ความคืบหน้า ฟุตบอลทีมชาติไทย ชาย ชุดอายุไม่เกิน 23 ปี ก่อนทำศึกฟุตบอลยู-23 ปีชิงแชมป์เอเชีย ที่ไทยเป็นเจ้าภาพ ต้นปีหน้าเพื่อคัดเลือกตัวแทนโซนเอเชียไปแข่งขันโอลิมปิกเกมส์ ฤดูร้อน ค.ศ.2020 ที่ ญี่ปุ่น

ล่าสุดเมื่อ 15 ธ.ค.62 อากิระ นิชิโนะ กุนซือ ช้างศึก ชาวซามูไรเผยถึงความพร้อมลูกทีม หลังพลาดท่าตกรอบแรก ซีเกมส์ 2019 ที่ฟิลิปปินส์มาหมาดๆ

“ระหว่างนี้ อยากให้นักเตะได้พักฟื้นร่างกายอย่างน้อย 10 วัน ก่อนจะมารวมตัวกันอีกครั้งในวันที่ 26 ธันวาคมนี้ ซึ่งเมื่อถึงวันนั้น เราก็จะดูสภาพร่างกายของทุกคนอีกครั้ง ตอนนี้หลายสโมสรก็เริ่มเก็บตัวสำหรับฤดูกาลหน้าแล้ว แต่บางสโมสรก็ยังต้องประเมินรายบุคคลอีกครั้ง ซึ่งผมก็อยากให้ทุกคนพักผ่อนอย่างเต็มที่ เพื่อฟื้นฟูร่างกายให้สมบูรณ์ นอกจากนี้เรากำลังพิจารณาว่าจะเรียกนักเตะมาทั้งหมดกี่คน”

“สำหรับนักเตะที่จะเรียกมา ก็น่าจะเพิ่มเติมจากชุดซีเกมส์ เพื่อขอดูตอนซ้อมว่าแต่ละคนเป็นอย่างไรบ้าง และจะมีการตัดสินใจอีกครั้ง ถ้าตอบตรงเลยๆ คือเราน่าจะมีการเรียกในทุกตำแหน่ง ทั้งกองหลัง กองกลาง และกองหน้า ซึ่งเรามีจุดที่ต้องปรับปรุงมากมาย ในการเก็บตัวครั้งนี้ เราเลยต้องเรียกเพิ่มทุกตำแหน่ง”

นิชิโนะ กล่าวต่อว่า เราเองก็วางแผนสเกาท์คู่ต่อสู้ไว้แล้ว ซึ่งที่ผ่านมาก็ได้มีการวางแผนกับผู้ช่วยโค้ช เกี่ยวกับวิธีการสเกาท์คู่ต่อสู้แต่ละทีม ซึ่งหลักๆ ก็คือ บาห์เรน คู่ต่อสู้ทีมแรก ส่วนทีมอื่นๆ เราก็ค่อยมาดูในทัวร์นาเมนต์อีกครั้ง ถ้าพูดตามตรง หากมีผู้ช่วยโค้ชชาวญี่ปุ่น เข้ามาการทำงานก็คงราบรื่น แต่เป้าหมายสำคัญการรับตำแหน่งนี้ ก็คือการพัฒนาผู้ฝึกสอนชาวไทย ตอนนี้เรายังขอยึดรูปแบบเดิม คือการใช้ผู้ช่วยโค้ชชาวไทยทั้งหมด

เกาะติดข่าวกีฬา แค่กดติดตาม ไลน์@ข่าวสดกีฬา ที่นี่
เพิ่มเพื่อน

“ตอนที่ผมพาญี่ปุ่นไปเล่นโอลิมปิกได้ ช่วงนั้นญี่ปุ่นได้พัฒนาโครงสร้างฟุตบอลให้มีความมืออาชีพมากขึ้น และพยายามหาวิธี จนประสบความสำเร็จ และการคุมทีมครั้งนี้ ผมก็รู้สึกแบบนั้น ความท้าทายในครั้งนั้นกับญี่ปุ่น และความท้าทายในครั้งนี้กับทีมชาติไทย ก็ค่อนข้างคล้ายกัน เราเป็นเจ้าภาพ เชื่อว่าเสียงเชียร์จะเป็นแรงผลักดัน มากกว่าแรงกดดัน ในรอบคัดเลือก เราทำผลงานได้ไม่ดี เราเข้ารอบสุดท้ายในฐานะเจ้าภาพ ฉะนั้นตรงนี้ เรายังมีการบ้านที่ต้องปรับปรุงอีกหลายอย่าง” นิชิโนะกล่าว

สำหรับรายชื่อที่ นิชิโนะ เตรียมเรียกมาเสริมทัพชุดยู-23 ปีของไทย ประกอบด้วย ณัฐวุฒิ สุขสุ่ม (เอฟซี โตเกียว), มีโชค มหาศรานุกุล (สุพรรณบุรี เอฟซี), อิรฟาน ดอเลาะ (บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด), สกุลชัย แสงโทโพธิ์ (เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด), อภิสิทธิ์ โสรฎา (บีจี ปทุม ยูไนเต็ด), พัชรพล อินทนี (เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด), สรรเสริญ ลิ้มวัฒนะ (การท่าเรือ เอฟซี), กรวิชญ์ ทะสา (เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด), เควิน ดีรมรัมย์ (การท่าเรือ เอฟซี)

ทั้งนี้ทีมชาติไทย อยู่กลุ่มเอ ร่วมกับ อิรัก, ออสเตรเลีย และบาห์เรน โดยโปรแกรมการแข่งขันของทีมชาติไทย (ฟาดแข้งที่ราชมังคลากีฬาสถาน ทั้ง 3 นัด) มีดังนี้ วันที่ 8 มกราคม พบ บาห์เรน เวลา 20.15 น. / วันที่ 11 มกราคม พบ ออสเตรเลีย เวลา 20.15 น. / วันที่ 14 มกราคม พบ อิรัก เวลา 20.15 น.

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน