คุณนริส สิงหวังชา ปัจจุบันอายุ 72 ขวบปี เกิดเมื่อต้นปี พ.ศ.2488 มาพร้อมกับ “สันติภาพของโลก” เมื่อกองทัพญี่ปุ่นยอมเซ็นสัญญาสงบศึก สงครามโลกครั้งที่ 2 บนเรือประจันบานมิสซูรี่ของสหรัฐในช่วงกลางปีเดียวกันนั้น
เป็นคนรวย แต่มัธยัสถ์ รู้จักอดออมอย่างประหยัด จึงไม่ชอบให้ใครใช้สรรพนามเรียกท่านว่า “เสี่ย” สมัยยังเด็กเข้าไปดูมวยเวทีราชดำเนิน ในชุดนักเรียน ค่าผ่านประตูยุคนั้น 2-5 บาท (ตัวเองจำแทบไม่ได้แล้ว) ดูมวยไทยทั้ง สมเดช ยนตรกิจ, อดุลย์ ศรีโสธร, ราวี เดชาชัย, สมพงษ์ เจริญเมือง ฯลฯ ล้วนยอดนักชกชื่อก้อง ผ่านหูผ่านตามาหมด
“…โอยมวยไทยสมัยนั้นแตกต่างกับยุคนี้เยอะ สมัยก่อนมวยตัวใหญ่ๆทั้งนั้น น้ำหนักราวๆ 140-150 ปอนด์ อย่าง พายัพ สกุลศึก, ศักดิ์น้อย ส.โกสุม เตะต่อยกันทีสะเทือนเลือนลั่น ผิดกับปัจจุบัน มวยตัวแทบจะเท่าหัวกำปั้น” ท่านว่า
เมื่อครั้ง โผน กิ่งเพชร เอาชนะ ปาสคาล เปเรซ กลายเป็นแชมป์โลกคนแรกของสยามประเทศ ท่านก็ได้ชมเป็นขวัญตา บรรยากาศเรื่องมวยโลก มวยไทยไม่น้อยหน้ากว่าใครในชั่วโมงนี้
ทุกวันนี้เป็นนักธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ มีเนื้อที่กว่า 180 ไร่ย่านมหาชัย สมุทรสาคร ก่อนที่โรงพยาบาล โรงเรียน สาธาณูปโภคมากมาย จะมาขอเจียดตั้งพื้นที่ กลายเป็นชุมชนใหญ่ มีตึกรามคอนโดมากมาย เกิดขึ้นราวดอกเห็ด จนปัจจุบันขยายความเจริญ จนจะกลายเป็นจังหวัดหนึ่งของเพื่อนบ้านเมียนมาร์ไปแล้ว
มีลูกชายคนเล็ก เป็นนักเก็งกำไรเล่นหุ้น กว้านซื้อช้อนมาและขายไป ทำกำไรให้ผู้พ่อมหาศาล ขนาดนั่งเครื่องไปดูมวยโลกเมืองนอก ลูกชายโทรมาบอกท่านตอบรับคำเดียว ก่อนหันมาบอกยิ้มๆ “ผมเทขายหุ้นไปเมื่อกี้แล้ว ได้กำไรเหนาะๆแค่ 50 ล้าน..!! ป้าดโธ่”
ชีวิตนักธุรกิจประสบความสำเร็จถึงขั้น มีคนมาขอเคล็ดลับไปเขียนเป็นตำรา “นริส สิงหวังชา สอนเล่นหุ้น สไตล์ วอร์เรน บัฟเฟตต์” ออกขาย คำนวณรายได้ดูคร่าวๆเอาแล้วกัน ว่าทำไมใครๆถึงแอบเรียกแก เอ๊ยท่านว่า “เสี่ยพันล้าน”
ความเป็นเพื่อนรักเพื่อนเลิฟ กับ “แชแม้”นิวัฒน์ เหล่าสุวรรณวัฒน์ โปรโมเตอร์ใหญ่วงการมวยคู่บารมี เขาทราย แกแล็คซี่ คนดัง ซึ่งชักชวนเข้าสู่วงการมวย แรกๆด้วยการเป็นสปอนเซอร์โฆษณาขายหมู่บ้านย่าน “มหาชัยวิลล่า” ก่อนขึ้นชั้นเป็นผู้จัดการ และโปรโมเตอร์ สนับสนุนจน เด่นเก้าแสน กระทิงแดงยิม กลายเป็นแชมเปี้ยนโลกที่ญี่ปุ่นอย่างเหลือเชื่อ แต่แล้วชีวิตก็เล่นตลก ถูกเพื่อนรักหักเหลี่ยมโหด แย่งชิงแชมป์โลกกันจนกลายเป็นข่าวหน้าหนึ่ง ขึ้นสื่อสิ่งพิมพ์แทบทุกฉบับอยู่หลายวัน
“คนวงการมวยพากันหาว่า..ผมโง่” ด้วยความคิดที่ว่า จากนั้นก็หันเหไปสนับสนุนวงการมวยในต่างแดน โฟกัสไปที่ ฟิลิปปินส์ ดินแดนที่มี”นักมวย”เป็นวัตถุดิบ ส่งออกไปต่อยทั่วโลก เหตุผลก็เพราะพื้นฐานจากความยากจน แต่อาจมีสิทธิ์โด่งดังเหมือน แมนนี่ ปาเกียว
เสี่ยนริส ต้องการเพียงแค่ พะยี่ห้อ “สิงห์วังชา” ฝากแปะไปกับหลังเสื้อคลุม และกางเกงมวยนักชกฟิลิปปินส์ ที่มีโอกาสบินไปประกาศศักดาต่างแดนยังตลาดมวยโลกอย่าง อเมริกา และญี่ปุ่น ด้วยการลงทุนจับมือกับ เร็ก “วากี้” ซาลูด หรือ RWS โปรโมชั่น บอสใหญ่แห่งเกาะเซบู ถือหุ้นส่วนสนับสนุนร่วมกัน ล่าสุดผลักดัน มาร์ลอน ทาปาเลส (Marlon Tapales) ที่เพิ่งไปตกตาชั่ง แบนตั้มเวต องค์กรมวยโลก WBO ที่ญี่ปุ่น แต่ยังไล่ทุบ โชเฮย์ โอโมริ ดิ้นยก 11 ทำให้แชมป์”ว่าง” พร้อมเตรียมขยับขึ้นไปรั้งอันดับ 1 ในพิกัดจูเนียร์เฟเธอร์ 122 ปอนด์ แทนที่รอชิงแชมป์รุ่นใหญ่กว่าตามลำดับต่อไป
ไม่เพียงเท่านั้น เร็วๆนี้กำลังเปิดเจรจา จะผลักดัน รองเบอร์หนึ่ง “เรย์ ลอเรโต้ สิงห์วังชา” (Rey Loreto) มวยสร้างในเครือชาวฟิลิปปินส์ ขึ้นชิงแชมป์มินิมั่มเวต 105 ปอนด์ WBA กับ น็อคเอาท์ ซีพีเฟรชมาร์ท ซึ่งเป็นไฟต์บังคับตามคำสั่งของ สมาคมมวยโลก ในเร็วๆนี้อีกด้วย
ปัจจุบัน นริส คืนสู่วงการมวยเมืองไทยอย่างเต็มตัว แถมยังคืนดีกับ”ซี้เก่า”แชแม้ ชนิดคนมวยด้วยกันยังพากันงุนงง ?!?!
ไม่เพียงเท่านั้น ยังได้รับแต่งตั้งจาก “ชาติซ้าย” สมชาติ เจริญวัชรวิทย์ นายกสมาคมกีฬามวยอาชีพแห่งประเทศไทย หรือ “PAT” ทำหน้าที่ประธานดูแลในส่วนของมวยสากลอาชีพ ซึ่งเกี่ยวเนื่องกับการที่นักมวยไทย เดินทางออกไปต่อยในต่างแดนอย่างถูกต้องตามกฏหมายมวย ซึ่งตราเป็น พ.ร.บ. มาหลายปี แต่ยังไม่มีที่แพร่หลายและรับรู้ในต่างประเทศ ว่า “แพ็ต” คืออะไร ??
ทุกวันนี้ นริส สิงหวังชา ได้รับการต้อนรับจาก คณะกรรมาธิการควบคุมกีฬามวยของญี่ปุ่น หรือ JBC อย่างสมเกียรติ ได้รับหนังสือเชิญเป็นทางการจาก “แก็บ” หรือ คณะกรรมาธิการควบคุมกีฬาของฟิลิปปินส์ “the Games and Amusement Board” (GAB) ให้ไปชมมวยโลกคู่สัญญาณถ่ายทอดสดล่ม ดอนนี่ เนียเตส ชิงแชมป์”ว่าง” ฟลายเวต IBF ชนะคะแนน เอกตะวัน บีทียูเรือไวกิ้ง ที่เกาะเซบู เมื่อเร็วๆนี้ ได้ที่นั่งติดขอบสังเวียนระดับ วีไอพี ได้รับการทักทายจาก “เท็ด เลอร์เนอร์” (Ted Lerner) พิธีกรและผู้เชี่ยวชาญวงการมวยโลกคนดังชาวสหรัฐ ตลอดจนบุคคลสำคัญๆมากมายในวงการมวยระดับอินเตอร์ ที่พากันเซย์-ไฮ เข้ามาขอเช็คแฮนด์ พร้อมเรียกขานด้วยชื่อ “มิสเตอร์ สิงห์วังชา” (นี่คือเรื่องจริง มีภาพฟ้อง)
จนมิอาจปฏิเสธได้ว่า ทุกวันนี้ องค์กรมวยระดับนานาชาติ เริ่มหันมามอง และรู้จักตัวแทนผู้บริหารองค์กรมวยแห่งประเทศไทยเจ้าใหม่กันมากขึ้น แทนที่ “ทีบีซี” (Thailand Boxing Commission) หรือ เวทีมวยราชดำเนินองค์กรเดิมที่เคยปฏิบัติกันมา
ทั้งนี้ก็เพราะ มีส่วนสำคัญมาจากผลงาน ชายร่างเล็กคนที่ชื่อ “นริส สิงหวังชา” ผู้นี้นั่นเอง..!!
