บิ๊กอ๊อด โยนรัฐกำหนดตรวจโควิดในนักเตะหรือไม่ แต่โมเดลลีกเมืองเบียร์นั้นใช้งบสูง เพราะตรวจทั้งก่อนหลังเตะทุกอาทิตย์ รับคิดหนักถ้าต้องตรวจลักษณะนี้ เนื่องจาก ส.บอล ก็ไม่มีเงิน

กดติดตามไลน์ข่าวสด official account ได้ที่นี่
เพิ่มเพื่อน

หลังจากที่ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019(โควิด-19) หรือ ศบค. ได้มีการพิจารณาผ่อนคลายในเฟสที่ 3 ซึ่งมีส่วนที่เกี่ยวข้องกับกีฬา คือการปลดล็อคสนามกีฬาฟุตบอล เพื่อออกกำลังกายหรือฝึกซ้อม โดยไม่มีการแข่งขัน และมีผู้ร่วมกิจกรรมไม่เกิน 10 คน (ไม่นับผู้เล่น) ขณะที่ “ค้างคาวไฟ” สุโขทัย เอฟซี ได้ขอให้สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ช่วยเหลือหากต้องมีมาตรการตรวจหาเชื้อโควิด-19 ในนักเตะ

ผู้สื่อข่าวสอบถาม “บิ๊กอ๊อด” พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง นายกสมาคมฯ ถึงแนวทางการตรวจโควิดในนักเตะว่า ต้องรอทางภาครัฐกำหนดมาตรการออกมาว่าสโมสรต้องเตรียมตัวทำอะไรบ้าง ทางเราได้ยื่นหนังสือสอบถามไปแล้วเพื่อขอขั้นตอนและขอให้แจ้งล่วงหน้า 2 เดือน แต่สำหรับการตรวจหาโควิดในนักเตะนั้น จากการศึกษาของบุนเดสลีกา พบว่าให้นักเตะตรวจก่อนแข่งหลังแข่งทุกสัปดาห์ ซึ่งการที่เขาสามารถทำแบบนี้ได้เพราะมีเงินสนับสนุนเป็นหลักพันล้านบาท

“แต่สำหรับของไทยลีก เฉพาะลีกสูงสุดได้รับเงินจากสมาคมฯ 20 ล้าน รวมกับสปอนเซอร์ต่างๆ ศักยภาพก็ยังแตกต่างกัน เพราะฉะนั้น การที่บางคนเอาไทยลีกไปเปรียบเทียบกับลีกเยอรมันที่สามารถจัดแข่งได้แล้วนั้น ก็อยากให้รับทราบข้อมูลตรงนี้ด้วย อย่างไรก็ตาม ถ้าหากต้องมีการตรวจหาเชื้อโควิดในแบบดังกล่าว ก็เป็นเรื่องที่ต้องคิดหนักเพราะ ส.บอล ก็ไม่มีเงินเช่นกัน”

พล.ต.อ.สมยศ กล่าวต่อว่า สำหรับการตั้งคณะกรรมการเพื่อร่างระเบียบก่อนกลับมาฟาดแข้งนั้น เนื่องจากว่าเราไม่มีระเบียบมารองรับการแข่งขันในห้วงเวลาการแพร่ระบาดของโควิด-19 เรามีแต่ระเบียบในช่วงสถานการณ์ปกติ ดังนั้น จึงต้องตั้งคณะกรรมการเพื่อมาออกเป็นข้อปฏิบัติให้กับสโมสร ซึ่งต้องสอดคล้องกับมาตรการของสาธารณสุข อย่างเช่น ก่อนเข้าสนามต้องมีจุดตรวจวัดไข้ จุดกดเจลล้างมือ จำกัดจำนวนคนภายในสนาม ห้ามมีการรวมกลุ่มของแฟนบอลนอกสนาม หากสโมสรใดไม่ปฏิบัติตาม ต้องมีบทลงโทษ

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน