เลขาบอลไทย อย่าง พาทิศ ศุภะพงษ์ ยืนยันแม้ว่ากทม. เตรียมยื่นเรื่องขอปลดล็อกสถานที่ให้บริการกลับมาทำการได้แล้ว แต่ฟุตบอลอยู่ในกลุ่มเสี่ยงยากจะเตะในเร็ววัน
เลขาบอลไทย – จากสถานการณ์การแพร่กระจายของเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่ระบาดอยู่ทั่วโลก และในประเทศไทย ทำให้กิจกรรมด้านกีฬาต้องถูกงด และยกเลิกจำนวนมารวมถึงฟุตบอลลีกอาชีพของประเทศไทย ที่วงกำหนดจะกลับมาแข่งขันอีกครั้งในเดือนก.ย. และแข่งแบบข้ามปีไปจบฤดูกาลในเดือนพ.ค.2564 โดยไทยลีก 1 และไทยลีก 2 จะนับเกมต่อเนื่องเป็นแมตช์ที่ 5 ส่วนไทยลีก 3 และไทยลีก 4 ที่ยุบรวมมาเป็นลีกเดียวกันให้ยกเลิกผลแข่งในช่วงต้นฤดูกาล และเริ่มต้นนับหนึ่งใหม่แทน
กดติดตามไลน์ข่าวสด official account ได้ที่นี่
ล่าสุดจากการที่คณะรัฐมนตรีได้ขยาย พ.ร.ก.ฉุกเฉิน เพิ่มไปอีก 1 เดือน หรือสิ้นสุดวันที่ 31 พ.ค. แต่ที่มีแนวโน้มที่จะปลดล็อกสถานที่ต่างๆ ให้กลับมาดำเนินกิจกรรมได้ตามปกติ ในส่วนของสนามกีฬามีแนวโน้มว่าอาจจะสั่งปลดล็อคในช่วงกลางเดือนมิ.ย. เนื่องจากสถานการณ์การติดเชื้อใหม่มีจำนวนลดลงอย่างต่อเนื่อง ซึ่งคนวงการฟุตบอลไทยต่างเห็นว่า แนวโน้มที่ฟุตบอลลีกอาชีพไทยอาจจะกลับมาเตะเร็วขึ้นกว่ากำหนดเดิมที่ปักธงไว้ในเดือนก.ย. หรือไม่
เกี่ยวกับเรื่องนี้ นายพาทิศ ศุภะพงษ์ รักษาการเลขาธิการสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ เผยว่าแม้ในกทม. เตรียมจะชงเรื่องให้สถานที่บริการ รวมถึงสนามกีฬาหลายชนิดกลับมาเปิดใช้งานได้ แต่ส่วนใหญ่เป็นกีฬาที่ต้องอยู่ห่างกัน ขณะที่กีฬาฟุตบอลไม่อยู่ในข่ายที่กทม. จะขอให้รัฐบาลอนุมัติกลับมาเปิดทำการ ดังนั้นคงเป็นไปได้ยากที่ฟุตบอลลีกจะกลับมาลงสนามก่อนเดือนก.ย. ตามแผนที่วางเอาไว้
“เรื่องที่มีมติไปแล้วว่าจะกลับมาเตะเดือนก.ย. เราคงไม่สามารถเปลี่ยนไปเปลี่ยนมาได้ เพราะสมาคมฟุตบอล ได้เสนอตัวเลือกให้กับรัฐบาลไปแล้วว่าจะให้เตะตั้งแต่เดือนก.ค. หรือส.ค. แต่จากสถานการณ์ทั้งหมด ส่วนใหญ่มองว่าก่อนจะกลับมาเตะต้องมีเวลาให้แต่ละสโมสรเตรียมสภาพความพร้อมนักกีฬาอีกอย่างน้อย 4-6 สัปดาห์อยู่ดี ดังนั้นเป้าหมายเดือนกันยายนน่าจะเป็นไปได้มากที่สุด”
“หากดูจากการจัดการของกลุ่มความเสี่ยง ซึ่งสนามกีฬา และการแข่งขันกีฬา คือกลุ่มที่มีความเสี่ยงสูง ที่อยู่ในส่วนของสีแดง ซึ่งเราคงจะต้องทำให้แน่ใจว่าจะสามารถควบคุมสถานการณ์ได้จริงๆ ดังนั้นการคาดหวังให้ฟุตบอลลีกกลับมาลงสนามก่อนเดือนก.ย.คงเป็นไปไม่ได้”
