ไทย เจ้าภาพจัดการแข่งขันเอเชี่ยนอินดอร์และมาร์เชียลอาร์ทเกมส์ ครั้งที่ 6 เตรียมทุมงบประมาณมากกว่า 1.5 พันล้าน เนรมิตการแข่งขัน
กดติดตามไลน์ข่าวสด official account ได้ที่นี่
นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เป็นประธานในการประชุมการเตรียมความพร้อมเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬาเอเชี่ยนอินดอร์และมาร์เชียลอาร์ทเกมส์ ครั้งที่ 6 ที่อาคารเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบพระชนมพรรษา การกีฬาแห่งประเทศไทย เมื่อวันที่ 15 มิถุนายน
ในที่ประชุมนั้น นายชัยภักดิ์ ศิริวัฒน์ รองประธานสภาโอลิมปิกแห่งเอเชีย กำกับดูแลการแข่งขัน กีฬาเอเชียน อินดอร์เกมส์ ครั้งที่ 6 ได้เผยรายละเอียดในการจัดการแข่งขัน โดยล่าสุดได้มีการสรุปจำนวนชนิดกีฬาอย่างเป็นทางการ คือมีการเพิ่มกีฬายิงปืนเข้ามาเป็นกีฬาสุดท้าย รวม 29 ชนิดกีฬา กีฬาสาธิตอีก 2 ชนิดกีฬา ชิงชัยกันทั้งสิ้น 29 เหรียญทอง แข่งขันกันระหว่างวันที่ 21-30 พฤษภาคม แบ่งออกเป็นที่กรุงเทพ 8 สนาม 15 ชนิดกีฬา และชลบุรี 6 สนาม 16 ชนิดกีฬา มีการคาดการณ์ว่าจะมีนักกีฬาทั้งสิ้น 3000 คนขึ้นไป ส่วนประเทศไทยจากที่สมาคมกีฬาได้ตั้งความหวังเอาไว้ คาดการณ์ที่ 30-33 เหรียญทอง และจบอันดับ 3 ของตาราง
จากนั้นในที่ประชุมได้มีการฟังความเห็นจากผู้แทนกระทรวงสาธารณสุข และกรมอนามัย เกี่ยวกับเรื่องของมาตรการป้องกันไวรัสโควิด-19 โดยมีการเสนอให้มีการเตรียมพร้อมในหลายๆ รูปแบบ ทั้งการจัดการแข่งขันแบบมีผู้ชม หรือจัดการแข่งขันแบบปิดเป็นต้น
โดยสถานการณ์ของโควิด-19 ตอนนี้ทำให้ไม่สามารถสรุปอะไรได้ เนื่องจากว่าไม่มั่นใจว่าเมื่อถึงเวลาการแข่งขัน แต่ละประเทศจะเป็นอย่างไร ซึ่งเชื่อว่าประเทศได้ที่ยังเจอกับปัญหาของโควิด-19 มากๆ ก็คงจะไม่เดินทางมาแข่งขันอย่างแน่นอน ขณะเดียวกัน นายพิพัฒน์ ได้เสนอแนวทางให้ประสานกับนักกีฬาที่จะมาแข่งขัน ให้เดินทางมาก่อน 14 วัน เพื่อฝึกซ้อมและกักตัวไปด้วย จะได้การันตีว่านักกีฬาไม่มีเชื้อไวรัสโควิด-19 และความสบายใจของนักกีฬา
ภายหลังการประชุม ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า การประชุมในวันนี้สาระสำคัญอยู่ที่เรื่องของโครงสร้างต่างๆ ในการทำงาน โดยได้มีการเพิ่มฝ่ายสาธารณสุขเพิ่มเข้ามา เนื่องจากว่าสถานการณ์ของโควิด-19 และทางคณะรัฐมนตรีเองก็ต้องการดูมาตรการรับรองสถานการณ์โควิด-19 ด้วยเช่นกัน ว่าจะต้องเตรียมตัวอย่างไรบ้าง
ในที่ประชุมได้มีมติให้เตรียมงานกันเอาไว้ 2 รูปแบบ รูปแบบแรกคือในกรณีที่โควิด-19 ไม่เป็นปัญหาแล้ว กับอีกกรณีหนึ่งคือสถานการณ์ของโควิด-19 ยังคงเป็นปัญหาอยู่ ดังนั้นต้องเตรียมเรื่องนี้เอาไว้ อาจจะต้องจำกัดงบประมาณบางส่วนให้น้อยที่สุด เพื่อนำเงินมาใช้การเตรียมการด้านสาธารณสุขแทน เพราะแผนที่วางไว้อาจจะต้องให้นักกีฬาเดินทางมาก่อน 14 วัน ซึ่งจะต้องเพิ่มงบประมาณด้านนี้มา
ดร.ก้องศักด กล่าวต่อว่า ปัญหาที่เจอตอนนี้คือเรื่องของระยะเวลาที่กระชั้นมากๆ เรามีเวลาเพียง 11 เดือนเท่านั้นในการเตรียมตัวซึ่งมีเรื่องของสนามกีฬาที่ต้องซ่อมแซม รวมถึงในช่วง 11 เดือนนี้ก็ไม่รู้ว่าโควิด-19 จะเป็นอย่างไรด้วย จะมีวัคซีนไหม นักกีฬาจะเดินทางมาได้หรือไม่ ดังนั้นต้องแบ่งคณะกรรมการหลายฝ่าย เพื่อช่วยกันทำงานให้เร็วที่สุด
ผู้ว่าการกกท. กล่าวปิดท้ายว่า ในส่วนของงบประมาณที่เตรียมไว้สำหรับการจัดการแข่งขันนั้นอยู่ที่ราวๆ 1,580 ล้านบาท ทั้งในส่วนของการก่อสร้าง ซ่อมแซม ต่างๆ อย่างไรก็ตามทางสำนักงบประมาณและสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ได้แนะนำแนวทางในการจัดงบประมาณมา และจะมีการสรุปตัวเลขกันใหม่อีกครั้ง ซึ่งจะพยายามลดงบประมาณลงให้น้อยกว่านี้
