นิชิโนะ หัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมชาติไทย ที่เตรียมพาทัพ “ช้างศึก” ลงสนามรอบ 8 ทีมสุดท้าย ฟุตบอลชิงแชมป์เอเชีย รุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี เผยศึกษาข้อมูลของซาอุดีอาระเบีย มาหมดแล้ว ชี้เห็นจุดแข็งจุดอ่อนเป็นอย่างดี แต่ไม่สนเน้นมุ่งเป้าไปที่นักเตะไทยเล่นตามแผนที่วางไว้เท่านั้น

นิชิโนะ มีส่วนสำคัญในการพา “ช้างศึก” ทีมชาติไทย ผ่านเข้ารอบ 8 ทีมสุดท้าย ฟุตบอลชิงแชมป์เอเชีย รุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ โดยจะเข้าไปพบกับ “เศรษฐีน้ำมัน”ซาอุดีอาระเบีย วันที่ 18 ม.ค. ที่สนามม.ธรรมศาสตร์ เวลา 17.15 น. ซึ่งล่าสุดนำลูกทีมลงสนามฝึกซ้อมที่สนามวินด์มิลล์ สุวรรณภูมิ

เกาะติดข่าวกีฬา แค่กดติดตาม ไลน์@ข่าวสดกีฬา ที่นี่
เพิ่มเพื่อน

หัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมชาติไทย กล่าวว่า “ตอนนี้สภาพทีมไม่มีใครได้รับบาดเจ็บเพิ่มเติม ส่วนรายชื่อ 11 ตัวจริงต้องขอดูระหว่างซ้อมเสียก่อน และเท่าที่ได้ติดตามการแข่งขันของซาอุดีอาระเบีย แตกต่างกับทีมที่เราเคยอุ่นเครื่องด้วยเมื่อช่วงต้นปี เพราะทีมปัจจุบันนี้มีการเล่นที่รวดเร็วมากขึ้น อย่างไรก็ดีไม่ได้ให้ความสำคัญกับการเล่นของซาอุดีอาระเบียมากเท่าไหร่นัก สิ่งสำคัญคือต้องโฟกัสการเล่นของไทยเองว่าจะเล่นได้ตามรูปแบบของเราเองหรือไม่”

“จากการติดตามดูซาอุดีอาระเบียเล่นในฟุตบอลชิงแชมป์เอเชีย มีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดอย่างในเกมแรกกับทีมชาติญี่ปุ่นใช้ระบบกองหลัง 3 คน ขณะที่เกมนัดสุดท้ายเปลี่ยนมาใช้กองหลัง 4 คนและเล่นแบบบอลไดเร็กต์มากกว่าปกติ อย่างที่ผมบอกไปก่อนหน้าคือเราให้นักเตะดูรูปแบบการเล่นของคู่แข่งแล้วแต่ไม่ได้ยึดติดอะไร ต้องโฟกัสที่ตัวเราเองเป็นหลัก และต้องพยายามแสดงให้ซาอุดีอาระเบียเห็นได้ว่าเราเล่นเป็นอย่างไรในตลอด 3 นัดที่ผ่านมา”

“ถ้าจะบอกว่ามีจุดใดบ้างที่เราต้องระวังในการเล่นกับซาอุดีอาระเบีย ต้องบอกว่ามีเยอะมากที่ต้องระวังแต่คงไม่สามารถบอกตรงนี้ได้ว่าเราต้องระวังอะไรบ้าง เราหวังแค่เพียงว่าให้นักเตะของเรามีสมาธิกับรูปแบบการเล่นของเราเองอยู่ตลอดเวลา”

“ถึงตอนนี้พวกเราทุกคนรวมถึงนักเตะมีความมั่นใจมากขึ้น และร่วมใจกันสู้จนสามารถผ่านเข้ารอบ 8 ทีมได้ จากนี้ขอให้ทุกคนร่วมกันให้กำลังใจพวกเรากับการหวังเข้าสู่รอบรองชนะเลิศ”

ด้านศุภชัย ใจเด็ด กองหน้าจาก บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ที่มีอาการบาดเจ็บรบกวนจากเกมที่พ่าย ออสเตรเลีย 1-2 ในนัดที่ 2 ของรอบแบ่งกลุ่ม ทำให้ต้องเป็นตัวสำรองในเกมสุดท้ายที่เสมอกับอิรัก ยืนยันว่าตอนนี้หายจากอาการบาดเจ็บ และพร้อมลงช่วยทีมพบซาอุดีอาระเบียแน่นอน

“อาการบาดเจ็บตอนนี้ไม่มี การได้พักถึง 4 วัน ผมเชื่อว่าช่วยให้ทีมของเราสดมากขึ้น สำหรับเกมนัดต่อไป ที่จะพบกับซาอุดีอาระเบีย เกมนี้เป็นเกมที่สำคัญ เพราะฉะนั้นเราต้องมีสมาธิ และพยายามช่วยเหลือกันในทุกสถานการณ์”

“ที่ขาดไม่ได้เลยคือแฟนบอล หวังว่าเกมนัดนี้ เราจะสร้างประวัติศาสตร์ด้วยกัน ตัวนักฟุตบอลตอนนี้พยายามทำเต็มที่ เพื่อทำให้ทุกคนมีความสุขอีกครั้ง”

ขณะที่สถิติการเจอกันของทั้งสองทีมในระดับยู 23 ปรากฎว่าเคยดวลกันมาแล้ว 2 นัด ทีมชาติไทย เสมอ 1 นัด และแพ้ 1 นัด ประกอบด้วย ฟุตบอล เอเอฟซี ยู-23 ชิงแชมป์เอเชีย รอบแบ่งกลุ่ม วันที่ 13 มกราคม 2016 ไทย เสมอ ซาอุดีอาระเบีย 1-1 และฟุตบอลนัดอุ่นเครื่อง เมื่อวันที่ 3 ม.ค. ไทย แพ้ ซาอุดีอาระเบีย 0-1

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน