกายภาพที่มีอยู่แล้ว ขณะเดียวกันในส่วนของโค้ชไทยที่จะเข้ามาเป็นผู้ช่วย ต้องสรรหาอย่างละเอียด ต้องมีคุณสมบัติจะเป็นโค้ชทีมชาติในอนาคตมาเรียนรู้ ต้องคิดเป็น ทำเป็น ซึ่งใจจริงๆ ผมอยากได้โค้ชไทย สัก 7 คน แต่เบื้องต้นอาจจะสัก 3 คน คือผู้ช่วยโค้ช, โค้ชผู้รักษาประตู รวมทั้งฟิตเนสโค้ช ที่ไทยมีปัญหามาก อย่างไรก็ตามทั้งหมดต้องเสนอให้ พล.ต.อ.สมยศ ตัดสินใจขั้นสุดท้าย” นายวิทยา กล่าว
