“เสี่ยโบ๊ท” ณัฐเดช วชิรรัตนวงศ์ พร้อม “มิตร นคร” และ กิ่งทอง นาคสินธุ์ รวมสามโปรโมเตอร์ใหญ่เปิดหมวกอำลา เวทีมวยราชดำเนิน แฉละเอียดความอึดอัดคับใจ เตรียมขยับสู่เส้นทางใหม่ จัดมวยลงวิกออนไลน์ ดูไฟล์สดผ่านโลกโซเชียล ไม่ให้นักมวยอดตาย แย้มอนาคต พร้อมร่วมมือ ซีพีเอฟ บริหาร วิกลุมพินี !!

เมื่อวันที่ 24 มิ.ย.63 ที่ เพชรยินดี อะคาเดมี่ มีการเปิดตัวแถลงข่าว โดย 3 โปรโมเตอร์ใหญ่เวทีมวยราชดำเนิน ได้แก่ “เสี่ยโบ๊ท” ณัฐเดช วชิรรัตนวงศ์ จากศึกเพชรยินดี ,”มิตร นคร” นายสุเมธ ซื่อสัตตบงกช ศึกวัน มิตรชัย และ นายกิ่งทอง นาคสินธุ์ จากศึกวันกิ่งทอง ร่วมกันแถลงข่าวขออำลาจากการทำหน้าที่โปรโมเตอร์เวทีมวยมาตรฐานราชดำเนิน ทั้งนี้จะมีการยื่นหนังสือขอลาออกอย่างเป็นทางการในลำดับต่อไป

“เสี่ยโบ๊ท” เผยต่อหน้าสื่อมวลชนที่มาทำข่าวคับคั่งว่า ตนในฐานะโปรโมเตอร์ที่อายุน้อยที่สุดของเมืองไทย เมื่อเข้ามารับหน้าที่ครั้งแรกด้วยวัยเพียง 25 ปี ในปี พ.ศ.2556 จนถึงปัจจุบัน ยอมรับว่ามีความเคารพนับถือ นายสนามมวยราชดำเนิน (จิต เชี่ยวสกุล) คนปัจจุบันด้วยดีเสมอมา แต่ด้วยสภาพสถานการณ์และวิกฤตในยามนี้ เป็นที่ทราบกันดีสำหรับในวงการมวยว่า อยู่ในช่วงคับขัน ซึ่งเวลามีปัญหาใดๆโปรโมเตอร์ของเวทีทั้ง 13 คนก็มักจะหารือกับตนและให้ตนเป็นกระบอกเสียงแทนเพื่อหารือกับทางเวที ไม่ว่าจะเรื่องขอลดค่าเช่าสนามมวย หรือปัญหาต่างๆ จนนำมาซึ่งความขัดแย้งและไม่ชอบขี้หน้าตนขึ้นมาจากทางคณะผู้บริหาร

“ชนวนเหตุเกิดขึ้นเมื่อ ทางเวทีมีการเรียกโปรโมเตอร์หลายท่านหารือครั้งแรกที่ซอยราชครู แต่ไม่เรียกผมเข้าร่วมประชุมด้วย กระทั่งก่อนช่วงวิกฤตโควิด เมื่อวันที่ 13 มี.ค. โปรโมเตอร์ทุกคนโทรหาผม ปรึกษาว่าควรจะต้องมีการคุยกับทางสนามมวย เรื่องงดการจัด หรือไม่ก็ต้องลดค่าเช่า เพราะไม่เช่นนั้น บรรดาโปรโมเตอร์คงทนต่อการขาดทุนในการจัดต่อไปไม่ไหวแน่ เรื่องดังกล่าวเมื่อผมโพสต์ลงในเฟซบุ๊กส่วนตัวเพียงวันเดียว ทางนายสนามมวยก็ส่งไลน์มาหา ด้วยข้อความด่าทอ พร้อมบล๊อกข้อความของผมตั้งแต่นั้นมา”

“ผมจึงอยากถามว่า นี่คือสิ่งที่สนามมวยควรจะปฏิบัติกับโปรโมเตอร์ใช่หรือไม่ ?? เรื่องข้อความด่าผมในไลน์นั้นอย่าให้พูดเลยขอข้ามๆไป แต่หลังจากนั้นนายสนามบล๊อกไอจีผมหมดทุกช่องทาง ผมจึงอยากถามว่า ผมระลึกอยู่เสมอว่า โปรโมเตอร์ไม่ใช่ลูกน้องนายสนามมวย แต่เป็นพาร์ทเนอร์ เป็นคู่ร่วมธุรกิจกัน ไม่อย่างนั้นโปรโมเตอร์อย่างผมจะรู้สึกไร้เกียรติ ไร้คุณค่าในตัวเองอย่างมาก”

“เมื่อผมกลับบ้านในเย็นวันนั้น ผมจึงถามพ่อ (เสี่ยเน้า วิรัตน์ วชิรรัตนวงศ์) ถึงการตัดสินใจที่จะอำลาว่า ผมจะลาออกจากเวทีราชดำเนินแล้วนะ เพราะผมทนไม่ได้ ขนาดพ่อแม่ผมยังไม่เคยด่าผมแบบนี้เลย ผมจึงปรึกษาอามิตร (มิตร นคร) ซึ่งท่านก็เห็นด้วย แต่พ่อของผม (เสี่ยเน้า) ย้อนถามกลับว่า ถ้าผมลาออกแล้ว นักมวยในเครือเพชรยินดีของเราอีกพันกว่าชีวิต จะอยู่กันอย่างไร..??”

“ซึ่งผมก็อดทนมาตลอด จนกระทั่งต่อมาเมื่อ ทางนายสนามเรียกโปรโมเตอร์ท่านหนึ่งซึ่งไม่ขอเอ่ยนามไปหารือ ว่าจะมีการปลดโปรโมเตอร์คนอื่นออกทั้งหมด แล้วให้โปรโมเตอร์ท่านนั้นเพียงคนเดียวจัดมวยไลฟ์สดผ่านอ่อนไลน์ดีหรือไม่ เมื่อข่าวดังกล่าวรั่วออกไปเพียงข้ามวัน จึงเกิดข่าวจากทางเวทีราชดำเนินแจ้งไปยังสื่อว่า ข่าวลือดังกล่าวไม่เป็นความจริง แต่มันเป็นชนวนเหตุนำมาสู่การตัดสินใจในของผมครั้งนี้”

“ผมพร้อม อามิตร นคร และ อากิ่งทอง ทั้งสองโปรโมเตอร์ใหญ่ จึงขอประกาศอำลาจากการทำหน้าที่โปรโมเตอร์เวทีราชดำเนิน ส่วนหนังสือลาออกอย่างเป็นทางการนั้นจะยื่นในวันต่อไป เนื่องจากตอนนี้เวทียังไม่เปิดทำการ พร้อมกันนี้เราทั้งสามขอยืนยันยินดีให้ความร่วมมือหากทางเวทีราชดำเนินจะขอความช่วยเหลือสนับสนุนในโอกาสต่อไป” เสี่ยโบ๊ทกล่าว

ส่วนอนาคตหลัง 3 โปรโมเตอร์ใหญ่ลาออกจากราชดำเนินแล้ว มีการวางแผนการดำเนินแนวทางอย่างไรในอนาคต ทาง “มิตร นคร” โปรโมเตอร์ศึกวัน มิตรชัย กล่าวว่า ตนเคยทดลองจัดมวยที่ภูเก็ตมาแล้วก่อนหน้านี้ ด้วยการถ่ายทอดสดทางออนไลน์ แต่ขณะนั้นยังติดที่เป็นโปรโมเตอร์หลักอยู่ที่ราชดำเนิน จากนั้นไปการทำงานคงอิสระขึ้นมีแผนที่จะดึงพรรคพวกมาร่วมกันจัดมวย

 

ขณะเดียวกัน ทางเพชรยินดี ก็ยังมีเวทีมวยจัดศึกมวยทรู ถ่ายทอดสด ทุกวันศุกร์เป็นประจำ ซึ่งจะกลับมาเริ่มขึ้นวันศุกร์ที่ 10 ก.ค.นี้ หากรัฐบาลปลดล็อกอนุญาต นอกจากนั้นเราก็จะมีการจัดมวยอีกเวทีเป็นประจำทุกวันพฤหัสฯ ขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างการเจรจากับนายสนามมวยว่า จะเป็นที่ เวิลด์ สยาม สเตเดี้ยม ตลาดตะวันนา ย่านบางกะปิ หรืออาจเป็น เวทีมวยรังสิต ปทุมธานี บทสรุปจะแจ้งอีกครั้ง ขณะที่โปรโมเตอร์กิ่งทอง เปิดใจ ตนต้องขอบคุณราชดำเนินที่ไว้วางใจให้ทำหน้าที่มานาน แต่ด้วยสถานการณ์ความคับขันในปัจจุบัน จึงขอตัดสินใจเพื่ออนาคตต่อไป

มีคำถามสื่อถึงเสี่ยโบ๊ท กรณีข่าวลือ หากมีการทาบทามจากเอกชนยักษ์ใหญ่อย่าง ซีพีเอฟ ถ้าได้เข้าไปเทคโอเวอร์ เวทีมวยลุมพินี จริง บริษัทเพชรยินดี ยินดีจะร่วมงานหรือไม่ ทางเสี่ยโบ๊ท ยืนยันชัดเจนว่า

“หากมีการทาบทามเรื่องนี้จริง ผมต้องขอพิจารณาในรายละเอียด เพราะการทำมวยไม่ได้หวังเพื่อผลประโยชน์ของเพชรยินดี หรือเอกชนใดเป็นสำคัญ แต่ขอคำนึงถึงสิ่งที่จะก่อให้เกิดประโยชน์ต่อคนวงการมวย นักมวย อย่างแท้จริง ผมก็พร้อมยินดีจะร่วมงานอย่างเต็มที่” เสี่ยโบ๊ท บอสใหญ่เพชรยินดี กล่าว

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน