เสธ.หมึก เตรียมประสานกับ ศบค.-สธ. หาทางออกนักปั่นร่วม ทัวร์ ออฟ ไทยแลนด์

 

“พลเอกเดชา” ยืนยันสมาคมกีฬาจักรยานฯ จะรักษามาตรฐานการแข่งขันศึกสองล้อทางไกล “ทัวร์ ออฟ ไทยแลนด์ 2020” ในระดับ 2.1 เอาไว้ให้ได้ แม้สหพันธ์จักรยานนานาชาติ (ยูซีไอ) ไม่ผ่อนปรนให้เชิญทีมระดับสโมสรเข้าแข่งขัน ตามที่สมาคมฯ ทำหนังสือร้องขอไป โดยเตรียมเร่งประสาน ศบค. และกระทรวงสาธารณสุข หารือในเรื่องข้อจำกัดเรื่องการเดินทางเข้าประเทศไทยของนักปั่นชาวต่างชาติ

 

 

“เสธ.หมึก” พลเอกเดชา เหมกระศรี นายกสมาคมกีฬาจักรยานแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ เปิดเผยว่า ตามที่สมาคมกีฬาจักรยานฯ ในฐานะผู้จัดการแข่งขันจักรยานทางไกลนานาชาติ “ทัวร์ ออฟ ไทยแลนด์” และ “วีเมนส์ ทัวร์ ออฟ ไทยแลนด์” รายการ “The Princess Maha Chakri Sirindhorn’s Cup Tour of Thailand 2020” ชิงถ้วยพระราชทาน สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ที่เลื่อนการแข่งขันจากเดิมกำหนดไว้เมื่อวันที่ 1-10 เมษายน มาเป็นระหว่างวันที่ 6-16 ตุลาคม ศกนี้ ได้ส่งเรื่องขอผ่อนผันระดับทีมที่เข้าร่วมการแข่งขันจักรยานทางไกล “ทัวร์ ออฟ ไทยแลนด์” ในประเภททีมชาย ที่มีข้อกำหนดว่าการแข่งขันระดับ 2.1 ไม่อนุญาตให้ทีมระดับสโมสรเข้าร่วมการแข่งขัน ไปยังสหพันธ์จักรยานนานาชาติ (ยูซีไอ) เนื่องจากยังคงมีปัญหาเรื่องข้อจำกัดในการเดินทางเข้าประเทศ จากมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19

 

 

พลเอกเดชา กล่าวว่า ทาง ยูซีไอ ได้ตอบมายังสมาคมฯ แล้ว ยืนยันว่าไม่สามารถผ่อนปรนเกณฑ์ดังกล่าวที่ระบุไว้ในกติกาการแข่งขันของสหพันธ์ได้ ฉะนั้นในการแข่งขันจักรยานทางไกล “ทัวร์ ออฟ ไทยแลนด์ 2020” ในประเภททีมชาย หากจะยังคงรักษาระดับการแข่งขัน 2.1 เอาไว้ ก็ต้องมีทีมอาชีพจดทะเบียนกับ ยูซีไอ และทีมชาติเข้าร่วมการแข่งขันเท่านั้น

 

 

“ในประเด็นดังกล่าว ส่งผลให้สมาคมกีฬาจักรยานฯ ต้องเร่งประสานกับทั้งศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. และกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ในเรื่องข้อจำกัดเรื่องการเดินทางเข้าประเทศไทยของชาวต่างชาติ ซึ่งในปัจจุบันมีการผ่อนผันรอบแรกด้วยเงื่อนไข 11 ข้อแรกของ ศบค. แต่ก็ยังไม่ครอบคลุมถึงการเข้ามาในประเทศไทยเพื่อการท่องเที่ยว หรือเพื่อภารกิจเฉพาะด้านในระยะสั้น ว่าแนวโน้มในการผ่อนผันระยะต่อ ๆ ไปจะเป็นอย่างไร มีกรอบเวลาหรือเงื่อนไขอย่างไร ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเอกสารหรือกระบวนการกักตัว ซึ่งล้วนแล้วก็จะมีผลกระทบต่อการเชิญทีมรวมถึงการตัดสินใจเข้าร่วมการแข่งขันของแต่ละทีมทั้งสิ้น” นายกสมาคมกีฬาจักรยานฯ กล่าว

 

 

พลเอกเดชา กล่าวอีกว่า สมาคมกีฬาจักรยานฯ ยังคงตั้งเป้าหมายแรกในการรักษามาตรฐานการแข่งขันระดับ 2.1 ตามระเบียบ ยูซีไอ เอาไว้ให้ได้ แม้ว่า ยูซีไอ จะยืนยันว่าหากไม่สามารถดำเนินการได้ จะไม่ส่งผลต่อการลงทะเบียนการแข่งขันในปีต่อ ๆไป และจะไม่มีบทลงโทษใด ๆสำหรับผู้จัดการแข่งขัน เนื่องจาก ยูซีไอ เข้าใจดีถึงปัญหาการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่ส่งผลกระทบไปถึงทุกภาคส่วนของโลก ไม่เพียงเฉพาะการแข่งขันกีฬาเท่านั้น

 

 

“สมาคมกีฬาจักรยานแห่งประเทศไทยฯ เล็งเห็นว่ามาตรฐานที่สูงกว่าของระดับ 2.1 ไม่เพียงแต่จะส่งผลดีต่อการพัฒนานักปั่นไทยที่ปัจจุบันยกระดับมาตรฐานสูงขึ้นมาจนเป็นที่จับตามองของวงการสองล้อโลกแต่เพียงเท่านั้น แต่ก็ยังจะช่วยในการปลุกความคึกคักของกีฬาสองล้อในภูมิภาคเอเชีย โดยเฉพาะในภูมิภาคอาเซียน ที่หลายชาติ ไม่ว่าจะเป็น มาเลเซีย อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ ต่างก็เผชิญปัญหารุนแรงจากการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 จนต้องตัดสินใจยกเลิกการแข่งขันจักรยานระดับนานาชาติไปแทบทุกรายการในรอบปี 2563” พลเอกเดชา กล่าว

 

 

พลเอกเดชา กล่าวเสริมอีกว่า สำหรับเส้นทางการแข่งขันจักรยานทางไกลนานาชาติ “ทัวร์ ออฟ ไทยแลนด์ 2020” และ “วีเมนส์ ทัวร์ ออฟ ไทยแลนด์ 2020” รายการ “The Princess Maha Chakri Sirindhorn’s Cup Tour of Thailand 2020” ชิงถ้วยพระราชทาน สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ที่จะมีขึ้นระหว่างวันที่ 6-16 ตุลาคม ศกนี้ ยังคงเป็นเส้นทางเดิม คือ การแข่งขันประเภททีมชาย “ทัวร์ ออฟ ไทยแลนด์ 2020” แข่งขันระหว่างวันที่ 6-11 ตุลาคม เส้นทางเริ่มต้นจาก จ.สมุทรสงคราม-เพชรบุรี-ประจวบคีรีขันธ์-ชุมพร-ระนอง ไปสิ้นสุดที่ จ.สุราษฎร์ธานี ระยะทางรวม 1,045 กิโลเมตร ส่วนทัวร์ผู้หญิง “วีเมนส์ ทัวร์ ออฟ ไทยแลนด์ 2020” แข่งขันระหว่างวันที่ 14-16 ตุลาคม เส้นทางภายใน จ.สุราษฎร์ธานี ระยะทางรวม 261.90 กิโลเมตร รวมระยะทางทั้งสิ้น 1,306.90 กิโลเมตร ทั้งนี้ สหพันธ์จักรยานนานาชาติ (ยูซีไอ) ได้บรรจุการแข่งขันจักรยานทางไกลนานาชาติ “ทัวร์ ออฟ ไทยแลนด์” ลงในปฏิทินการแข่งขัน ประจำปี 2020 ของ ยูซีไอ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว.

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน