บังยี วรวีร์ มะกูดี อดีตนายกสมาคมกีฬาฟุตบอลไทย ยืนยันลงสมัครชิงตำแหน่งประมุขลูกหนังไทยแน่นอน แม้กฎใหม่จะโดนกีดขวาง ชี้ต้องการกลับมาฟื้นฟูวิกฤติลูกหนังแดนสยาม พร้อมประกาศเตือน ‘บิ๊กอ๊อด’ อย่าคิดว่ายิ่งใหญ่จนไม่มีใครสามารถโค่นล้มได้

บังยี นายวรวีร์ มะกูดี อดีตนายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย เตรียมจะกลับมาลงชิงตำแหน่งนายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ อีกครั้ง เนื่องจาก “บิ๊กอ๊อด” พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ คนปัจจุบันกำลังจะทำหน้าที่ครบวาระ 4 ปี โดยชูนโยบายทำให้วงการฟุตบอลไทยกลับมายิ่งใหญ่ พร้อมจะนำ “ซิโก้” เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง อดีตกุนซือทีมชาติไทย ที่เคยฝากผลงานเอาไว้มากมายกลับมาคุมทีมชาติไทยด้วย แต่ทั้งนี้ นายวรวีร์ อาจขาดคุณสมบัติตามข้อบังคับใหม่ที่เขียนขึ้นมา

เกาะติดข่าวกีฬา แค่กดติดตาม ไลน์@ข่าวสดกีฬา ที่นี่
เพิ่มเพื่อน

โดยระเบียบว่าด้วยการเลือกตั้ง นายกสมาคม อุปนายก และกรรมการกลาง ของสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ พ.ศ.2562 หมวด 3 คุณสมบัติผู้มีสิทธิ์ลงสมัครเลือกตั้งนายก ปรากฏว่าข้อ 5.13 ต้องไม่เคยถูกคําส่งลงโทษห้ามยุ่งเกี่ยวกับวงการกีฬาฟุตบอลจากสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ (ฟีฟ่า) สมาพันธ์ฟุตบอลเอเชีย (เอเอฟซี) หรือสหพันธ์ฟุตบอลอาเซียน (เอเอฟเอฟ)

ขณะที่นายวรวีร์ มะกูดี เคยถูกสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ (ฟีฟ่า) ลงโทษแบนห้ามยุ่งเกี่ยวกับวงการฟุตบอลทั้งภายในประเทศ และนอกประเทศ เป็นเวลา 5 ปี กรณีปลอมแปลงเอกสาร รวมถึงการแก้ไขระเบียบข้อบังคับของสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งปะรเทศไทยฯ โดยไม่ผ่านการรับรองจากที่ประชุมสมาคม จนกระทั่งเมื่อวันที่ 16 พ.ค.2562 ฟีฟ่า ได้แจ้งลดโทษให้เหลือเพียง 3 ปี 6 เดือน ทำให้จะพ้นโทษแบนในช่วงเดือนเมษายนนี้

ล่าสุด นายวรวีร์ ให้สัมภาษณ์ว่า เป็นเรื่องจริงที่ตนจะกลับมาชิงเก้าอี้นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลไทย เพราะต้องการกู้วิกฤติบอลไทย ตนทนไม่ได้ที่เห็นผลงานตกต่ำทุกชุด ช่วงไม่อยู่ในตำแหน่งได้ติดตามตลอด ส่วนเรื่องคุณสมบัติว่าจะเป็นอุปสรรคต่อการชิงตำแหน่งหรือไม่นั้น ตนไม่แน่ใจว่าระเบียบที่เขียนไว้ยุติธรรมสำหรับผู้ชิงตำแหน่งหรือไม่ ส่วนตัวคิดว่าไม่ยุติธรรม มั่นใจว่าผลงานต่างๆ ที่ทำมาทั้งบูมบอลลีก และผลงานทีมชาติ จะทำให้ได้รับความไว้วางใจจากสมาชิก

“ส่วนคำถามที่ว่า ที่ผ่านมารู้กระแสของตัวเองบ้างไหมนั้น ผมบอกได้เลยว่าทำไมจะไม่รู้ ผมผ่านประสบการณ์ทั้งดีและร้ายในโลกฟุตบอลมานักต่อนักแล้ว แต่การที่ต้องกลับมาจุดนี้ไม่ใช่เพราะอยากจะมีตำแหน่งใหญ่โตอะไรนักหรอก และไม่มีใครมาคอยแบ็กอัพเป็นเบื้องหลังทั้งนั้น ที่อยากกลับมาอย่างน้อยเพื่อกระตุ้นให้ผู้บริหารบอลไทยยุคนี้ ตระหนักถึงบทบาทหน้าที่ของตัวเองว่าอะไรควร ไม่ควร อะไรต้องทำก่อน อะไรไว้ทีหลัง สิ่งไหนที่เคยดีอยู่แล้วควรจะคงไว้ สิ่งไหนที่ย่ำแย่ต้องปรับปรุงกันไป”

“อย่าคิดว่ายุคนี้ข้าเป็นใหญ่ ไม่มีใครโค่นได้ ไม่มีใครมากล้าแตะ กฎกติการะเบียบต่างๆ จะออกมาเพื่อสกัดใครอย่างไรรู้ๆ กันอยู่ เอาเป็นว่าสาระสำคัญจริงๆ มันไม่ได้อยู่ที่ใครจะมา ใครจะไป ทุกอย่างมันอยู่ที่การบริหารบอลไทยของท่านประสบความสำเร็จ สมใจแฟนฟุตบอลทั้งประเทศหรือเปล่าเท่านั้นเอง”

สำหรับการเลือกตั้งนายกสมาคมกีฬาฟุตบอล จะมีขึ้นในวันที่ 12 ก.พ. ที่โรงแรมอัลมีรอซ ซึ่งจะเปิดรับสมัครผู้ลงชิงตำแหน่ง ระหว่างวันที่ 7-10 ม.ค.

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน